ศักราช
อาจารย์ ศักราช ลุงปั๋น ฟ้าขาว

เมื่อคนเราอยากจะเป็น อยากจะได้


เราถูกกำหนดจากระบบ จากกระบวนการ จากการบริโภคของสังคม(กระแส อำนาจ เงินตรา หน้าตา ความจริง จอมปลอมฯลฯ) และตราบที่คนเราอยากจะเป็น อยากจะได้

 ผมเคยตั้งใจและหวังไว้ว่า...อยากเป็นศิลปินชื่อดัง แต่ไม่ได้เป็น แต่ไปเป็นครู เพราะทางบ้านให้เรียนครู  พอเรียนครูตั้งใจไว้จะเป็นครูบนดอยที่แม่ฮ่องสอน เพราะชอบความสงบเงียบและธรรมชาติ แต่ไปสอบครูมัธยมได้ที่บ้าน

          พอเป็นครูอยู่ที่บ้าน สอนไปสอนมาเบื่อระบบบริหารในโรงเรียน เลยอยากเป็นผู้บริหารโรงเรียน แต่ไม่ได้เป็นเพราะกรมสามัญฯ สมัยนั้นไม่เปิดโอกาสให้สอบ ได้แต่คัดเลือก (ไม่มีโอกาสได้คัด)เลยไปสอบนักวิชาการศึกษาพอสอบได้ อยากจะเป็นศึกษาธิการอำเภอ อยากเป็นผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัด อยากเป็นศึกษาธิการจังหวัด 

          มีทั้งที่สำเร็จหรือได้เป็น และล้มเหลว

          ในช่วงที่เป็นตำแหน่งต่าง ๆ มีทั้งชื่นมื่น เพราะถูกทำให้สำเร็จงานด้วยทีมงาน ด้วยพลังของคน ของชาวบ้าน ของพระ ของเจ้านายฯลฯ มีทั้งปวดร้าว เพราะถูกด่าที่ไปทำให้คนอื่นเปลี่ยนสถานภาพหรือขาดโอกาสในเรื่องต่าง ๆ

           และมีความที่ตั้งใจไว้อีกมากมายตามความอยาก

           และต้องพังครืนด้วยระบบการเมืองช่วงปฏิรูประบบราชการ

           จนถึงเดี๋ยวนี้อยากเป็น ผศ.,รศ.,ศ. เข้าไปอีก (คิดไปคิดมามันเป็นแก่นของชีวิตหรือปล่าววะนี่)

            เลยคิดไปข้างหน้าว่า เมื่อเราถูกกำหนดจากระบบ จากกระบวนการ จากการบริโภคของสังคม(กระแส อำนาจ เงินตรา หน้าตา ความจริง จอมปลอมฯลฯ) และตราบที่คนเราอยากจะเป็น อยากจะได้ มันคงต้องคิด แต่จะทำไปได้สักเท่าไรคงต้องชั่งใจแล้วในขณะนี้

              อาจจะต้องหาเวลาและโอกาสไปปลีกวิเวก ตามรอยธรรมะของพระพุทธองค์ คงได้เห็นความจริงของชีวิตมากขึ้น และอาจจะได้คำตอบและพบความงามของชีวิตโดยแท้จริงก็ได้

หมายเลขบันทึก: 73222เขียนเมื่อ 18 มกราคม 2007 11:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
ก็แปลกดีนะ ที่ครั้งหนึ่งหักมุมของชีวิต หันหน้าเข้าวัดปฏิบัติธรรม  อตัมมยตา  (ไม่เอาแล้วโว้ย ท่านพุทธทาส แปล) เกิดอาการเบื่อๆๆๆ และคิดว่าพอแล้ว เตรียมจะลาออก  แต่ก็นั้นแหละ  วันนี้ยังผันชีวิตมาคร่ำเคร่งกับกฏ กติกา ที่เขากำหนด  กรรมยังไม่หมดกระมังคะท่านหัวหน้าสำนักงานคณบดีศักราช

ปลงแล้วเรอะครับ ลุงปั๋น

ความอยาก มีสองแนว ทั้งดีและไม่ดี

แนวดี เป็นแรงขับให้เกิดพลังในการพัฒนาตน

แนวไม่ดี ก่อให้เกิดความเครียด ความอยากได้กระวนกระวายใจ อิจฉา ริษยา เหมือนเห็นผู้อื่นได้ดีกว่าเรา

สำหรับปุถุชนทั่วไปนั้น ความอยากเป็นพลังที่กระตุ้นชีวิตให้ดำเนินไป

หลายคนอยากได้...แต่ไม่ทำ(ตัวอยากที่เป็นกิเลสล้วนๆ) หากอยากแล้ว..ก่อให้เกิดการกระทำ นับเป็นเรื่องดีครับ ยิ่งอยากในเรื่องที่ดี เป็นกุศล พระพุทธองค์เรียกว่า ฉันทะ มิใช่โลภะ

ว่าแต่ลุงปั๋นคิดอยากปฏิบัติธรรมเมื่อไหร่

อาจารย์จะเป็นเจ้าภาพให้ทันที

อาจารย์คะ...ถ้าบวชแล้ว หว้าก็อดฟังดนตรีเพราะๆสิคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อคิดครับ ...ผมมักตั้งประเด็นสิ่งที่เกิดมาแล้ว เพื่ออาจจะให้ข้อคิดกับเพื่อนร่วมโลกพร้อม ๆ กับผมไปด้วย
อ่านแล้วเห็นอาจารย์มีแรงขับภายในเยอะจัง...ต้นทุนประสบการณ์สูงจังเลยค่ะ

ถ้าความอยาก  เป็นแรงขับดันทำให้เราทะยานไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ก็ปลดปล่อยให้เป็นไปตามนั้นเถิด

แต่ถ้าความอยาก  เป็นแรงฉุดสูสิ่งที่เลวกว่า  ก็ยับยั้งชั่งใจเถิด

 แต่เห็นด้วยกับอาจารย์  ว่าเราควรใช้เวลาในการหาความดีความงามของชีวิตบ้าง

  ..............อย่าตกเป็นทาสความอยากเพียงอย่างเดียว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท