คลังเผยไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2550 รัฐบาลขาดดุลเงินสดกว่า 5 หมื่นล้านบาท แม้ยอดรายได้นำส่งคลังจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.8% เหตุดุลนอกงบประมาณขาดดุลกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการถอนเงินฝากนอกงบประมาณ เพื่อโอนให้ท้องถิ่นของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และการจ่ายเงินให้กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
ดร.สมชัย สัจจพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รักษาการตำแหน่งที่ปรึกษา ด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2550 ว่า รายได้นำส่งคลังรัฐบาลสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 14.8% ขณะที่ การอัดฉีดเม็ดเงินจากงบประมาณรายจ่ายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 17.0% เนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 ยังไม่มีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณเกินดุล 3,437 ล้านบาท แต่เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 55,059 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลการคลัง (ดุลเงินสด) ของรัฐบาลขาดดุล 51,622 ล้านบาท
เขากล่าวด้วยว่า สำหรับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2550 เท่ากับ 41.14% ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกิน 50% ส่วนรายได้นำส่งคลัง ในไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2550 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 10,716 ล้านบาท หรือ 3.6% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 42,412 ล้านบาท หรือ16.0% ส่งผลให้รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 303,616 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 39,020 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.8% โดยภาษีที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนในส่วนของกรมสรรพากร ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีธุรกิจเฉพาะ ในส่วนของกรมสรรพสามิต ได้แก่ ภาษีสุรา เบียร์ ยาสูบ และน้ำมัน นอกจากนั้น การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนก็เพิ่มขึ้นมากเช่นเดียวกัน ด้านรายจ่ายรัฐบาลในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 300,179 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 61,582 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 238,080 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 19,778 ล้านบาท และรายจ่ายจากงบประมาณ ปีก่อนจำนวน 42,321 ล้านบาท
เขากล่าวอีกว่า สาเหตุที่การเบิกจ่ายงบประมาณต่ำกว่าปีที่แล้วมาก เนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ยังไม่มีผลบังคับใช้ ทำให้ต้องใช้รายจ่ายประจำปีงบประมาณที่แล้ว ไปพลางก่อน ซึ่งจะใช้ได้เฉพาะงบรายจ่ายประจำ และงบที่ผูกพันมาแล้วเท่านั้น
ส่วนดุลการคลังรัฐบาลตามกระแสเงินสด เนื่องจากรายได้นำส่งคลัง และรายจ่ายเงินงบประมาณข้างต้นส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณเกินดุลจำนวน 3,437 ล้านบาท แต่เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 55,059 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลการคลัง (ดุลเงินสด) ขาดดุลจำนวน 51,622 ล้านบาท ทั้งนี้ การขาดดุลเงินนอกงบประมาณ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการถอนเงินฝากนอกงบประมาณ เพื่อโอนให้ท้องถิ่นของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และการจ่ายเงินให้กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
กรุงเทพธุรกิจ โพสต์ทูเดย์ ข่าวหุ้น คมชัดลึกผู้จัดการรายวัน ข่าวสด บ้านเมือง แนวหน้า มติชน : 18 ม.ค. 50
ไม่มีความเห็น