BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

นเรศวร


นเรศวร

หลายคนเชื่อกันว่า 18 มค. คือ วันที่พระนเรศวรชนช้างหรือกระทำยุทธหัตถี (หลายคนก็ไม่เชื่อ อ้างว่าวันอื่น) ...ดังนั้น จะนำพระนามของพระนเรศวร มาเสนอ..

นร + อิศวร = นเรศวร ... นร แปลว่า คน ... อิศวร แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ (อิศวร เป็นสันสกฤต ..ส่วนบาลีใช้ อิสสระ ซึ่งภาษาไทยก็ใช้ทั่วไปทั้งสองศัพท์) ....

นเรศวร เป็นคำสมาส (สองคำขึ้นไปรวมเป็นคำเดียว เรียกว่า สมาส ..ภาษาไทยเรียกคำผสม) ...และเป็นคำสนธิ (คือมีการเชื่อมอักษรให้กลมกลืนยิ่งขึ้น) ...นั่นคือ ..นร + อิศวร = นรอิศวร = นเรศวร (แปลงสระ อิ เป็น สระ เอ)

วจนัตถะ นรานํ อิสฺสโร นริสฺสโร ผู้เป็นใหญ่แห่งชนทั้งหลาย ชื่อว่า นเรศวร .....

นิทาน...

เกร็ดประวัติศาสตร์ว่า พระนเรศวรได้รับการสนับสนุนอาวุธจากประเทศจีน โดยพระนเรศวรทรงรับปากจีนว่าเสร็จศึกพม่าจะไปช่วยตีญี่ปุ่น ..แต่พระองค์เสด็จไปสู่สวรรค์เสียก่อน...

ผู้เขียนเคยคิดที่จะแต่งนิยายปลอมประวัติศาสตร์ โดยส่งคณะฑูตไทยไปยังจีนเพื่อเป็นตัวเชื่อมในการส่งกำลังบำรุงด้านอาวุธจากจีนผ่านไปยังตอนเหนือของพม่า ... การเดินทางตอนแรกก็ไปทางเรือ และเรือแตกต้องเข้าเขมร เดินเท้าผ่านไปทางอาณาจักรจามปาและญวณก่อนถึงจีน ต้องเจอกับนินจาสายลับจากญี่ปุ่น...เอาวิชามวยไทยไปสู่กับพลังไหมฟ้า เอาวิชาสั่งศูนย์ไปสู่กับวิชานินจา หรือเอาวิชาเสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตน เป็นต้น ไปสยบลัทธิลึกลับของเขมรซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิไศเลนทร์และไวศณพของฮินดู ...

ยังไม่ได้เขียน ใครมีความสามารถก็ช่วยเขียนแทนด้วย ไม่สงวนลิขสิทธิ์พล็อตเรื่อง (จริงๆ นะครับ)

คำสำคัญ (Tags): #นเรศวร
หมายเลขบันทึก: 73199เขียนเมื่อ 18 มกราคม 2007 09:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 20:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
นมัสการครับ
ผมเคยอ่านหนังสือเจอว่า พระนามของพระองค์จริงๆคือ พระนเรศ ต่อมา เมื่อครองราชย์แล้ว ทรงพระนาม ว่า พระนเรศ วรราชาธิราช (สังเกตจากพระนามของพระมหากษัตริย์หลายๆพระองค์ในช่วงนั้น) จึงเรียนมาประกอบครับ

ผมก็สนใจบาลีอยู่เหมือนกันครับ ว่างๆจะแวะมาใหม่ครับ


คุณ Thai Webcruiser

พระนเรศ หรือ นเรศวร ...จำได้ว่าตอนแรกเรียนประวัติศาสตร์ เริ่มต้นอย่างนี้ แต่จำประเด็นนี้ไม่ได้ครับ..

ตอนนี้ หนังพระประวัติฯ ออกฉายแล้ว คงอีกนานกว่าอาตมาจะได้ชมกะเค้า บางเรื่องก็หลายปีกว่าจะได้ชม เช่นเรื่อง โหมโรง อาตมาก็ยังไม่ได้ชม...แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา

อาตมาก็เขียนเล่าไปเรื่อยๆ มีโอกาสก็เข้ามาอ่านและคุยได้ ครับ

เจริญพร

น่าเห็นใจพระอาจารย์ของกระผมจริง ๆ ครับ...

 

โหมโรงผมดูหลายรอบแล้วครับ...ครั้งแรกที่ดู(เพราะถูกกระตุ้นจากรายการของคุณสรยุทธ์ให้ยกครอบครัวพาไปช่วยกันดูหน่อย...

 

ผมยกครอบครัวไปดู...ตอนแรกลูก ๆ ไม่อยากดูจะขอเดินเที่ยวห้าง...แต่พอดูจบ...เขาเกิดรักดนตรีไทยขึ้นมาทันที...โดยเฉพาะลูกสาวคนเล็ก...จะหาระนาดมาตีซะให้ได้...555

 

ผมเองนั้นสนใจตรงที่...ไม่เคยได้ยินเสียงการตีระนาดที่เสนาะเพราะพริ้งและ...มันสส์...อย่างนี้มาก่อนเลย...โดยเฉพาะเพลงจีนดอกไม้...บ้านผมถึงกับโลหดไว้ฟังทุกวัน(ตอนนี้หายไปพร้อมกับการฟอร์แมทหลายรอบและก็เลิกฮิตไปในที่สุดด้วย...555)

 

ส่วนเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวร...ผมก็ยกไปดูทั้งบ้านทั้ง2ตอน...ท่านมุ้ยทำหนังได้ดีมาก...ที่ผมชมท่านมากที่สุดตรงประเด็นที่ทำให้เรื่องนี้ผิดไปจากทัศนะที่เราเคยมีตั้งแต่เรียนสมัยเด็ก ๆ เราจะเกลียดพม่ามาก...โดยเฉพาะแผ่นดินถิ่นเกิดของผม(เมืองพระพิษณุโลก) รู้สึกว่าพม่าคือศัตรูตลอดกาล...

 

ท่านมุ้ยทำหนังให้เราดูแล้วไม่รู้สึกว่ามีใครผิด...มีแต่เข้าใจความรัก..ความยิ่งใหญ่ของมหาบุรุษในยุคนั้น...

 

เข้ามารื้อฟื้นเรื่องราวให้พระอาจารย์ครับ...

..นมัสการ ครับ..

พระอาจารย์ คิดพล็อตเรื่องไว้เป็นโจทย์ที่น่าสนใจมากครับ..

แต่เท่าที่ทราบมา..ในกองทัพอโยธยาของพระนเรศและในยุคต่อมา มีกองทหารอาสาญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งมาก..มีชื่อท่านยามาด้า เป็นถึงเจ้าหัวเมือง(ฝ่ายใต้)ศรีธรรมราช..และที่เมืองบ้านเกิดของท่านยามาด้าในญี่ปุ่น ก็ มีเรื่องราวเล่าขานในเรื่องความกล้าหาญของท่านในกองทัพไทยยุคนั้น..และมีหลักฐานอีกหลายอย่างที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันดีสองเชื้อชาติมาแต่โบราณ..นิยายปลอมประวัติศาสตร์ อาจจะแต่งให้กลับกันก็ได้ แต่ ส่วนใหญ่มักให้สอดคล้องกันครับ..

P 5. ลุงรักชาติราชบุรี

 

เรื่องที่เล่่าไว้นั้น มีหลักฐานจากบันทึกของประเทศจีน เคยอ่านจากหนังสือเล่มนี้ (คลิกที่นี้) ส่วนเรื่องว่าได้รับการสนับสนุนจากชาวญี่ปุ่นก็เคยผ่านตาบ้างเหมือนกัน...

ถ้าจะเขียนคงต้องค้นคว้าอีกมาก ตอนนี้จึงได้แค่เพียงโม้พล็อตเรื่องเล่นๆ เท่านั้น...

คุณโยมให้ความเห็นเพิ่มเติมมา ก็คงต้องเพิ่มการเมืองภูมิภาคท้องถิ่นเอเชียบูรพาขึ้นในเรื่องด้วย รู้สึกว่าจะยากยิ่งขึ้นไปอีก (อย่าเขียนดีกว่า 5 5 5...)

เจริญพร

..นมัสการครับ..(ขอต่อ)สมัยก่อนมีบทประพันธ์ของนักเขียนที่เป็นสมณเพศหลายคน..ซึ่งน่าอ่านและให้ความรู้แง่คิดมากมาย ด้วย ผู้ประพันธ์ คงเห็นว่า ผู้ครองเรือนยังติดยึดอยู่กับความบันเทิงใจ การสั่งสอนคุณธรรมแบบอิงนิยายจึงเกิดขึ้น..แต่ปัจจุบัน รู้สึกว่า ไม่ค่อยมี..ซึ่งน่าอนุโมทนานัก..หากพระอาจารย์จะเมตตา..กระผม ขอเป็นกำลังใจให้ ครับ..และยินดีร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางโลก(ตามประสา สว.555..) หากสามารถกระทำได้..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท