ธรรมะกับชีวิต 2 : เริ่มต้นการเรียนรู้พุทธรรม


ตอนนั้นเริ่มเรียนรู้ภายในตนว่าเป็นอย่างไร และพยามฝึกและฝืนร่างกายให้กระทำในสิ่งที่จะเกิดผลที่ดีกับตนเองให้มากที่สุดคือ ใช้ธรรมะเป็นเข็มทิศของชีวิต ให้เราเดินได้ถูกทางและประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน

   เริ่มแรกที่ผมรู้จักและเรียรรู้พระพุทธศาสนา  คือการได้ติดตามพ่อไปทำบุญพิธีต่างๆ  โดยเฉพาะที่วัด  (เพราะพ่อเคยเป็นมหาครับ) หลังจากนั้นก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมากนัก  แต่เริ่มอ่านเป็นเรื่องราวคือตอนที่เรียนชั้นมัธยมต้น  ผมเรียนรู้ธรรมะจากวิชาพระพุทธศาสนาครับ  เป็นวิชาที่ชอบมาก  สนุกดี  และผมก็ได้เกรด 4 ตลอดด้วย (ขอบคุณวิชานี้ที่ช่วยทำให้เกรดเฉลี่ยดี)  ตอนนั้นผมสนใจธรรมะที่จะช่วยทำให้ตัวเองเป็นคนที่ดี  เป็นคนที่รู้และเข้าใจเรื่องราวความจริงบางอย่างที่บางครั้งเกิดความคิดแว๊บๆขึ้นมา  เช่นคนดี  คนไม่ดี  หรือเรื่องไหนบ้างที่สอนให้ทำอะไรสำเร็จได้  เช่นอิทธิบาท 4   ก็จะอ่านๆ  เพื่อนคนอื่นอ่านเพื่อสอบแต่ผมเพิ่มเติมคือเรียนรู้ด้วยและพยามจำครับ

         และช่วงที่มาเรียน ม.ปลายที่โรงเรียนประจำจังหวัด  ก็ได้เข้าชมรมพุทธและเป็นสมาชิกของยุวพุทธิกสมาคมของจังหวัด  รวมทั้งร่วมกิจกรรมทำบุญกับคุณครูที่สอนวิชาพระพุทธศาสนาหลายท่าน  เช่นการไปทำสังฆทานที่วัดต่างๆเดือนละ 2 ครั้ง  อีกทั้งช่วงที่เรียนม.ปลายก็เอาแต่เรียนและตั้งใจเรียนมาก  ไม่เที่ยวไม่ค่อยเล่น  จึงยึดเอาะรรมะและพุทธรรมเป็นสรณะ  นอกเหนือจากการตั้งใจเล่าเรียนมากๆ  คือทั้งฝึกสมาธิก่อนนอนตอน5 ทุ่มทุกวันและตอนตี4.30 ที่ต้องตื่นมาท่องตำราเรียน  ตอนกลางวันยังใช้เวลาพักเที่ยงศึกษาธรรมะที่ห้องสมุดด้วย  ตอนนั้นเริ่มเรียนรู้ภายในตนว่าเป็นอย่างไร   และพยามฝึกและฝืนร่างกายให้กระทำในสิ่งที่จะเกิดผลที่ดีกับตนเองให้มากที่สุดคือ  ใช้ธรรมะเป็นเข็มทิศของชีวิต  ให้เราเดินได้ถูกทางและประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน    แต่การเรียนรู้ครั้งนั้นไม่แบบปรมัตถ  เป็นแบบโลกียะคือทำบุญเพื่อหวังผลตอบแทนเหมือนกัน  เพราะว่ายึดแนวคิดเรื่องกุศลกรรมบท 10 มาก  ว่ายิ่งทำยิ่งได้บุญ  การอ่านธรรมะ  การฟังธรรม  การไปทำบุญ  การสอนแนะนำธรรมะ  การพ฿ดดี  คิดดี กระทำดี  ล้วนได้บุญ  ทั้งตอนนั้นก็ท่องชิญบัญชรทุกๆวัน(บางครั้งหลายรอบมา)  เพื่อต่างหวังว่าผลบุญต่างๆที่เราทำตอนนั้น  พร้อมทั้งการตั้งใจเล่าเรียนจะทำให้เราประสบผลสำเร็จในชีวิตได้ 

    และก้อคิดว่าชีวิตน่าจะมาถูกทางพอสมควร  เพราะว่าสิ่งที่ทำนั้นเพียง3 ปีก็เห็นผลเพราะว่าทำให้สามารถสอบเข้าคฯแพทย์ได้  เริ่มที่โค้วต้า มข.  แต่ว่าครั้งนั้นพ่อ-แม่ไม่ให้เรียนเพราะว่ากลัวจะขายนาหมดก็ส่งลูกเรียนไม่จบ  จึงได้เรียนทุนวิทยาศาสตร์ 1 ปี  หลังจากนั้นจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกครั้งและได้เรียนที่คณะแพทย์ เชียงใหม่

      ช่วงที่เรียนถือว่าโชคดีมากที่ได้รับทุกการศึกษาจาก2 ทางคือ จากหลวงพ่อที่กรุงเทพ วัดปทุมวนาราม  และทุนจากมูลนิธิจุมภฏ-พันทิพย์ทำให้สามารถเรียนมาจนจบได้ครับ  ผมมองว่าผลบุญก็ติดจรวจได้เช่นกันนะครับ..........

   

หมายเลขบันทึก: 73181เขียนเมื่อ 18 มกราคม 2007 02:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
คิดดี  ทำดี  ปราถนาดี  แล้วท่านจะพบแต่ความสำเร็จ...สาธุ

อนุโมทนาค่ะ คุณหมอ

บุญจะส่งผลเร็วหรือช้า่  ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยน่ะค่ะ

นี่ก็จำจากครูบาอาจารย์ที่ไปเรียนมาที่มูลนิธิศูนย์วิปัสสนาเชียงใหม่อีกทีน่ะนะคะ

เห็นบอกว่ายังไม่เคยฝึกแบบปรมัตถ์? 

ถ้ายัง  ก็ลองดูนะคะ  คอร์ส ๗ วัน  ข้าราชการไปได้ไม่นับเป็นวันลาค่ะ  ฟรีหมดด้วยที่นั่น

อาจารย์ที่สอนอยู่ก็เขียนบล๊อกอยู่ที่นี่ค่ะ  ท่านเป็๋นคณบดีมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฎเชียงใหม่ค่ะ  ชื่ออ.พิชัย กรรณกุลสุนทร

 

อุ๊ย  ขอโทษทีค่ะ  ตัวแถบสีมันทึบไปด้วย  อ่านไม่ชัด  เดี๋ยวพิมพ์ให้ใหม่นะคะ

 

เดิมเขียนไว้ว่า

 

อาจารย์ที่สอนวิปัสสนาก็เขียนบล็อกอยู่ที่นี่ ด้วยค่ะ  ุี๊ั

         อืม หมอก็สนใจธรรมะเหมือนกันเหรอเนี่ย พวกเราคงเห็นเกิดแก่เจ็บตายกันประจำแหละเนอะ

         ลองหาโอกาสไปปฏิบัติธรรมดูสิคะ จะแจ่มแจ้งแดงแจ๋กว่าอ่านหนังสือเยอะเลยค่ะ คุณน้องขา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท