ระบบความคิด
ช่วงนี้อ่านงานของนักศึกษา...มึนค่ะมึน
แค่ไม่กี่หน้าก็เล่นเอามึนได้เหมือนกัน เพราะไม่ใช่แค่อ่านเฉยๆ แต่อ่านแล้วต้องคิด ต้องสงสัย ต้องตั้งคำถาม บางหัวข้อก็ไม่ใช่เรื่องที่ถนัดเลย โอ้โฮ...อ่านยากกว่าตำราอีกแฮะ -_-'
ถึงตอนนี้รู้สึกเข้าอกเข้าใจอาจารย์ที่เคยสอนมาเป็นอย่างยิ่ง งานชิ้นแรกๆ ที่ส่งไป อาจารย์คง "มึน" เหมือนเรา บางทีอาจจะยิ่งกว่าก็ได้ แต่อาจารย์ก็ไม่ทอดทิ้ง และให้กำลังใจตลอด คราวนี้คงเป็นภาระของเราที่ต้องทำอย่างนั้นบ้างแล้ว
สิ่งที่สังเกตได้จากงานเขียน คือ ความคิดของนักศึกษายังขาดความเป็นระบบ อันเนื่องมาจากการอ่านน้อย ปัจจัยสำคัญในการเขียนงานนั้น ต้องขยันอ่านค่ะ ถ้ามานั่งคิด คิด และคิด มันก็คือ ตัวหนังสือที่ฟุ้งในอากาศ เป็นจริงได้หรือไม่ก็ไม่รู้ เพราะไม่มีฐานความรู้มาสนับสนุน
คิดเพื่อเริ่มต้น อ่านเพื่อค้นคว้า คิดต่อถึงปัญหา และค้นคว้าหาคำตอบค่ะ
สู้...สู้ ^_^
ความเห็น (4)
สวัสดีครับอาจารย์
ตัวผมเองก็คิดว่าที่ส่งเค้าโครงไปสงสัยว่าเมื่ออาจารย์คงงแน่เลย เพราะในบางจุดบางประเด็น ผมยังไม่ได้ตอบปัญหาที่เขียนลงไปอย่างแน่ชัดนัก แต่ตอนนี้ก็เริ่มเขียน รายงานวิจัยในบางส่วนไปแล้วแต่ตอนนี้ยังติดปัญหาในการจัดการระบบความคิดให้เข้าที่เข้าทางอยู่ครับ
เห็นด้วยกับ อ.ต๊อก นักศึกษาปริญญาโทของพายัพมีความสร้างสรรค์ทุกคน แต่มักไม่ยอมอ่านหนังสือ และไม่ยอมทำการบ้าน ดังนั้น "องค์ความรู้ (Knowledge)" จึงไม่มี และ "ทักษะ (Skill)" ก็ไม่เกิด แม้จะมี "ทัศนคติ (Attitude)" ที่ดีงามมาก ก็ไม่บรรลุผลที่จะสร้างโดดเด่นให้ทั้งตนเองและสังคม
อย่างก๊อดจินะ สิ่งที่ควรทำ ก็คือ การตีปิงปองทางปัญญากับผู้สอนในห้องสอน
ผู้สอนนะทำงานเบามาเลย เพราะนักศึกษาไม่มี "ลูกปิงปอง" กล่าวคือ องค์ความรู้มาทักทอกับผู้สอน
ผมรู้สึกหัวมานทื่อๆยังไงม่รู้ครับป้า เมื่อก่อนความคิดไหลลื่นกว่านี้(ตอนที่จบมาใหม่ๆ) หรืออาจเป็นเพราะหมดไฟ หรืออาจเป็นเพราะ........แต่ยังไงก็จะพยายาม สู้ ๆ ๆ ครับ ป้า...
ขอบคุณครับ อาจารย์
ตอนนี้ผมต้องขอออกตัวก่อนว่าตอนนี้เริ่มตบความคิดต่างๆๆให้เริ่มเข้าที่พอสมควรแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่างานที่เขียนออกมานั้นจะเป็นอย่างไรบ้างเพราะ แม้จะมีกรอบที่วางไว้ก็ตามแต่พอเราจะเขียนจริงแล้วนั้น ก็จะเกิดเป็นคำถามที่ว่าจะเขียนออกมาในแนวทางไหน ตอนนี้เลยเหนื่อยและเครียดมากถึงมากที่สุด ยอมรับว่างานนี้ไม่ง่ายเสียเลยครับอาจารย์