วันนี้ดิฉันไม่ได้จะมาเล่างานวิจัยแต่จะมาเล่าประสบการณ์ที่อยากจะบันทึกไว้ในเพื่อเตือนใจและระลึกเมื่อเวลาผ่านไป.............................................................................................
วันที่ 11 มกราคม 2550 เวลา 17.00 น., เป็นวันและเวลาหลังจากที่ผู้ป่วยรายหนึ่งเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ coronary artery bypass ย้ายจากห้องผ่าตัดมาที่ I.C.U. วันนั้นดิฉันต้องพานิสิตกลุ่มหนึ่งไปดูฝึกงาน case นี้ตั้งแต่เริ่มผ่าตัดและติดตามไปถึงหลังผ่าตัด พอไปถึงเตียงที่ผู้ป่วยนอนอยู่ใน I.C.U. ก็ปรากฎว่ามีทั้งหมอและพยาบาลรวมประมาณ 5 คน อยู่รอบเตียงผู้ป่วยดูท่าทางคงเกิดเรื่องไม่ค่อยดีเพราะดูสถานการณ์ดูตึงเครียดแล้วก็เพิ่มความตึงเครียดมากขึ้นเมื่อญาติของผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งประมาณ 4 คนมุ่งมาที่เตียงผู้ป่วยรายนี้และทราบข้อเท็จจริงว่าผู้ป่วยอาจจะมีชีวิตอยู่ไม่พ้นคืนนี้ ทันใดนั้นญาติผู้ป่วยรายหนึ่งก็เป็นลมทันทีแต่มีบางคนก็ตะโกนใส่หมอว่าใหนที่นี่หมอเก่งไง ทำไมแม่ไม่รอด โหเสียงดังมากเลยค่ะ หมอผ่าตัดพอได้สติก็อธิบายให้ญาติผู้ป่วยเข้าใจสภาวะที่เกิดขึ้นและชี้ให้เห็นว่าทุกขั้นตอนได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้วและขณะนี้ก็ได้พยายามช่วยเต็มที่แต่โอกาสน้อย ถึงกระนั้นทีมรักษาทุกคนก็จะพยายามให้ถึงที่สุด จากคำอธิบายที่จริงใจและชัดเจนนี้ทำให้บรรยากาศดีขึ้น ดิฉันสังเกตนิสิตที่ไปด้วยทุกคนมีความรู้สึกตรงกันต่างก็ภาวนาขอให้ผู้ป่วยรายนี้รอด บางคนถึงกับน้ำตาไหลบางคนถึงกับพนมมือขึ้นถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเคารพ พวกเราต่างส่งกำลังใจให้มีปาฏิหารย์เกิดขึ้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวดิฉันได้เห็นถึงความมีน้ำจิตน้ำใจของนิสิตที่ไม่เห็นการทำรายงานบันทึกหลังผ่าตัดสำคัญไปกว่าจิตใจเพราะในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทีมรักษาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อยื้อชีวิตของผู้ป่วย ส่วยญาติก็เป็นห่วงจึงไม่ละจากไป ทำให้สภาวะดังกล่าวจึงไม่เหมาะสมที่นิสิตจะเข้าไปศึกษาและก็ไม่ได้บันทึกอะไรจนถึง 19.30 น. จึงพากันกลับไป ก่อนที่จะกลับนิสิตคนหนึ่งพูดว่าตอนผ่าตัดก็ไม่เห็นมีปัญหาถ้าไม่ติดตามหลังผ่าตัดก็ไม่ทราบเลยว่าจริงแล้วไม่ได้เป็นไปอย่างที่เห็นในตอนนั้น ...........
คงมีคำถามใช่ไหมคะว่าผู้ป่วยรายนี้พ้นคืนนี้มั้ย ขอตอบว่าพ้นค่ะแต่คืนพรุ่งนี้ก็ยังต้องลุ้นอย่างหนัก.........................................ขอให้พ้นคืนต่อมาด้วยเถอะค่ะพวกเราขอเอาใจช่วย
อาจารย์วัชราเล่าได้น่าตื่นเต้นและเห็นภาพทีเดียวค่ะ
นิสิตที่ได้ฝึกงานคราวนี้ อย่างน้อยก็จะได้เรียนรู้วิธีเผชิญสถานการณ์เฉพาะหน้าในกรณีญาติผู้ป่วยกำลังประสบกับภาวะหวั่นไหว เสียใจ และกลัวการสูญเสีย ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง.....
เป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าควรแก่การเรียนรุ้มากค่ะ
นี่แหละ เค้าเรียกว่าความตั้งใจ และกำลังใจของทุกคุนในทีมแพทย์ และคนรอบข้าง ....................อาจารย์เป็นผู้มีน้ำใจจริง ๆ ขอให้ผู้ป่วยรายนี้ผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ มีชีวิตใหม่หลังผ่าตัดอีกครั้ง (ตื่นเต้นแทนอาจรย์จิง ๆ) ลุ้นแทบแย่