จากบันทึกแด่ป้า...ดั่งแม่คนที่สอง ของ อ.จันทวรรณ นอกจาก สัมผัสได้ถึงความละเอียดอ่อนของอาจารย์แล้วดิฉั๊นยังสะดุดความคิด..."เช้าตีห้าของวันศุกร์ เราไปที่วัดอีกครั้งเพื่อเก็บเถ้ากระดูกและนำไปฝังไว้ในดินบริเวณวัดเพื่อคืนสู่ธรรมชาติ พร้อมปลูกไม้ดอกไว้บนกองกระดูกของป้า" จึงขอเล่าเรื่องนี้ไว้เพื่อเป็นบันทึกแห่งชีวิตของตน พ่อของดิฉั๊นเสียไปเมื่อ 4 ปี ก่อน.....เราพี่น้อง...เราจะจัดงานศพกันตามที่เราพึงทำจะทำได้เพื่อพ่อเป็นครั้งสุดท้ายเป็นสิ่งทีดิฉั๊นคิดก่อนวางแผนงานศพ....งานศพทำไม่ต้องวางแผน....ช่วยๆ กันทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน....น้องสาวพ่อคนหนึ่งพูดขึ้นมาเมื่อดิฉั๊นเริ่มต้นจัดวางคนรับผิดชอบด้านนั้นด้านนี้ไว้ทั้งหมดความจริงดิฉั๊นก็ไม่ใช่พี่คนโตหรอกแต่ด้วยว่าอยู่ใกล้ชิดจนพ่อสิ้นลม..และแม่ดูเหมือนจะเชื่อในนิสัยของดิฉั๊นว่าไม่คิดเล็กคิดน้อย งานศพถ้าพี่น้องทะเลาะกันแม่ถือเป็นความล้มเหลวของการดูแลลูกๆ(แม่เคยบอกไว้เวลาเห็นคนทะเลาะกันในงานศพ)..อย่างน้อยมีแม่ที่เฝ้าดูผลงานของตัวเองและคนรักที่ร่วมฟูมฟักมาตลอดชีวิต.....แม่จึงบอกให้ดิฉั๊นดูแลแทนโดยมีโจทย์ที่ไม่ต้องบอกว่าให้พี่น้อง....รวมถึงพี่ป้า ปู่ย่า สบายใจ ทั้งที่ตั้งต้นไว้ว่า เราจะจัดงานศพกันตามที่เราพึงทำจะทำได้เพื่อพ่อเป็นครั้งสุดท้าย..ตั้งแต่ศาลาที่ตั้ง ดอกไม้..อาหารในงาน....ลำดับขั้นตอน สุดท้ายคือวัดที่เราเลือกเอากระดูกพ่อเข้าบัว.....ดิฉั๊นเพิ่งมีประสบการณ์ครั้งนั้นและทราบว่า....ราคาสูงมาก บางวัดเป็นเพียงลิ้นชักเท่าครึ่งกระดาษ A4 เหมือนคอนโด..ยังงั๊นแหล่ะ แต่ทว่าในวัดในเมืองที่เราสะดวกจะไปประกอบกิจทางศาสนาในโอกาสต่างๆ สิ่งที่เราคิดกันคือ....เป็นวัดที่พี่ น้องมาทำบุญได้ไปง่ายมาสะดวก....(วัดต้นตระกูลของเราอยู่ไกล....พวกลูกไม่สะดวกจะไปทำบุญรวมกับญาติคนอื่นๆ....แล้วเราก็ขัดแย้งกันกับญาติพ่อ) เรามีวัดในรายชื่อ 7 วัด ราคา....ความเป็นหน้าตาและความสะดวกอื่นๆ....ตัดทอนกันไป....ตามอะไรดี....ดิฉั๊นเขียนเป็นคำพูดไม่ออก เราเกิดแย้งกันเพราะเราทำเพื่อหน้าตาของเราเองเราตกลงกันไม่ได้...ท้ายสุดดิฉั๊นก็ไม่มีบารมีพอในความหลากหลายการสั่งสมประสบการณ์ความจริงแห่งชีวิต"แม่"กลับมาเป็นผู้เลือกวัดที่..ไปมาสะดวก.....กระดูกสัญลักษณ์สุดท้ายเป็นเพียงผงดิน....แต่ก็ยังสามารถทำให้คนที่เข้าใจผิดเรื่องธรรมชาติของชีวิต....มาปั่นเป็นผลประโยชน์ได้ ดิฉั๊นจึงมาสะดุดที่บันทึกของ อ.จันทวรรณ ที่ว่าเก็บเถ้ากระดูกและนำไปฝังไว้ในดินบริเวณวัดเพื่อคืนสู่ธรรมชาติพร้อมปลูกไม้ดอกไว้บนกองกระดูกของป้า" คืนสู่ธรรมชาติ...ให้คนเป็นเห็นธรรมชาติแต่คนเป็นมักไม่เห็นสิ่งที่ธรรมชาติอยากให้เห็นอย่างน่าเสียดาย
มาเยี่ยม ถือว่าคุณเมตตาทำดีที่สุดแล้วสำหรับคุณพ่อผมเน้นตรงที่การตอบแทนบุณคุณก่อนท่านจากไปด้วยว่าอยู่ใกล้ชิดจนพ่อสิ้นลม.
งานศพของป้าสอนชีวิตได้หลายต่อหลายอย่างค่ะ
สุดท้ายคนเราก็ไม่มีอะไรจริงๆ นะค่ะพี่จิ๊บ
เกิด แก่ เจ็บ และ ตาย แล้วก็กลับคืนสู่ธรรมชาติ ค่ะ
คุณจิ๊บคะ
แล้วสักวัน เรา ก็ต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติค่ะ
คุณเมตตา ครับ