สำหรับปูนซิเมนต์ไทยแล้ว เราทำ LO โดยเพื่อมุ่งสร้างองค์กรการเรียนรู้ หรือองค์กรมีชีวิตครับ
เป็นอีกวันหนึ่ง (11/1) ครับที่ผมได้ร่วมเรียนรู้กับ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ (คนไร้กรอบ) วันนี้อาจารย์ชวนเรียนเรื่องการสกัดความรู้ ด้วยกระบวนการ Storytelling ซึ่งผมคิดว่าหลายท่านคงคุ้นเคยกันอยู่ล้ว แต่ในแนวทางของ อ.วรภัทร์ จะเน้นที่บรรยากาศในการ เล่าเรื่อง และการสกัดความรู้ ให้เป็นธรรมชาติ ทั้งผู้เล่า และผู้ฟัง มีใจให้แก่กัน ในช่วงหนึ่งอาจารย์ได้ขยายความถึงเรื่องกระบวนการเรียนรู้ และการจัดการความรู้ และได้แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี่ครับ
1 .Natural LO &KM
เป็นธรรมชาติ ไม่เร่ง ได้ “ใจ”
ไม่มีผิด ไม่มีถูก มีแต่เรียนรู้
เรียนรู้ “สันดาน” ตนเอง มี “สติ”ทบทวนตนเอง
เน้นประเมินผลที่ พฤติกรรม ของคนในองค์กร
ดึง ความรู้แฝงออกมาอย่างสนุก
พัฒนาตนเอง ขยายออกไปพัฒนารอบด้าน
เนียนไปกับเนื้องาน
ได้ Sensing
เกิด เกลียวความรู้ เกิดภาคี เกิดความร่วมมือ แบ่งปันความรู้
2. Format LO& KM
- เร่งรัด ใจร้อน เน้นผลลัพธ์มากไป
หาความผิด ประนาม ขู่ ไม่สนุก
เรียนรู้ แบบ “ส่งจิตออกนอก”ลอกทุกตำรา
แบ่งแยก ออกจากงาน
บริหารโดย คุณอำนาจ คุณกติกา
วางมาด มีฟอร์ม แบกอัตตา เกร็ง ฝืน
ขาด Sensing
เอาไปอวด เอาไปประกวด แข่งขัน
ไม่เกิดเกลียวความรู้ ไม่มีภาคี ไม่แบ่งปันความรู้
ถูกหรือผิดอย่างไรลองช่วยพิจารณากันดูนะครับ สำหรับปูนซิเมนต์ไทยแล้ว เราทำ LO โดยเพื่อมุ่งสร้างองค์กรการเรียนรู้ หรือองค์กรมีชีวิตครับ