พ่อสถานเดินโผล่ออกมาจากสวน –ที่จริงไม่อยากเรียกสวน เพราะมันเป็นป่าใหญ่ชุ่มเย็น ซึ่งในนั้นมีทั้ง สวนป่าของไม้ที่ปลูกสร้างขึ้น นาข้าว สวนผัก คอกปุ๋ยหมัก สวนไม้ผล แปลงยูคา ไม้สมุนไพร ป่าโบราณที่เพียงแต่รักษาไว้สืบทอดมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย แอ่งปลาตามธรรมชาติ บ่อน้ำซึมน้ำซับตามธรรมชาติ และเสาไฟแรงสูงของไฟฟ้าผ่านที่ดินผืนนี้ด้วย –เมื่อดิฉันจอดรถปากทางเข้าบ้านและสวนของพ่อสถาน
ดิฉันเอาต้นไม้มาฝาก พ่อสถานสนใจอยากจะลองปลูกต้นสาเก ทำไม พ่อก็บอกว่า ใบมันรูปร่างแปลกดีไม่เคยเห็น เอามาลองปลูกดู จากนั้นก็ถือโอกาสขอให้พ่อสถานพาเดินชมสวนอ้อยของกลุ่ม
“ผมรอปรับพื้นที่ที่คนอื่นจะมาสนับสนุนไม่ไหว ผมเลยขุดเองด้วยมือเท่าที่จะพอ
ทำได้ “
แรงมือพ่อสถาน ขุดพื้นที่โนนให้ราบเรียบให้เป็นทางเดิน ล้อเข็นผ่านได้ ยาวประมาณ ๓ เมตร ราบเรียบละเอียดตามวิสัยของพ่อ
“ผมอยากทำทางเพื่อที่จะขนปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักและเศษใบไม้ลงไปใส่ในนา ที่อยู่อีกด้านของแปลง “
ป่าของพ่อสถานมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม เย็นฉ่ำ และหอมกลิ่นใบไม้ ดอกไม้ป่า กลิ่นป่าตามธรรมชาติ เราเดินลอดเข้าไปในแวดวงต้นไม้ที่แสงแดดแทบจะลอดผ่าลงมาไม่ได้ เสียงนก เสียงแมลงดังเซ็งแซ่หลายเสียง รอบ ๆ ตัว บางจังหวะก็มีลมโชยมาอ่อน ๆ ก็พลอยทำให้เราต้องสูดลมหายใจลึก ๆ หวาน....เป็นป่าที่งดงามไม่แพ้ที่ใด ๆ เลย
“มีพระแถว ๆ นี้พาเณรมา ๔-๕ องค์มาขอชมป่า และขออนุญาตที่จะมาปักกลดที่นี่ด้วย ผมก็นิมนต์เชิญท่านไว้ทุกโอกาสที่ท่านประสงค์”
เราผ่านทางคดเคี้ยวไปมาตามเส้นทางธรรมชาติพ่อสถานชี้ให้ดูบริเวณที่อาจจะเป็นที่พัก ที่เคี่ยวน้ำอ้อยของกลุ่ม ซึ่งต้องหารือกับเพื่อน ๆ ด้วย พ่อกล่าวเสริม จนไปถึงไร่อ้อยรวมของเรา แน่นอน ดิฉันดูไม่ออกว่า มันงามมากน้อยแค่ไหน อย่างไร รู้แต่ว่ามีต้นอ้อยขึ้นเต็มแต่ไม่สูงมากนัก
“อ้อยงามนะ มันยาวเลื้อยไปตามดินก็มี ยิ่งด้านโน้นยิ่งงามกว่านี้ ดูสิ ผมจะตัดต้นนี้ ดันไปได้อีกต้นหนึ่ง “ ต้นอ้อยมันพันกันเลื้อยไปยาว
พ่อสถานปอกอ้อยให้ชิม แข็ง ต้องผ่าเป็นซีกเล็กลงอีกถึงจะกัดกินได้ อ้อยหวานเจี๊ยบชื่นใจ กินแล้วหยุดไม่ได้เหมือนนโยบายประชานิยม ได้ชิมแล้วระลึกถึงอยู่ไม่วาย จากนั้นก็พากันเดินทะลุป่าไปดูบริเวณที่น่าจะปักกลดและเดินจงกรม เดินผ่านป่าที่พรรณไม้แทรกซ้อนกันอยู่ โผล่สู่บริเวณทีเป็นแปลงนา เหมือนกับเราผ่านประตูเดินโผล่เข้าไปสู่โลกกว้างสว่างไสว ....อยากเกิดเป็นลูกพ่อสถาน...
วันหนึ่งผมจะเป็นอย่างพ่อสถานครับ
แต่ผมว่าบ้านคุณตุ๊ก็เป็นโลกส่วนตัวที่น่าอยู่นะครับ
เมื่อไหร่จะเปิดเผยตัวเองครับ
อ่านแล้วเพลินและได้ข้อคิดดีๆ ครับ และยินดีร่วมเรียนรู้.....ครับ
ขอบคุณทุกท่านค่ะ ที่กรุณาให้ความสนใจและเวลาที่จะรู้จักชีวิตของคนเล็กคนน้อยผู้ซึ่งมีตัวตนก็เหมือนไร้ตัวตน ขอบคุณอย่างจริงใจแทนคณะละครแห่งชีวิตที่ดิฉันชะลอมาไว้ในบลอ๊คค่ะ
ดิฉันอยากจะลงรูป หรือทำตัวหนังสือให้มันน่าสนใจอย่างที่เห็น ในสมุดของท่านอาจารย์แสวง ภาพของคุณขจิต เสียงของครูบาสุทธินันท์ ตัวหนังสือของคุณเม็กดำ แต่ก็มัวแต่เขียน เขียนและเขียน พอจะมาทำก็หมดความคันซะแล้ว พอได้เขียนจบแล้วก็เลยจบไปเลยค่ะ ต้องขออภัย กับอีกประการหนึ่งคือกล้องถ่ายรูปก็กำลังมีปัญหา
ถ้าอย่างไรก็กรุณาชี้แนะเชิงเทคนิคเหล่านี้ด้วยค่ะจะเป็นพระคุณ
รวมทั้งประเด็นที่ครูบาสุทธินันท์ กรุณาให้ข้อคิดในการเพิ่ม การเสนอแนวทางประกอบ ก็เป็นการมองที่รอบด้านเพิ่มขึ้น ก็จะพยายามต่อไปค่ะ
และที่จะลืมไม่ได้ที่จะกล่าวเพื่อแสดงความเคารพยิ่ง ต่อครูบาสุทธินันท์และอาจารย์แสวงที่ได้เคี่ยวเข็ญอย่างยิ่งที่จะให้ดิฉันเขียน โทรตามล้างตามผลาญ เอ๊ย ไม่ใช่ ตามผลักดันทุกวิถีทาง ดิฉันก็อ้างไป ดิฉันจะเขียนอยู่ค่ะ แต่ดิฉันกลัวการที่จะต้องกำหนดไว้ก่อนล่วงหน้า คุณ คุณต้องเขียนทุกวันนะ เดิมดิฉันคิดว่า เราเขียนเมื่อเรามีแรงบันดาลใจ กระทบใจเรามาก ๆ ครั้นพอได้เขียนแล้วก็รู้สึกว่า ชีวิตชาวบ้านที่เราได้มีประสบการณ์ร่วมนั้นมันยิ่งใหญ่ และเอื้อให้เราเห็นประเด็นที่จะนำเสนอค่ะ และท้ายสุดต้องขอบคุณน้ำใจอันกว้างขวางของชาวบ้านที่ยอมให้พวกเรา ดิฉันเข้าไปร่วมเรียนรู้กับชีวิตส่วนตัวของเขาพอสมควร แถมยังไปเอาเรื่องของเขามาเขียนอีก