หน้าแรก
สมาชิก
opgkm
สมุด
เวทีเรียนรู้ของที...
โครงการบ้านวาดเขี...
opgkm
กิติมาภรณ์ จิตราทร
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
โครงการบ้านวาดเขียนสัญจร ตอน วาดด้วยใจ
เป้าหมาย : ต้องการให้เด็กในโรงเรียน ตชด. ซึ่งขาดโอกาสในการศึกษา โดยเฉพาะศิลปะ และอยู่ห่างไกลได้เรียนรู้ และมีพัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์ผ่านการเรียนศิลปะ และพัฒนาการสอนของครู ตชด. (ครูสอนศิลปะ) เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการสอน และพัฒนาความรู้ทางการสอนศิลปะแก่เด็ก
โครงการบ้านวาดเขียนสัญจร ตอน วาดด้วยใจ
1.
คำสำคัญ
:
ศิลปะ เด็ก ครู กระบวนการ การติดตั้งความรู้
2.
จังหวัด
:
ชุมพร
3.
กลุ่มเป้าหมาย
:
เด็กชั้นประถมในโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน
4
แห่ง
4.
เป้าหมาย
:
ต้องการให้เด็กในโรงเรียน ตชด. ซึ่งขาดโอกาสในการศึกษา โดยเฉพาะศิลปะ และอยู่ห่างไกลได้เรียนรู้ และมีพัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์ผ่านการเรียนศิลปะ และพัฒนาการสอนของครู ตชด. (ครูสอนศิลปะ)
เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการสอน และพัฒนาความรู้ทางการสอนศิลปะแก่เด็ก
5.
สาระสำคัญของโครงการ
:
6.
เครื่องมือที่ใช้
:
มีกิจกรรมหลักเพียงกิจกรรมเดียว คือการสอน แต่แบ่งเป็น
2
ระดับ คือ (
1
) การทำงานกับครู เน้นประสบการณ์สอนและแลกเปลี่ยนกับผุ้ทำโครงการเพื่อพัฒนาทักษะการสอนของครู ตชด. ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ด้านการสอนศิลปะโดยตรง (
2
) การทำงานกับเด็กนักเรียน
โดยการสอนศิลปะตามระดับพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย
7.
การจัดระบบ โครงสร้าง กระบวนการทำงาน
:
เริ่มจากการความตั้งใจที่จะไปสอนในโรงเรียน ตชด. ซึ่งอยู่ห่างไกลจากเมือง และเด็กส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสเรียนรู้ทางศิลปะมากนัก เพราะครูเองก็เป็นตำรวจ ตชด. ที่ต้องประยุกต์การสอนศิลปะตามความถนัดของครูแต่ละคน โดยเลือกโรงเรียนในจังหวัดชุมพรที่มีศักยภาพ นักเรียนไม่มากไม่น้อยเกินไป
ผู้อำนวยการให้ความสนับสนุน จากนั้นจึงติดต่อไปที่โรงเรียนเพื่อพักที่โรงเรียนตลอด
1
เทอม หลังจากนั้นก็จัดกิจกรรมการเรียนการสอนศิลปะ ให้กับเด็กทุกชั้นเรียน (ประถม
1
–
ประถม
6
) โดยให้แต่ละชั้นเรียน ได้เรียนศิลปะ
2
ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยสอนครั้งละ
1
ชั่วโมง ซึ่งการสอนจะมีทั้งวาดภาพ ปั้นดิน ประดิษฐ์งานศิลปะ โดยเริ่มจากขั้นพื้นฐาน การใช้เส้น การจัดองค์ประกอบภาพ ฯลฯ ไปสู่ทักษะที่ยากขึ้น ส่วนครูศิลปะจะเน้นที่ความสนใจส่วนตัวของครูที่จะร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกันกับเด็ก นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนเรื่องการสอนศิลปะกับหัวหน้าโครงการเพื่อพัฒนารูปแบบการสอนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของแต่ละโรงเรียนเป็นสำคัญ ซึ่งจะขึ้นกับความสนใจของครูศิลปะแต่ละโรงเรียน ส่งผลให้ทักษะของครูแต่ละโรงเรียนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความสนใจเฉพาะตัว นอกจากนี้ยังสอนให้นักเรียนเก็บผลงาน เพื่อดูพัฒนาการ และสร้างความภาคภูมิใจให้เด็ก รวมทั้งใช้ประเมินผลงานในช่วงปิดโครงการด้วย
8.
ขอบเขตและระยะเวลาดำเนินโครงการ
:
ดำเนินการ
7
เดือน (
15
พฤศจิกายน
2546
ถึง
15
มิถุนายน
2547
)
มีนักเรียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
800
คน ครู
46
คนจาก
4
โรงเรียน คือ โรงเรียนสันตินิมิต (อ.ท่าแซะ) นักเรียน
111
คน ครู
12
คน , โรงเรียนสิริราษฎร์ (อ.ละแม) นักเรียน
272
คน ครู
14
คน, โรงเรียนห้วยเหมือง (อ.หลังสวน) นักเรียน
247
คน ครู
10
คน และ โรงเรียนสวนเพชร (อ.ละแม) นักเรียน
170
คน ครู
10
คน
9.
การประเมินผลและผลกระทบ
:
โครงการมีการกำหนดการประเมินผลไว้ในแผน ด้วยการจัดงานปลายเทอมเพื่อให้นักเรียนแสดงผลงาน และให้ผู้ปกครองมาร่วมงาน บางโรงเรียนมีการไปพูดคุยกับผู้ปกครองที่บ้านว่า เด็กมีทักษะการทำงานศิลปะเพิ่มขึ้นหรือไม่หลังจากที่ได้เรียนกับครูแอน นอกจากนี้บางโรงเรียนได้พูดคุยกับครู และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนไปจากเดิมทำให้ครูมีพัฒนาการด้านการสอน และเด็กก็มีทักษะการทำงานศิลปะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
10.
ความยั่งยืน
:
โรงเรียนมีหลักสูตรที่ได้จากครูแอนเป็นหลักสูตรการสอนศิลปะประจำโรงเรียน หลังจากที่แต่ก่อนเป็นการสอนตามความถนัดของครูมากกว่า นอกจากนี้เด็กที่ผ่านการเรียนกับครูแอนก็มัทักษะทางศิลปะมากขึ้น เช่น โรงเรียนสันตินิมิตร ที่ครูและนักเรียนร่วมกันวาดภาพบนกำแพง เป็นต้น นอกจากนี้เด็ก ๆ ยังเรียนรู้ที่จะเก็บผลงาน และพัฒนาทักษะฝีมือการวาดภาพ อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบความคิดให้มีความสร้างสรรค์และจินตนาการอีกด้วย
11.
จุดแข็ง และ อุปสรรค
:
เนื่องจากผู้ทำโครงการมีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ด้านการสอนศิลปะเป็นอย่างมาก
ทำให้ติดตั้งความรู้กับเด็กอย่างได้ผล และมีประโยชน์ต่อเด็กในระยะยาวเรื่องระบบคิดและจินตนาการ ส่วนอุปสรรคขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียน บางแห่งผู้อำนวยการสนับสนุนดีทำให้ทำงานง่าย แต่บางโรงเรียนที่ผู้บริหารไม่เข้าใจก็ทำให้ต้องทำงานหนักมากขึ้น หรือแม้แต่ตัวครูสอนศิลปะเอง ในกรณีที่มีความสนใจและกระตือรื้อร้นที่จะเรียนรู้จากครูแอนจะได้ประโยชน์ในแง่ทักษะการสอน แต่บางทีครูไม่สนใจก็ทำให้ครูแอนต้องทำงานกับเด็กตามลำพัง นอกจากนี้บางกรณีที่ครูไม่สนใจกลับเกิดผลดีกับเด็กเพราะทำให้ครูมีเวลาใกล้ชิดกับเด็กมากขึ้น อุปสรรคจึงขึ้นอยู่กับแต่ละแห่งเป็นสำคัญ รวมทั้งทัศนะส่วนตัวของผู้ทำโครงการที่ไม่คิดจะหาแนวทางที่จะดึงครูที่ไม่สนใจให้มาร่วม เพราะมองว่าเป็นเรื่องความสนใจส่วนบุคคลของครูแต่ละท่านมากกว่า
12.
ที่ติดต่อ
:
นางสาวชุมาพร
เสนียุทธ์ (ครูแอน)
01-250-4381
เขียนใน
GotoKnow
โดย
opgkm
ใน
เวทีเรียนรู้ของทีมOpg KM
คำสำคัญ (Tags):
#ศิลปะ
#เด็ก
#ครู
#กระบวนการ
#การติดตั้งความรู้
หมายเลขบันทึก: 72084
เขียนเมื่อ 11 มกราคม 2007 13:12 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 9 เมษายน 2012 19:39 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
opgkm
สมุด
เวทีเรียนรู้ของที...
โครงการบ้านวาดเขี...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท