วันนี้ผมขอย้อนกลับไปคุยเรื่องประสบการณ์ความสำเร็จของกลุ่มเม็กดำ ว่าสาเหตุที่สำคัญของความสำเร็จคือ การมีนักบริหาร ๕ ดาวอยู่ในสถาบันการศึกษานั้น ซึ่งผมคิดว่า เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง อย่างยิ่งยวด
ทีนี้ ผมก็มานั่งพิจารณาจำแนกว่า ดาวทั้ง ๕ ดวงนั้นเป็นอะไรบ้าง จึงมาได้ข้อสรุปคร่าว ๆ ว่า ดาวทั้ง ๕ ประกอบด้วย
ดวงที่ ๑ ความรู้ในการทำงาน ว่า ควรจะนำความรู้ชุดใดมาทำ หรือปฏิบัติในเวลาใด โดยการดูเป้าหมายของงาน เป็นหลัก
ดวงที่ ๒ ความเข้าใจในกระบวนการทำงาน รู้ซึ้งว่าสิ่งที่ปฏิบัติอยู่นั้นมีข้อดี ข้อด้อย อะไรบ้าง โดยปากไม่เสียเวลาสาละวนกับการคาบคัมภีร์
ดวงที่ ๓ ความสามารถหรือทักษะในการปฏิบัติงานตามความรู้และความเข้าใจที่มี อันนี้เป็นความสามารถที่เอาอย่างได้แต่เลียนแบบกันไม่ได้ครับ
ดวงที่ ๔ คือ ความจริงจังในการทำงาน ถึงลูกถึงคน ไม่ปล่อยจังหวะของงานให้ทิ้งว่าง หรือขาดตอน ทำงานทุกอย่างเต็มกำลังความสามารถ อีกทั้งยังรวมถึงการสร้างพลังกลุ่มและเครือข่ายอย่างเป็นจริงเพื่อจะให้เกิดผลงานตามที่ตั้งใจไว้
ดวงที่ ๕ คือ ความจริงใจในการทำงาน ไม่มีซ่อนเงื่อนซ่อนกล ที่ทำให้เกิดข้อระแวงสงสัยกับผู้ร่วมงาน และสมาชิกเครือข่าย ทำให้เกิดความไว้วางใจและเกิดพลังในการทำงานที่เป็นจริง
จากลักษณะ ๕ ดาวของผู้บริหารแห่งกองพลเม็กดำ ทำให้ผลงานของสถาบันและชุมชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ น่าเอาเยี่ยงอย่าง
สำหรับสถาบันอื่น
ผมคิดว่ายังไม่สายเกินไปที่จะทำตามกลุ่มต้นแบบ ที่เขาทำไว้แล้ว โดยเริ่มจาก
ผมคิดว่า ๕ ดาว ดังกล่าวข้างต้นนี้ น่าจะเป็นใบเบิกทางที่จะทำให้งานประสพผลสำเร็จได้อย่างดี
หรือใครมีดาวดวงอื่นเพิ่มขึ้นกว่านี้ ก็ลองเสนอเข้ามานะครับ
แต่ไม่น่าจะเป็น "ไปตามดวง" นะครับ
อาจารย์แสวงที่เคารพ
หนูขอเพิ่มดาวให้ผู้บริหารเม็กดำอีกสัก 2 ดาว ค่ะอาจารย์
1. ดาวประสานใจ เพราะท่าน ผอ.เป็นผู้ประสานงานชั้นยอดรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ดาวดวงนี้หายากในใจผู้บริหารทั่วไป
2. ดาวแห่งความมีชัยและให้เกียรติ ท่าน ผอ.มีชัยในใจของคณะครู นักเรียน และชุมชน ด้วยการให้ทุนคนมีความเท่าเทียมกัน ยอมรับในเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ เพราะทุกครั้งที่มีงาน ท่านผอ.จะยกย่องและให้เกียรติกับทุกคนมาก เสมือนทุกคนเป็นพระเอกและนางเอก
ขอบคุณค่ะ
ท่านเล่าฮูนี่น่าไปทำงานที่ก.พ. จะได้ไปออกระเบียบเฉพาะพวกดาวเทียม พวกดาวแท้จะได้รุ่งเรือง
ไม่ต้องมาสับสนกับพวกลิงหลอกเจ้า ให้กี่ดาวก็ไม่มีประโยชน์ กฎระเบียบมีไว้ให้หลบเลี่ยง ประเด็นเรื่องประสิทธิภาพของบุคลากรนี้ ถ้าเทียบกับต่างประเทศจะห่างชั้นกันมาก เจ้าหน้าที่เขา 1 คน จะทำงานได้ดีกว่าของเรา 3 คน เมื่อเจ้าหน้าเขาน้อนสัดส่วนตัวหารก็น้อยด้วย ทำให้รัฐจัดสวัสดิการได้ค่อนข้างสะดวก จึงเป็นผลดีทุกฝ่าย
ที่เล่าหูยกตัวอย่างมานั้น เหมาะสำหรับบริหารคนดี ถ้าคนไม่ดีจะออกระเบียบอะไรมาก็ฝ่อหมด ระบบราชการจึวมีแต่ถอยหลังเข้าคลอง เทียบกับภาคเอกชนเขาแล้วต่างกันมากจึงควรลดงานลดเจ้าหน้าที่ลงเรื่อยๆ ให้สัดส่วนไปเพิ่มที่ภาคเอกชน อย่างที่กระจายอำนวยกันอยู่นี้ ถ้าเอาวัฒนธรรมหลังเขาไปใช้ องค์กรชุมชนก็จะแย่เหมือนกัน เพราะเสพติดพฤติกรรมที่ไม่ดีมา
ครูบาครับ
มหาวิทยาลัยที่ผมไปเรียนปริญญาเอก เขามีอาจารย์สาขาเกษตรศาสตร์อยู่เพียง ๑๔ คน (ไม่เป็นคณะด้วยซ้ำ) แต่มีนักศึกษาป ตรี โท และเอก หลายร้อยคน
ทำไมเขาสอนได้ อย่างทีคุณภาพระดับโลกด้วยครับ
เพราะ
เช่น
สอนในชั้นเฉพาะปริญญาตรี ปริญญาโท เอก ไม่มีชั้นเรียน มีแต่ทำวิจัยครับ
ผมเลยไม่ทราบว่าที่เขาไปนั่งเรียนในระดับปริญญาเอก เขาไปเรียนอะไร
ปริญญาโทพอจะนึกออกบ้างนิดหน่อยครับ
ของเขาเน้นคุณภาพมาก่อนในทุกเรื่อง
ตั้งแต่รับคนเข้ามาทำงาน วิชาที่เปิดสอน คนที่เข้ามาเรียน ฯลฯ
แต่เราเน้นปริมาณไว้ก่อน
ต่างกันแค่นี้เองครับ
ภาพสไลด์อยู่ที่การเลือกครับ
เดี๋ยวจะให้เขาปรับให้ครับ
อาจารย์ศิริพงษ์
อยู่ที่ว่าใครกล่าว และพูดอยู่ในบริบทใด
จึงตอบให้ถูกต้องได้ยากครับ
ต้องถามคนพูดครับ