วันนี้ต่างจากเมื่อวันวาน "วิ่งทั้งเอาเรื่อง...และระยะทาง"
Text : Ka-Poom
.................................................
------------->จากเมื่อวานทดลองครั้งแรกด้วยตนเอง...ในการวิ่งเอาเรื่องแต่ไม่เอาระยะทาง
ทำให้ได้เริ่มเรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง...ของดวงจิต...ตามสภาวะที่เป็นอยู่ขณะนั้น
วันนี้
วันนี้...ได้เริ่มทำเพิ่มเติมขึ้นมาอีกนิด คือ วิ่งเอาทั้งเรื่อง...และระยะทาง...ที่ว่าอย่างนี้
ก็เพราะว่าลองวิ่งแบบไม่ลอยไปตามความเคยชิน...ซึ่งดวงจิตเรามักจะคุ้นกับความเป็นไปอย่างอัตโนมัติ
จึงลองฝืนตนเอง...อีกครั้ง...ด้วยการวิ่งกลับไปกลับมา...กะว่าจะวิ่งสักห้าสิบเมตร...แต่เอาเข้าจริงวิ่งไปประมาณเจ็ดสิบเมตร
และวิ่งกลับได้สักสามสิบเมตร...ก็วิ่งแบบเร่งสปีด...แล้วสลับช้า...
วิ่งอยู่ดีดี...เพลินๆ...ก็กลับเปลี่ยนใจวิ่งไต่บันไดขึ้นไปวิ่งข้างบน...สันทำนบกั้นน้ำ...
เอาง่ายๆ คือ...ไม่วิ่งไปตามกฏเกณฑ์ที่เคยวิ่ง หรือตั้งใจว่าจะวิ่ง...ทำสวนทางทุกอย่าง...
เมื่อวิ่งในลักษณะนี้สักระยะ...สังเกต "ดวงจิต" ตนเอง...ที่ระลึกรู้ตามการเคลื่อนไหว
และมองดู...สักพัก...ออกวิ่งเอาระยะทางบ้างได้ระยะทางไป-กลับประมาณสองกิโลเมตร
สังเกตดูตนเอง...โอ้โห...เหนื่อยมาก หัวใจเต้นแรง มากกว่าปกติที่วิ่งรอบสระใหญ่ที่เป็นระยะไม่ต่ำกว่าสองกิโลเมตร
ซึ่งการวิ่งรอบสระของตนเองนั้น...เหมือนวิ่งตามความเคยชินที่วิ่งอยู่ทุกวัน...ทุกวัน
............................................................................
ข้อสังเกตที่ได้...
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสามารถทางร่างกาย
หัวใจเป็นอวัยวะอย่างหนึ่ง ซึ่งมันถูกทำอะไรบางอย่างตามอัตโนมัติ...ซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร
ซึ่งมันอาจทำให้ทั้งเหนื่อยและไม่เหนื่อยได้...ซึ่งสิ่งนั้น คือ อะไรบางอย่างนั้น...เราไม่รู้ว่าคืออะไร
ซึ่งไม่ใช่ร่างกาย ... ไม่ใช่สสาร
แต่บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับร่างกาย...
ขณะที่เราเหนื่อยมากๆ...หากแต่เราลองฝืนวิ่งไป...วิ่งไปแบบสู้ตาย...
สิ่งที่เกิดขึ้นกลับพบว่า...ความเหนื่อยหายไป...ร่างกายกลับฝ่าและผ่านบางสิ่งบางอย่างไปได้...
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเรารู้สึกเหมือนว่าหัวใจจะวายเสียให้ได้...แต่ก็ไม่วาย...
สิ่งเหล่านี้...อาจจะต้องผ่านการทดลองหลายๆ ครั้ง..
บางคนอาจเป็นร้อยครั้ง...บางคนอาจเพียงแค่สิบครั้ง...ก็สังเกตพบได้ คนที่มีปัญญา...ฉลาดจะเข้าใจและสังเกตได้ง่าย
ซึ่งที่ได้ทำให้ตนเองเข้าใจ...
สิ่งที่พบ...หรือจะหาคำตอบให้แก่ตนเองได้ว่าทำไม...วิ่งลักษณะนี้บางครั้งจะเหนื่อยมากกว่า..ที่วิ่งตามปกติเหมือนที่วิ่งทุกวัน
ซึ่งการวิ่งทุกวันนี้เราได้ระยะทางมากกว่าการวิ่งแบบนี้..ซึ่งมันก็น่าจะเหนื่อยมากกว่า..แต่การณ์กลายปรากฏว่าการวิ่งแบบนี้กลับเหนื่อยมากกว่า...หากว่าใครที่อยากจะรู้...ก็คงที่จะต้องตัดสินใจทำด้วยตนเอง
มันจึงจะ.."อ๋อ!!!....เอง"...ด้วยตนเอง...
และมันต้องข้ามและทุ่มเท...และพิจารณาดูว่ามันข้ามบางสิ่งบางอย่างในดวงจิตตรงไหน..และต้องวิ่งขนาดไหน
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครบอกใครได้...คนฉลาดอาจทำเพียงสิบครั้ง...ก็อาจจะสังเกตเจอบางสิ่งบางอย่างในดวงจิต
และในบางคนที่ได้คำตอบด้วยตนเอง..ก็ไม่สามารถที่จะบอกคนอื่นได้
เพราะหากบอกเมื่อไหร่..ก็จะกลายเป็นว่า...บอกเพื่อให้จำ...บอกเพื่อให้คนฟังคาดหวังตามเรื่องที่ได้ฟัง
แต่จะไม่ได้ความจริง...แห่ง"ดวงจิต"...ตนเอง....
จริงเน๊าะที่เขาว่า อิริยาบถ จะเดิน จะวิ่ง จะทำอะไร ก็ก่อให้เกิด "สติ" ได้
อรุณสวัสดิ์ค่ะ...อ.หมอนนท์
ตกลงถอนฟันให้สาวน้อยเสร็จแล้วเหรอคะ....อิอิ...แอบแซวค่ะ....
ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักทาย
ทุกห้วงแห่งอารมณ์....ต่างควรมีสติกำกับ....และเรียนรู้ได้ทุกการเคลื่อนไหวค่ะ
(^_______^)
กะปุ๋ม
สวัสดีค่ะ น้องKa-Poom
ไม่ถอนค่ะ ไม่ถอน ... ถ้าถอนฟันลูกสาว ก้อเสียชื่อหมอฟันแย่สิคะ เดี๋ยวลองไปอ่านดูต่อนะคะ นี่เลย แม่ ... ปวดฟัน
ทำงานไปทำงานมา เพิ่งได้รู้นะคะว่า เราต้องมีสติกับงาน ไม่งั้นอารมณ์กระเจิดกระเจิงแน่เลย
สบายดีคะ(สวัสดีค่ะ)...อ.หมอนนท์
หากสติมี...อารมณ์หาย นิ่งยิ่งขึ้น
ทำงานอย่างสงบมากขึ้นแม้มีสิ่งมากระทบหรือรบกวน
ก็จะทำให้เราพิจารณา..ได้ง่ายและเร็วขึ้นค่ะ
...
เรื่อง.."แม่..ปวดฟัน"...รออ่านตอนต่อไปอยู่ค่ะ
(^____^)
กะปุ๋ม