" คันได้กินลาบก้อย อย่าลืมแจ่วแพวผัก
คันได้กินพาเงินพาคำ อย่าได้ลืมกะเบียนฮ้าง"
หมายถึง ถ้าได้กินดีอยู่ดีมีสุข ก็อย่าลืมอดีตทุกข์ยากมาก่อน
ผู้เขียนขอยกเอาคำผญา หรือภาษิตอีสาน ที่มีคติสอนใจบทนี้มากล่าวอ้าง เพราะ ช่างเข้ากันได้ดีเหลือเกินกับ บันทึกรักบ้านเกิด เพื่อปลุกสำนึกให้อนุชนที่ไปทำงานต่างถิ่น ทั้งไปในภาคอุตสาหกรรม ก่อสร้าง รับราชการ รัฐวิสาหกิจ ขอให้อย่าลืมถิ่นฐานบ้านเกิด ยังนึกถึงความหลังเมื่อเคยอยู่ในท้องถิ่นที่ไกลความเจริญ บรรยากาศเก่าๆที่ยังคงหลงเหลืออยู่ กลิ่นไอความหอมหวลของรวงข้าวเหลืองทองอร่าม
บรรยากาศที่แสนอบอุ่น ซื่อบริสุทธิ์ไร้การเสแสร้งของผู้คนในชนบท
เมื่อกลับไปเยือนก็ประทับใจทุกครั้ง แต่ผู้เขียนก็จะบอกแก่ญาติ พี่น้อง
เพื่อนฝูงเสมอว่า เราอยู่ได้ก็จริง แต่อย่างการศึกษา เพราะการศึกษาทำให้มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐยิ่งกว่าสัตว์ทั้งปวง ให้รู้เท่าทันคน ทันยุค ทันเหตุการณ์ จะได้ไม่เสียเปรียบใคร และจะได้ไม่เอาเปรียบใคร รู้จักแยกแยะสิ่งดีชั่ว รู้บาปบุญคุณโทษ ซึ่งการศึกษาจะเป็นฐานที่ดีต่อไปในการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบัน และอนาคต แต่อย่าทิ้งค่านิยม วัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงามของบ้านเราไป ให้สั่งสอนลูกหลานไว้สืบต่อไป
ถ้าพูดถึงคนอีสาน จะนึกถึงครูคำพูน บุญทวี ผู้ซึ่งสร้างตำนาน
ของคนอีสานให้คนทั่วประเทศได้รับรู้และเข้าใจถึงสภาพที่แท้จริง
และอยากจะฝากไว้ว่าไม่ว่าท่านจะทำอะไร เป็นใคร อยู่ถิ่นฐานไหน ขอให้รักบ้านเกิดของท่านให้รำลึกถึงเสมอว่านั่นคือจุดกำเนิดของชีวิต
ของเรา เมื่อเราได้อะไรดีๆเข้ามาในชีวิตมากมายเราควรจะทำอะไรบ้างเพื่อก่อให้เกิดสำนึกที่ดีต่อบ้านเกิดของเรา.........
บรรยากาศแห่งความอบอุ่น
ภายใต้มิตรภาพที่ยั่งยืน