การประชุมเริ่มเวลา13.30 น. ณ.ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้เข้าร่วมประชุม 13 คน จากพช. เกษตร ปกครอง กศน. และมวล. มีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
ประเด็นการพูดคุยมี5เรื่องคือ
1.แผนการจัดกิจกรรมปี2550
2.การใช้จ่ายงบประมาณในวงเงิน3ล้านบาท
3.การเชื่อมวงเรียนรู้(ระหว่างคุณเอื้อจังหวัดกับคุณอำนวยอำเภอ)
4.การขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
5.เครื่องมือธารปัญญา
มีเอกสารประกอบการประชุม คือ
1.กำหนดการประชุมวงเรียนรู้คุณเอื้อจังหวัดจำนวน8ครั้ง/เดือน
2.กำหนดการประชุมวงเรียนรู้คุณอำนวยอำเภอจำนวน7ครั้ง/เดือน
3.แผนนิเทศติดตามงานผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชและคณะจำนวน23ครั้ง/อำเภอ
4.โครงสร้างการทำงานโครงการปี2550
5.ร่างโครงการงบบูรณาการ3ล้าน (กศน.ดูแล 600 หมู่บ้านรุ่น 2 งบ2,300,000บาท ปกครองและยมนาดูแล551 หมู่บ้าน รุ่นสาม งบ700,000บาท)
สรุปผลการหารือ
1.งบบูรณาการที่กระจายให้จังหวัด10ล้านบาท (จากเดิมประมาณ550ล้านบาท) จัดแบ่งเป็น3ส่วนคือ งบยุทธศาสตร์5ประเด็นๆละ1ล้านบาทรวม5ล้านบาท งบฉุกเฉิน2ล้านบาท งบโครงการKM 3ล้านบาท (ตามแผนในเอกสารประกอบ5)
2.สนง.เกษตรจังหวัดซึ่งดูแล 400 หมู่บ้านรุ่นแรกจะใช้งบยุทธศาสตร์ประเด็นอาหารปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์จำนวน1ล้านบาทมาสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนแม่บทชุมชนผ่านกลไกศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยเชื่อมโยงกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.การขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงจะดำเนินการใน1,000หมู่บ้าน ในรุ่นแรกและรุ่นที่สอง (400+600หมู่บ้าน) รับผิดชอบโดยพช. จะมีการประชุมประสานแผน/งบประมาณกับหน่วยงานหลักอีก3หน่วยงานคือ กศน. เกษตรและสธ.ในวันที่11ม.ค.นี้ มีแนวคิดให้ร่วมกันทำงานเป็นทีมKM แต่แบ่งกันรับผิดชอบหน่วยงานละ250 หมู่บ้าน (วันที่11ม.ค.ผมติดรายการที่หาดใหญ่ ได้ประสานกับศูนย์ประสานความร่วมมือภาคชุมชนผ่านอ.จำนงและพัชณีให้เข้าร่วมหารือด้วย)
4.การเชื่อมวงเรียนรู้ในวงเรียนรู้ต่างๆควรกำหนดตารางเวลาเป็นทางการไว้เดือนละ1 ครั้ง โดยมีการหารือในวงเรียนรู้ย่อยอย่างไม่เป็นทางการ เริ่มจากคำสั่งมาเป็นการทำงานในหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ เกิดฉันทะ สนุก ได้ความรู้ งานสำเร็จ ได้เพื่อน มีความสุข จึงจะเป็นKMของแท้
5.ตอนนี้ทางสำนักงานจังหวัดให้หน่วยงานเสนองบเพิ่มเติม จึงต้องปรับแผนเดิมที่วางไว้ โดยสรุปคือ จะบูรณาการแผนกิจกรรมและงบประมาณใน2เรื่องหลักคือ การขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงใน1,000หมู่บ้าน และการทำแผนแม่บทชุมชนใน551หมู่บ้าน โดยภารกิจแรกมี4หน่วยงานหลักร่วมกันทำงานแบ่งรับผิดชอบหน่วยงานละ400หมู่บ้าน ภารกิจที่2 ให้ปกครองร่วมกับยมนา เป็นแม่งาน ให้ประสานความร่วมมือกับ 4 หน่วยงาน ซึ่งจะรับไม้ต่อมาเสริมตั้งแต่ต้น โดยเชื่อมโยงกับอบต.
สำหรับประเด็น เครื่องมือธารปัญญา มีเวลาจำกัด รองเกษรจากกศน.จะนัดหมายหารือทีมงาน นำเสนอที่ประชุมในคราวต่อไป
ก่อนเลิกประชุม ท่านผู้ว่าราชการได้ทบทวนภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งจะดำเนินการในรายทางก่อนการประชุมคราวหน้าในวันที่9ก.พ.2550 โดยขอให้เพิ่มการสืบค้นหมู่บ้านต้นแบบเพื่อการเรียนรู้ที่แต่ละหน่วยงานเห็นว่าน่าสนใจไว้ด้วย เพื่อดำเนินการจัดทำเป็นฐานข้อมูล เผยแพร่ต่อไป
การทบทวนภารกิจ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญให้แต่ละหหน่วยงานกลับไปทำการบ้านอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนเพื่อให้ได้ข้อสรุป โดยที่ปลัดอุดมเสนอว่าเราน่าจะมีทีมKM ร่วมเรียนรู้กันในแต่ละประเด็นตามหน้าที่และความสนใจอย่างไม่เป็นทางการทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และตำบลหมู่บ้าน นั่นเป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝันให้เกิดขึ้น
หลังจากนี้ ก่อนถึงวันประชุมที่9ก.พ.2550 เราจะมีการพบปะกัน เท่าที่ผมทราบคือ
วันที่11ม.ค. หารือเพื่อประสานแผนกิจกรรมและงบประมาณขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง1,000หมู่บ้าน4หน่วยงานหลัก ซึ่งผมประสานให้ทีมชุมชนเข้าร่วมเรียนรู้ด้วย
วันที่12ม.ค. มีการอบรมการเขียนBlogของทีมกศน. โดยอ.จำนงจะเป็นวิทยากร มีแนวคิดให้ผู้เข้าอบรมประมาณ50คนจากทุกอำเภอ ลงไปขยายผลกับหน่วยงานอื่นๆ ให้มีBlogในทุกตำบล งานนี้เจ้าพ่อBlogเมืองนครศรีธรรมราชทั้งอ.จำนง คุณชาญวิทย์ และอ.สำราญคงเป็นโต้โผติดตามสนับสนุนให้เกิดผลสำเร็จต่อไป
ผมคิดว่าในแต่เรื่อง เราจะต้องมี คุณประสานและคุณวิทยากรเชิงประเด็นที่มีความเชี่ยวชาญ อยากให้เกิดผู้รู้ในประเด็นนั้นมากยิ่งขึ้น เพื่อรวมกันเป็นทีม ตอนนี้เรามีทีมBlogที่หวังผลได้แล้ว
ทีมบูรณาการแผนและงบประมาณซึ่งมีพี่ปุกและพี่ชะอ้อนจากพช.เป็นแกนขับเคลื่อนบนฐาน1,000หมู่บ้านเป้าหมายน่าจะผสานกับพี่วีณาจากสาธารณสุขที่ได้รับมอบหมายให้เป็นแกนประสานแผนในภาพรวมสร้างทีมKMเพื่อจัดการงบประมาณอย่างบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง น่าจะมีทีมงานจากสำนักงานจังหวัด เกษตร ปกครอง ฯลฯ ที่รับผิดชอบเรื่องนี้มารวมทีมกัน ทำกิจกรรมและเรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เป็นวงเรียนรู้เรื่องการจัดทำแผนอย่างบูรณาการของจังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างเครือข่ายกับอำเภอ เป็นทีมKM เรื่องนี้โดยตรง เรื่องอื่นๆก็เช่นเดียวกัน เช่น วิทยากรกระบวนการที่ต้องช่วยดำเนินการประชุมให้สนุก ได้เนื้อหา เชื่อมโยงการเรียนรู้ให้กับผู้เข้าร่วม เป็นต้น
ผมเห็นว่าขั้นต่อไป เราต้องลงลึกเรื่องเหล่านี้มากขึ้น ตามที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดให้แนวว่า จะต้องจับตัววางตายคนทำงานในแต่ละเรื่อง