หน้าแรก
สมาชิก
opgkm
สมุด
เวทีเรียนรู้ของที...
โครงการหนังสั้น
opgkm
กิติมาภรณ์ จิตราทร
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
โครงการหนังสั้น
เป้าหมาย : ต้องการใช้หนังสั้น และสารคดี ซึ่งเป็นสื่อที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มเยาวชน และนักศึกษา มาเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดความรู้ และรณรงค์ด้านสุขภาพ เพราะที่ผ่านมาการใช้สื่อรณรงค์เพื่อสุขภาพนั้นมีน้อยมาก มีเพียงหน่วยงานสาธารณสุขเท่านั้นที่ทำ เช่น รณรงค์เรื่องต่าง ๆ ตามนโยบาย
โครงการหนังสั้น
1.
คำสำคัญ
:
สื่อ หนังสั้น สารคดี
เยาวชน
2.
จังหวัด
:
มหาสารคาม
3.
กลุ่มเป้าหมาย
:
เด็กนักเรียนระดับมัธยมปลาย และเยาวชนระดับอุดมศึกษา
ในภาคอีสาน
4.
เป้าหมาย
:
ต้องการใช้หนังสั้น และสารคดี ซึ่งเป็นสื่อที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มเยาวชน และนักศึกษา มาเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดความรู้ และรณรงค์ด้านสุขภาพ เพราะที่ผ่านมาการใช้สื่อรณรงค์เพื่อสุขภาพนั้นมีน้อยมาก มีเพียงหน่วยงานสาธารณสุขเท่านั้นที่ทำ เช่น รณรงค์เรื่องต่าง ๆ ตามนโยบาย
5.
สาระสำคัญของโครงการ
:
แกนนำทั้ง
2
ท่าน เป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาการสื่อสารมวลชน คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และถนัดการใช้สื่อ ในการทำกิจกรรมด้านสุขภาพ โดยมีประสบการณ์การทำงานกับเด็กในชุมชน เพราะเข้าไปทำละครเร่ ซึ่งมักเป็นเด็กเล็ก
(
ประถมปลาย
–
มัธยมต้น
)
มากกว่า โดยมีเด็กมหาวิทยาลัยเป็นแกนนำ
(
แต่เป็นเด็กที่อยู่ในสาขาวิชา การทำงานช่วงแรกกลุ่มเป้าหมายจึงไม่ได้เน้นที่เด็กมหาวิทยาลัย แต่มุ่งให้เด็กในชุมชนมีบทบาทในการร่วมคิดเรื่องยาเสพติดในแต่ละชุมชนมากกว่า
)
ซึ่งพื้นที่การทำกิจกรรมส่วนใหญ่จะอยู่ในเขต อ
.
เมือง จ
.
มหาสารคาม ส่วนโครงการนวัตกรรมสื่อฯ ที่ทำครั้งนี้เป็นการทำงานกับเด็กโต
(
มัธยมปลาย
–
อุดมศึกษา
)
เนื่องจากเห็นว่ามีความพร้อมทางเครื่องมือ และเด็กโตก็มีความสนใจมากขึ้นในเรื่องสื่อสมัยใหม่ เช่น การทำหนังสั้น ทำสารคดี เป็นต้น ซึ่งกำลังเป็นกระแสที่ได้รับความนิยม จึงลองขยับมาทำงานกับเด็กโต
6.
เครื่องมือที่ใช้
:
มีกิจกรรมหลัก
4
กิจกรรม คือ (
1
) อบรมให้ความรู้เรื่องการผลิตภาพยนตร์ โดยเชิยผุ้มีความรู้และผู้เชี่ยวชาญมาเป็นวิทยากร (
2
)
workshop
ผลิตหนังสั้นและสารคดีร่วมกับผู้กำกับในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมการผลิต (
Pre-Production)
,ขั้นตอนการผลิต (
Production)
และขั้นตอนหลังการผลิต (
post-Production
)
ก่อนที่เด็กจะกลับไปถ่ายทำงานของตัวเอง
(
3
) กิจกรรมจัดประกวดโดยให้รางวัลตั้งแต่ระดับดีเด่น ถึงระดับชมเชย โดยแบ่งเป็นระดับอุดมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา (
4
) การประชาสัมพันธ์ โดยเอาผลงานทั้งหมดออกฉายในเคเบิลทีวีท้องถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
FREE T.V.
ซึ่งอาจารย์ชาคริตมีเครือข่ายอยู่ และฉายในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในภาคอีสานด้วย
7.
การจัดระบบ โครงสร้าง กระบวนการทำงาน
:
ทีมงานมีการปรับเปลี่ยนการทำงานเล็กน้อย กล่าวคือในตอนแรกจะเป็นการเชิญชวนให้เยาวชนส่งบทและวาด
storyboard
เข้าประกวด แล้วจะคัดเรื่องที่ผ่านก่อนจะส่งกลับให้ถ่ายทำ แต่พบว่าที่ส่งมายังใช้ไม่ได้หลายเรื่อง จึงปรับแนวทางการทำงานใหม่ โดยคัดเลือก
plot
ที่น่าสนใจ
3
เรื่องออกมาเป็นเรื่องหลัก ถือว่าเป็นตัวอย่าง เพื่อนำไปถ่ายทำ โดยให้เด็กมหาวิทยาลัย ชั้นปี
2
และปี
3
จำนวน
30
คนมารวมกันเป็นทีม เพื่อทำหนังสั้นตัวอย่าง
3
เรื่อง ที่จะไม่ประกวด (ให้ทุกคนร่วมเรียนรู้ และใช้เป็นหนังสั้นตัวอย่าง) แล้วเอาเด็กทั้งหมดที่สนใจมาอบรม และทำ
workshop
ให้รู้จักมุมมองของกล้อง เทคนิคการถ่ายทำ รวมทั้งขั้นตอนต่าง ๆ อย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญ
3
รอบ (รอบละ
10
วัน) จากนั้นจึงให้เด็กกลับไปถ่ายทำ
พบว่าเด็กส่งหนังเข้าประกวดทั้งหมด
18
เรื่อง
จากนั้นจึงจัดประกวดให้รางวัล
10
เรื่อง
(หนังสั้น
5
เรื่อง หนังสารคดี
5
เรื่อง)
8.
ขอบเขตและระยะเวลาดำเนินโครงการ
:
ดำเนินการ
1
ปี (
1
พฤศจิกายน
2547 -
31
ตุลาคม
2548
) เด็กที่ส่งผลงานเข้าร่วมทั้งหมด
50
คน จากตัวแทนสถาบันการศึกษา
19
จังหวัดในภาคอีสาน โดยในจำนวนนี้มาจากโรงเรียนมัธยม
20
แห่ง
และมาจากระดับอุดมศึกษาอีก
26
แห่ง
9.
การประเมินผลและผลกระทบ
:
โครงการไม่มีกิจกรรมประเมินผลอย่างเป็นทางการ แต่สามารถประเมินความรู้ความเข้าใจของเด็กได้จากบทที่ส่งมาก่อนอบรมและหลังอบรม ทั้งเรื่องมุมมอง เทคนิค และไอเดีย ซึ่งพบว่าเด็กมีความเปลี่ยนแปลง มีการพัฒนามากขึ้น
นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยยังสนับสนุนให้มีกิจกรรมต่อ
คือทีวีเยาวชน ที่จะลงไปทำงานกับระดับโรงเรียนโดยเฉพาะเรื่องเทคนิคการถ่ายทำและตัดต่อภาพยนตร์ ซึ่งหลายโรงเรียนให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ
10.
ความยั่งยืน
:
เทคนิคการผลิตหนังสั้นและมุมมองเรื่องการวางภาพ การสื่อสารผ่านกล้องเป็นสิ่งที่จะติดตัวเด็กและเยาวชนที่ผานการอบรมไป อันเป็นความรู้ที่ยั่งยืน ส่วนใครจะมีการพัฒนาศักยภาพการทำงานเพิ่มเติมมากขึ้นก็เป็นเรื่องของแต่ละคนเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดการประสานความร่วมมือระหว่างมหาวิทาบัย ชุมชน และโรงเรียนอันจะเป็นฐานสำคัญในการทำงานร่วมกันต่อไปในอนาคต
11.
จุดแข็ง และ อุปสรรค
:
อาจารย์ทั้งสองท่านเป็นจุดแข็งที่เสริมกันได้ดี เพราะทั้งคู่มีความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์การทำงานด้านสื่อมายาวนาน
มีเครือข่ายทั้งเครือข่ายสื่อ เช่น
ทีวีท้องถิ่น เคเบิลทีวี ฯลฯ และเครือข่ายมหาวิทยาลัยที่ร่วมกันทำโครงการทั่วภาคอีสาน ซึ่งความสัมพันธ์ของเครือข่ายที่กว้างไกลนี้ส่งผลให้เกิดกระแสความตื่นตัวเรื่องสุขภาพ ผ่านการใช้สื่อหนังสั้นและสารคดีอย่างได้ผล ส่วนอุปสรรคสำคัญที่อาจารย์ทั้งสองท่านเห็นตรงกันคือ วิธีทำให้เด็กมีความคิด และตีความเป็นขั้นตอนที่ยากพอสมควร เนื่องจากเด็กอยู่ในวัยที่สนใจเรื่องเทคนิคหรือการสนำเสนอที่น่าตื่นเต้น มากกว่าจะเห็นความสำคัญเรื่องเนื้อหาหรือความคิดที่อยู่ภายในเรื่องราว ซึ่งการกระตุ้นตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับตัวเด็กเองด้วยเป็นสำคัญ เพราะแม้ผู้กำกับเก่ง ๆ ก็ยังอาจจะทำไม่ได้
12.
ที่ติดต่อ
:
ชมรมสื่อสร้างสรรค์ สาขาการสื่อสารมวลชน คณะวิทยาการสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม
44150
โทรศัพท์
043 – 754321
ต่อ
2452
, โทรสาร
043 – 754359
อ
.
อังคณา
พรมรักษา
01 – 5442611
/ อ
.
ชาคริต สุดสายเนตร
09-841-8085
เขียนใน
GotoKnow
โดย
opgkm
ใน
เวทีเรียนรู้ของทีมOpg KM
คำสำคัญ (Tags):
#สื่อ
#หนังสั้น
#สารคดี
#เยาวชน
หมายเลขบันทึก: 71616
เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2007 11:47 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:58 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
opgkm
สมุด
เวทีเรียนรู้ของที...
โครงการหนังสั้น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท