น้ำหนัก อาจหนักจากน้ำ


เราๆ ท่านๆ คงจะมีเครื่องดื่มโปรดไม่เหมือนกัน... คุณย่าของผู้เขียนท่านชอบน้ำฝน วันนี้มีข่าวดีสำหรับท่านที่ต้องการควบคุมน้ำหนักครับ

Hiker

เราๆ ท่านๆ คงจะมีเครื่องดื่มโปรดไม่เหมือนกัน... คุณย่าของผู้เขียนท่านชอบน้ำฝน วันนี้มีข่าวดีสำหรับท่านที่ต้องการควบคุมน้ำหนักครับ

อาจารย์แคโรลีน โอนีล นักโภชนากรได้ทำการสำรวจน้ำ และเครื่องดื่มของคนอเมริกัน ผลการสำรวจพบว่า คนอเมริกันเกือบทั้งหมดคิดปริมาณพลังงานจากอาหาร หรือแคลอรีจากอาหาร

ทว่า... คนอเมริกันเกือบทั้งหมดไม่ได้คิดแคลอรีจากน้ำ และเครื่องดื่ม เลยได้แคลอรีจากน้ำ และเครื่องดื่มไปประมาณ 22% ของอาหารทั้งหมด

คนอเมริกันดื่มน้ำเปล่าน้อยมาก ไม่ถึง 1 ลิตรต่อวัน หรือเฉลี่ยเพียงคนละ 0.67 ลิตร (670 มิลลิลิตร)

ขณะเดียวกันกลับดื่มชา หรือเครื่องดื่มเติมน้ำตาลวันละ 525 มิลลิลิตร (0.525 ลิตร) นมวันละ 222 มิลลิลิตร (0.222 ลิตร) กาแฟวันละ 267 มิลลิลิตร (0.267 ลิตร) ดังตารางที่ 1

    ตารางที่ 1:

แสดงปริมาณน้ำ และเครื่องดื่มที่คนอเมริกันดื่มใน 1 วัน

ชนิดเครื่องดื่ม

ปริมาณ (มิลลิลิตร)

น้ำเปล่า

670

ชา เครื่องดื่มเติมน้ำตาล

525

นม

225

กาแฟ

267

 

อาจารย์แคโรลีนกล่าวว่า ถ้าคิดเฉพาะเครื่องดื่มเติมน้ำตาล (ไม่นับรวมแอลกอฮอล์) แล้ว คนอเมริกันได้รับพลังงาน หรือแคลอรีจากเครื่องดื่มเติมน้ำตาลมากถึง 6.4% ของอาหารทั้งหมด

เรื่องที่น่าห่วงมากคือ วัยรุ่นเป็นวัยที่ดื่มเครื่องดื่มเติมน้ำตาลมากกว่าวัยอื่นๆ วัยรุ่นชายได้รับพลังงาน หรือแคลอรีจากเครื่องดื่มเติมน้ำตาลมากถึง 10% ของอาหารทั้งหมด

<p>ส่วนวัยรุ่นหญิงได้รับพลังงาน หรือแคลอรีจากเครื่องดื่มเติมน้ำตาลมากถึง 9% ของอาหารทั้งหมด ดังตาราง (ตารางที่ 2)</p>

    ตารางที่ 2:

แสดงพลังงานที่คนอเมริกันได้รับจากเครื่องดื่มเติมน้ำตาล

</font><table border="1" cellspacing="1" cellpadding="7" width="284"><tbody>

กลุ่มคนอเมริกัน

ร้อยละของพลังงานใน 1 วัน

คนอเมริกันทุกวัย

6.4

วัยรุ่นชาย

10

วัยรุ่นหญิง

9

</tbody></table><p></p><p>วิธีป้องกันโรคอ้วน หรือการควบคุมน้ำหนักควรเริ่มที่ควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย </p><p>การเปลี่ยนนมจากไขมันเต็มส่วน (whole milk) เป็นนมไขมันต่ำ (low fat) หรือนมไม่มีไขมัน (nonfat) มีส่วนช่วยป้องกันโรคอ้วนได้ </p> <p>การใช้น้ำตาลเทียมแทนน้ำตาล การไม่ดื่มแอลกอฮอล์ (เหล้า เบียร์ ไวน์) และการดื่มน้ำ หรือเครื่องดื่มที่ไม่เติมน้ำตาล เช่น ชาจีน ชาสมุนไพร ฯลฯ มีส่วนช่วยป้องกันโรคอ้วนได้</p>

น้ำเปล่า หรือน้ำชา (ไม่เติมน้ำตาล) คงจะเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ คุณย่าของผู้เขียนชอบดื่มน้ำฝน ท่านผู้อ่านชอบดื่มอะไรครับ...

    แหล่งที่มา:               

  • ขอขอบพระคุณ (thank) > Mark Weinraub. Liquids make up 22 percent of American diet: study. > [ Click - Click ] > January 8, 2007.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ จัดทำ > ๙ มกราคม ๒๕๕๐ > ปรับปรุงแก้ไข 24 เมษายน 2550.
  • ขอขอบพระคุณ > โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี + อาจารย์เทวินทร์ อุปนันท์ IT + หน่วยรังสีกรรม > สนับสนุนทางเทคนิค + อินเตอร์เน็ต.
  • ขอขอบพระคุณ > ศูนย์มะเร็งลำปาง + อาจารย์ ณรงค์ ม่วงตานี และอาจารย์เทพรัตน์ บุณยะประภูติ IT + กลุ่มงานรังสีวินิจฉัย > สนับสนุนทางเทคนิค + อินเตอร์เน็ต.
  • เชิญอ่าน "บ้านสาระ"  > http://gotoknow.org/blog/talk2u

</font>

หมายเลขบันทึก: 71593เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2007 11:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

สวัสดีปีหมูครับคุณหมอ

ผมดื่มน้ำเปล่าเป็นหลักครับ ช่วงหน้าหนาวนี่จะมีน้ำชามาแจมเป็นครั้งคราว (ไม่ใส่น้ำตาลครับ)

ขอให้แข็งแรงไม่เป็นหวัดนะครับ ฮัดชุ้ย!!

ขอขอบคุณอาจารย์จันทร์เมามาย และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอแสดงความยินดีที่ดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก
  • น้ำเปล่า หรือน้ำชาไม่ใส่น้ำตาลน่าจะเป็นน้ำเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุด

ขอขอบคุณสำหรับคำอวยพรดีๆ...  

  • ขอให้อาจารย์จันทร์เมามาย และท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุข ความเจริญ มีแรง มีกำลังไว้ทำอะไรดีๆ ไปนานๆ ครับ

ขอบพระคุณอาจารย์วัลลภครับ

  • ดื่มเบียร์มันขม ดื่มนมดีกว่า (low fat)

หมอสุข

ขอขอบพระคุณอาจารย์หมอสุข และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ ครับ
  • เมืองไทยนี่... ถ้าลด ละ เลิกการดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ได้... โดยเฉพาะก่อนขับรถ สังคมคงจะดีขึ้นมากทีเดียว
  • สวัสดีครับอาจารย์ ในฐานะวัยรุ่นคนหนึ่งนะครับ
  • ผมหัดทานเหล้า เบียร์ ตั้งแต่ผมอยู่ ม.๕ ครับ แต่ตอนนี้ผมอยู่ปี ๓ แล้วครับ ผมงดเว้นการกินสุราทุกชนิดมาเป็นเวลานานมากแล้วครับ (พยายามรักษาศีลครับ)
  • ผมชอบทานน้ำเปล่ามากที่สุดครับ
  • รองลงมาเป็นนมถั่วเหลืองผมกินวันละประมาณ ๓ - ๔ กล่อง (๒๕๐ CC) ครับ
  • สุดท้ายผมทานกาแฟครับ (เวลาเรียนมันง่วงครับ บางครั้งนะครับ)
  • ขอคำแนะนำหน่อยครับ

ขอขอบคุณ คุณบีเวอร์ และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ก่อนอื่น... ขออนุโมทนาที่ไม่ดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์... สาธุ สาธุ สาธุ
  • น่าภาคภูมิใจแทนคุณพ่อ คุณแม่ ญาติสนิทมิตรสหาย และ มน. ที่มีนักกิจกรรม "สีขาว (สีแห่งการปลอดยาเสพติด)" เช่นนี้

เครื่องดื่ม...

  • เครื่องดื่มที่น่าจะดีกับสุขภาพมากที่สุดน่าจะเป็น "น้ำเปล่า" หรือ "น้ำชา (ไม่เติมน้ำตาล)"
  • การดื่มชามีข้อดีเหนือกว่าน้ำตรงที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารฟลาโวนอยด์ หรือสารพฤกษเคมี (สารเคมีในผลิตภัณฑ์พืช)
  • ข้อเสียของชาคือ ทำให้การดูดซึมแร่ธาตุ โดยเฉพาะธาตุเหล็กที่ใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดงลดลง อาจทำให้ท้องผูก(บางคน) และเสียแคลเซียมนิดหน่อย(2-3 มิลลิกรัม)

นมถั่วเหลือง...

  • นมถั่วเหลืองมีโปรตีนสูง และแร่ธาตุปานกลาง นับเป็นเครื่องดื่มที่ดีกับสุขภาพมาก
  • ปัจจุบันนมถั่วเหลืองบรรจุกล่องนิยมเติมนมผง แคลเซียมจากนม หรืองาดำ... เพื่อเพิ่มแคลเซียม > ดูได้จากฉลากอาหารด้านข้างกล่อง (ควรเลือกชนิดที่มีการเติมแคลเซียม)

นมถั่วเหลือง...

  • นมถั่วเหลืองบางยี่ห้อมีระดับไขมันอิ่มตัวสูงผิดปกติ เช่น 20-25% ฯลฯ
  • เข้าใจว่า อาจมีการเติมน้ำมันปาล์ม (ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวสูง) หรือเนยเทียม (ส่วนใหญ่ทำจากน้ำมันปาล์ม + เติมไฮโดรเจน ทำให้ไขมันอิ่มตัวสูงด้วย และไขมันทรานส์สูงด้วย)
  • ถ้าเป็นไปได้... เรียนเสนอให้เลือกนมถั่วเหลืองที่มีไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10-12% ต่อกล่อง

กาแฟ...

  • กาแฟไม่ใช่ผู้ร้าย... ถ้าดื่มถูกเวลา
  • กาแฟ(ที่มีกาเฟอีน)ช่วยแก้ง่วง ทว่า... อาจทำให้เสียแคลเซียมได้เล็กน้อย (ประมาณ 2-3 มิลลิกรัม)
  • ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ... การดื่มกาแฟไม่เกิน 3 แก้วต่อวันนับว่า ปลอดภัย

กาแฟ...

  • ถ้าเป็นไปได้... ควรชงกาแฟเอง
  • กาแฟชงเองมักจะมีปริมาตร พลังงาน(แคลอรี) น้ำตาล และไขมันต่ำกว่ากาแฟซื้อ (มักจะใส่ครีมเทียม น้ำตาล นมมากกว่ากาแฟชงเอง)

ท่านอาจารย์จันทวรรณแนะนำให้เติมนมไขมันต่ำ หรือนมไม่มีไขมันปนไปในกาแฟ เพื่อชดเชยการสูญเสียแคลเซียม (ได้แคลเซียมประมาณ 300-400 มก./แก้ว ขณะที่กาแฟทำให้ขับออกทางปัสสาวะ 2-3 มก.)

  • น่าจะมีการทำวิจัย... อัดเสียงเลคเชอร์(อาจารย์บรรยาย) ทดลองดูว่า เสียงอาจารย์แบบไหนทำให้ง่วงได้มากที่สุด > ทำเป็น MP3 ให้ดาวน์โหลดเป็นยาแก้นอนไม่หลับ... 

ภาพรวมของการดื่มน้ำ + นมถั่วเหลือง + กาแฟเพื่อแก้ง่วง.... นับว่า ดีกับสุขภาพมากครับ

  • ขอบคุณอาจารย์หมอมากครับสำหรับคำแนะนำ
  • สำหรับงานวิจัยดังกล่าวนั้น เดี๋ยวเอาไว้ผมอยู่ปี ๔ วิชา การศึกษาค้าคว้าด้วยตนเอง แล้วผมจะลองปรึกษาเพื่อนๆดูนะครับ

ขอขอบคุณ คุณบีเวอร์และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบคุณครับ
  • ถ้ามีการศึกษาเรื่องนี้... ต่อไปอาจจะมีเว็บไซต์ให้ดาวน์โหลดเสียงกล่อมนอนแบบไม่ต้องใช้ยานอนหลับก็เป็นได้
  • สวัสดีปีใหม่ครับอาจารย์หมอ
  • เมื่อก่อนผมไม่คอยทานน้ำ
  • แต่เดี๋ยวนี้เวลาดื่นนอนตอนเช้า ผมจะดื่มน้ำเปล่าก่อนเป็นอันดับแรก
  • รู้สึกว่าระบบการขับถ่ายดีครับ
  • แต่ยังรู้สึกว่าตัวเองยังทานน้ำไม่ถึง 8 แก้วต่อวันครับ

ขอขอบคุณอาจารย์บอย และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • สวัสดีปีใหม่เช่นเดียวกันครับ

การดื่มน้ำตอนเช้ามีข้อดีหลายอย่าง...

  • คนเรามักจะขาดน้ำในช่วงหลับ + เช้า...

ภาวะขาดน้ำมีผลทำให้เสี่ยงต่อ...

  • การเกิดนิ่ว
  • ข้อเสื่อม(เนื่องจากกระดูกอ่อนจะยุบตัวลงบางส่วน)
  • เส้นเลือดอุดตัน (เนื่องจากเลือดจะข้นมากขึ้น)
  • ท้องผูก
  • สมรรถภาพทางกายตกลง เช่น ถ้าออกกำลังอาจจะไม่ค่อยมีแรง ฯลฯ

ขอสนับสนุนให้ดื่มน้ำจนปัสสาวะมีสีจาง หรือดูใส เพื่อป้องกันโรคภัยหลายอย่างครับ...

 

  • ขอบพระคุณอาจารย์หมอมากครับ สำหรับข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการดื่มน้ำ

ขอขอบคุณอาจารย์บอยที่แวะเยี่ยมเยียนครับ...

ในมหาวิทยาลัยในอเมริกาอนุญาตให้เอาน้ำมาดื่มในห้องเรียนได้ครับ นักศึกษาอเมริกันก็มักพกขวดน้ำติดเป้กันคนละขวด ผมเคยสังเกตว่าพวกตัวอ้วนๆ มักจะพกน้ำหวาน ส่วนพวก "sporty" มักจะพวกน้ำเปล่าครับ

ตอนนี้เวลาผมสอน ผมจะให้นักศึกษาเอาน้ำมากินในห้องเรียนได้ (เพราะผมเองก็เอาเข้าไปดื่มไปสอนไปบ่อยๆ) แต่ถ้าใครพกชาเขียวใส่น้ำตาลมาผมก็จะแซว ถ้าพกนมถั่วเหลืองหรือน้ำเปล่าผมก็จะชมครับ 

ขอขอบพระคุณอาจารย์ธวัชชัย...

  • ขอขอบพระคุณครับ... เพิ่งทราบบรรยากาศการเรียนในอเมริกาที่มีการพกขวดน้ำเป็นครั้งแรก

ชาเขียวใส่น้ำตาลดูจะมีข้อเสียมากกว่าข้อดี

  • เพราะน้ำตาลมักจะทำให้อ้วน
  • ภาวะอ้วนทำให้เสี่ยงต่อความดันเลือดสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ข้อเสื่อม นิ่วถุงน้ำดี และโรคอื่นๆ เช่น มะเร็ง ฯลฯ เพิ่มขึ้น

ท่านพระณพล (นะ-พล)... อาจารย์สอนพระอภิธรรมที่ลำพูนกล่าวว่า

  • เมื่อก่อนท่านจะเพลียง่าย คล้ายจะเป็นลม
  • ต่อมาพกขวดน้ำดื่ม... ดื่มไปทีละน้อย อาการดังกล่าวก็หายไป

เมืองไทย... ใครขาดน้ำเป็นลมง่ายครับ เพราะบ้านเราอากาศร้อน ชื้น

  • ขอขอบพระคุณครับ...

สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ

ดิฉันมีเรื่องปรึกษาค่ะ คือเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549 ล้มกระดูกข้อเท้าซ้ายร้าวใส่เฝือกอ่อน 1 เดือน  ถอดเฝือกแล้วอาการเจ็บก็ยังมีอยู่จนทุกวันนี้หมอบอกว่ามีอาการข้อเสื่อมบริเวณที่บาดเจ็บ  ถ้ากินกลูโคซามีนจะดีขึ้นหรือไม่คะ  แล้วจะเลือกยี่ห้อหรือเปล่าคะ

ขอบพระคุณค่ะ

ขอขอบคุณคุณกาญจนาและท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญโรคข้อ และไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูก 
  • ค้นจาก www.mayoclinic.com พบมีคำตอบของท่านอาจารย์แพทย์หญิงเอพริล ฉาง-มิลเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญโรคข้อ
  • ขอยกคำตอบของท่านอาจารย์มาครับ...

กลูโคซามีน...

  • กลูโคซามีน > ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่า กลูโคซามีนจะช่วยสร้าง หรือเสริมกระดูกอ่อนใหม่ได้
  • กลูโคซามีน + คอนดรอยทิน (glucosamine + chondroitin) ช่วยลดอาการปวดข้อเข่าเสื่อม (knee osteoarthritis) ได้ในคนไข้บางคน (ไม่ใช่ทุกคน หรือคนส่วนใหญ่) 

ที่มา:

เรียนเสนอ...

  • เรียนเสนอให้ลองใช้กระเป๋าน้ำร้อน หรือแผ่นเจล 3 M (นำไปอุ่นในน้ำร้อน หรือไมโครเวฟตามคำแนะนำในกล่อง + ใช้ผ้าหุ้มก่อน) ประคบเช้า-เย็น ครั้งละ 10-15 นาที... แบบนี้ประหยัด และน่าจะได้ผลดี

เรียนเสนอให้ฝึกหายใจช้าๆ เพื่อให้สมาธิดีขึ้น และอาจทำให้อาการปวดน้อยลงได้

ถ้านับถือพระพุทธศาสนา... เรียนเสนอให้สาธยายธรรม สวดมนต์ หรือสวดพระปริตร โดยเฉพาะบทโพชฌงค์ทุกวัน

อาจารย์ค่ะ อยากเรียนถามนะค่ะว่าน้ำถ้าเราดื่มมากเกินไปน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นไหมค่ะ หนูเป็นคนที่ดื่มน้ำเยอะมากเพราะติดนิสัยดื่มน้ำตลอดเวลา ประมาณวันละ 3 ลิตรอาจมากกว่านั้นได้ พอดีมีเพื่อนทักว่าดื่มน้ำมากตัวบวมน้ำหนักขึ้น

ขอบพระคุณค่ะ

ขอขอบคุณ.. คุณสิริลักษณ์ และท่านผู้อ่านทุกท่าน

  • การดื่มน้ำมากเกินไปไม่มีส่วนทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
  • การดื่มน้ำมากเกินไปอาจทำให้ระดับเกลือแร่ในร่างกายลดลงได้ (น้ำมากขึ้น + เนื้อน้อยลง)

คนไทย...

  • คนไทยควรดื่มน้ำวันละ 2.5 ลิตร เนื่องจากอากาศบ้านเราร้อน + ชื้น
  • และควรดื่มเพิ่มถ้าหิวน้ำ หรือปัสสาวะสีเหลืองเข้ม (ควรดื่มให้ปัสสาวะสีเหลืองจาง หรือไม่เห็นสี)

วิธีป้องกันง่ายๆ...

  • วิธีป้องกันง่ายๆ คือ น่าจะลองเสริมชาสมุนไพรเข้าไปหน่อย...
  • ชาที่ดี และราคาค่อนข้างถูกคือ ชาใบหม่อน
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท