เส้นทางนี้ความรู้ผ่านเฉยๆ หรือ?


ไม่ควรทำทุกอย่างให้เป็นวิชาการ แต่อธิบายวิชาการในเชิงวิชาเกินได้ ถ้าเราอธิบายแบบวิชาเกินไม่เป็น มานำเสนอแข็งกะโดกเหมือนม้าดีดกะโหลก ใช้ศัพท์แสงทางเทคนิควุ่นวายไปหมด เดี๋ยวจะกลายเป็นละอ่อนทางวิชาการ

เส้นทางนี้ความรู้ผ่านเฉยๆ หรือ?

   ผมกลับจากโรงเรียนเม็กดำมา ก็เจอการบ้านที่เป็นยาขมหม้อใหญ่รออยู่หลายขนาน เปิดบล็อกมาก็เจอคำถามของคุณครูดอกไม้ขาว ที่ถามโดยคำแสดรออยู่ ก็นึกว่าเออ..บล็อกนี้ดีนะ..ยังทวงถามตราบใดที่เรายังไม่ตอบ บังเอิญว่าช่วงนี้การส่งข้อมูลช้ามาก นั่งรอแบบงอมืองอเท้าเป็นชั่วโมง นั่งนั่งยุบหนอ พองหนอ อย่างเดียว ก็ดีเหมือนกันจิตใจจะได้ติดโช๊คอัพบ้าง

   สาเหตุมาจากคณะครูกำลังชวนลูกศิษย์ลงบล็อกเป็นช่วงที่เครื่องกำลังทะยานขึ้นจากรันเวย์ ได้รับโทรศัพท์แนะนำให้ย้ายไปอยู่ช่องhttp:learners.in.th/เลยต๊กกะใจวงแทบแตก ผมติดการต้อนรับนักศึกษาที่แวะมาดูงานกลุ่มหนึ่ง ไม่ได้รับโทรศัพท์ให้ฉับพลันในช่วงนั้น ความอลเวงก็เลยทอดจังหวะออกไป แต่ตอนนี้ชื่นมื่นชวนกันขึ้นบ้านใหม่..ม๊งเท่งม๊อง เท่ง ม่ง..ไปเรียบร้อยแล้ว

   อาจารย์ดอกไม้ขาว ส่งข่าวบอกว่าตอนนี้ชาร์ทแบตเตอรี่ใจเต็มพิกัดแล้ว จะชวนเพื่อนครูทุ่มเทใจสอนลูกศิษย์โดยใช้ระบบIT.เป็นเครื่องมืออย่างมีชีวิตชีวา ประกอบกับท่านเล่าฮูแสวง รวยสูงเนิน มาเป็นติวเตอร์ 2 รอบเช้า-บ่าย คงหายอาการคันอันสืบเนื่องจากบล็อกกันแล้วนะครับ 

   ผมมีความคันจากที่ไปเห็นเชิงขั้นครูเม็กดำ ที่จัดการเรียนการสอนโดยเอาหัวใจของทุกคนมาลงขัน ช่วยกันปั้นดินให้เป็นดาว จึงบันทึกนี้ขึ้นมาเป็นความเห็นของการดำเนินงานที่อาจจะผิดก็ได้ อย่าเพิ่งเชื่อนะครับ

..ขอให้อาจารย์ออกแบบการเรียนการสอนที่เหมาะกับวิชาที่เรียน ให้สอดคล้องกับหลักสูตร ให้สอดรับกับศักยภาพของเด็ก ยกตัวอย่างชั้นป.6 กลุ่มวิจัยไก่ดำญี่ปุ่น ขอชมว่าเก่งมาก สามารถสร้างวิธีการเรียนในรูปของกิจกรรมได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน หมายถึงมีเนื้อหาหลักเนื้อหารอง มีประเด็นเป็นขั้นเป็นตอนที่สื่อความหมายให้เห็นเส้นทางเดินของความรู้  ที่มันพิสูจน์ได้ อธิบายได้ ว่าตอนนี้คนเรียนรู้กับตัวชุดความรู้มายืนอยู่ตรงจุดไหน เด็กได้อธิบายว่าเอาความรู้อะไรใส่ลงไปในเล้า ใส่ลงไปในอาหาร ใส่ลงไปในการดูแล แล้วมาสรุปว่าในตัวไก่มีชุดความรู้อะไรบ้าง อะไรเป็นชุดความรู้ท้องถิ่น อะไรเป็นชุดความรู้เชิงวิชาการ แล้วเอาทั้ง2ส่วนมาผสมผสานกัน จัดเป็นชุดความรู้ใหม่ที่เหมาะสมกับพัฒนาอาชีพในชุมชนนั้นๆ

 

ถ้าทำได้อย่างนี้ก็หมายความว่า การเรียนในโรงเรียนบ้านเม็กดำ คือกระบวนการเรียนรู้ของชุมชนบ้านเม็กดำนั่นเอง ทุกคนมีส่วนร่วม มีบทบาท ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน เกิดสังคมสามานฉันท์เอื้ออาทรตัวจริงเสียจริงโดยความตระหนักของสมาชิกภายในชุมชน พลังที่ว่านี้ก็จะต่อยอดไปช่วยการพัฒนาสังคมโดยรวม ตามที่ใครๆอยากเห็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ที่เชื่อมโยงเป็นถนนทุกสาย เหมือนกางแผนที่ออกมาก็รู้ว่าใครอยู่ที่ไหน ระยะทางใกล้ไกล มีสภาพเป็นอย่างไร

   เพื่อให้เห็นประกายเล็กๆที่คุณครูเหล่านี้พยายามอธิบายให้เราเห็นผ่านกระบวนการเรียนการสอนเมื่อวันที่ไปเยือน ขอบอกบอกก่อนนะครับว่า เรามีข้อจำกัดเรื่องเวลา คุณครูแต่ละท่านคิดและทำกว่าสิ่งที่ผมพูดถึงนี้มากนัก แต่ที่หยิบมาพูดนี้ไม่ต่างกับเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน แต่เพื่อขยายความให้คนที่ไม่ไปติดตามร่องรอยได้

• กลุ่ม อนุบาล สอนแบบบูรณาการ แอ็คชั่นซิ่ง!
• กลุ่มประถมต้น สอนศิลปะด้วยชีวิต เอาตัวปูเป็นๆมาเรียน และค้นในสารานุกรม
• กลุ่มวรรณกรรม นิทานพื้นบ้าน จารีตประเพณี  ภูมิสังคม ท่าน้ำ ลุ่มน้ำ อาชีพในชุมชน งานองค์กรท้องถิ่นพัฒนา ฯลฯ
• กลุ่มหลักสูตรท้องถิ่น จัดทำแปลงสมุนไพร ไม้หายาก ร่วมกับครูชุมชน 
 

  ทั้งหมดนี้เป็นบริบทที่บุคลากรทางการศึกษาลุกขึ้นมาทำหน้าที่พัฒนาสังคม ยอมเหนื่อยยากรับเป็นเจ้าภาพในบางเรื่อง เป็นบทเรียนที่สะท้อนการประสานหน้าที่ของคนในชุมชน ที่ไม่ผ่านใบสั่งใบไหนๆแม้แต่ใบเดียว ที่เกิดปรากฎการณ์นี้ได้เพราะชาวเม็กดำชวนกันทำงานเชิงรุก ทุกคนลุกจากเก้าอี้ ออกไปเชื่อมไปประสานกับบุคคลและองค์กรภายนอก ไม่ได้นั่งแบมือรอเหมือนตาบอดขอทานอยู่ในสำนักงานเช่นหน่วยงานหรือสถาบันอื่นๆ
    เป็นการสร้างกระบวนการเรียนร่วมกันกับครูชุมชน ขั้นต่อไปต้องมาคิดต่อเรื่องการนำเสนอ การอธิบาย ถ้ามีคนเยี่ยมโรงเรียน จะออกแบบให้เขาไปที่จุดไหนก่อน1-2-3-4 แล้วจุดนั้นๆจะนำเสนออย่างไร ให้กระบวนการของเราสะท้อนคิด สะท้อนความรู้ สะท้อนกระบวนการเรียนรู้ ตรงจุดนี้
ชั้นอนุบาลทำได้ดี เด็กๆสนุกสมวัยสมธรรมชาติ ยิ้มแย้ม คึกคัก ครูแอ็กชั่นมีชีวิตชีวา อาจจะจับจุดเด่นของตนเองมาตั้งว่าสถานีนี้ เป็นการสอนแบบแอ๊คชั่นเชิงบูรณาการ อาจารย์ปรายฟ้า เห็นด้วยไหม?    ยกมือขึ้น! 

  ทำไมเม็กดำจะต้องตามก้นคนอื่น ช่วยกันคิด ออกแบบ กำหนดรูปแบบ เหมือนของชั้นป.6 จัดได้ค่อนข้างดี ตาวิเศษได้เห็นมา ดังนี้

1 เตรียมพื้นที่ จัดบริเวณ โต๊ะเก้าอี้ น้ำท่าผลไม้อาหารว่าง แจกัน กำหนดว่าแขก นั่งตรงไหน บร์อดอยู่ด้านไหน ภาพ/ตักอักษร เนื้อหาพอดีไหม
2 จุดเพื่อนๆนั่ง  อยู่ในมุมที่เหมาะ ถ่ายภาพได้ครบทุกคนและภูมิทัศน์ร่มเย็นดี
3 เพื่อนที่ดำเนินรายการ คล่องแคล่ว ฉะฉาน ลื่นไหล
4 เพื่อนๆที่มานำเสนอ ต่อเนื่อง เนื้อหาสอดรับกัน
5 เอกสาร บันทึก วางไว้ตั่งข้างหน้า ถ้าแขกไม่หยิบ ควรหาจังหวะแนะนำสั้นๆ ว่าพวกหนูช่วยกันทำสุดฝีมืออย่างไร บันทึกงานวิจัย ป.6 เอาไปไว้ในแผ่นพลิก แล้วยังเสนอเป็นเอกสารรูปเล่มด้วย
6 บรรยากาศ ไม่ควรเป็นทางการ ให้เป็นกันเอง ใช้แทนคำเรียกว่า"หนู" แทน"ดิฉัน" บอกว่า แสดงความดีใจ ประทับใจ ในการได้รับความอนุเคราะห์อย่างไร จะเอาไปต่อยอดร่วมกันอย่างไร
7ช่วงสอบถาม นักเรียนอยู่ในภาคปฏิบัติ คำถามมีเยอะแยะ เช่น ไก่ออกมาเหยียบไข่แตก  แสดงว่าต้องมีจุดผิดปกติ สัณนิฐาน ว่าอย่างนั้นอย่างนี้แล้วช่วยกันค้นหาสาเหตุ โจทย์ไข่แตกเป็นประเด็นวิจัย ค้นหาความจริงให้ได้ว่าแตกเพราะสาเหตุอะไร มีวิธีแก้ไขอย่างไร
8 เมื่อเลี้ยงไก่ไข่ มีไข่เยอะ ชวนกันเรียนเรื่องไข่ ทำอาหารอะไรได้บ้าง ทำขนมอะไรได้บ้าง นัดให้เพื่อนๆแต่ละห้องมาหมุนเวียนชิม วางแผนหารายได้เป็นกองทุนของกลุ่ม
9 สาระเสริม กลุ่มมีจุดเด่นเรื่องอะไร ดึงออกมาผสมผสานให้พอเหมาะพอควร เช่น ป.6 ร้องเพลงดี เลือกเพลงที่เหมาะกับสถานการณ์ ร้องเพลงประสานเสียง ที่เนื้อหาเกี่ยวข้องกับพระราชดำริฯ สร้างความประทับใจได้มาก
  สุดท้าย ไม่ควรทำทุกอย่างให้เป็นวิชาการ แต่อธิบายวิชาการในเชิงวิชาเกินได้ ถ้าเราอธิบายแบบวิชาเกินไม่เป็น มานำเสนอแข็งกะโดกเหมือนม้าดีดกะโหลก ใช้ศัพท์แสงทางเทคนิควุ่นวายไปหมด เดี๋ยวจะกลายเป็น ละอ่อนทางวิชาการ

หมายเลขบันทึก: 71285เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2007 13:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)
  • จะรบกวนลบความคิดเห็นแรกครับ
  • ข้อเขียนหายไป
  • ตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมคารวะครูบาให้ได้ก่อนเดือนกุมภาพันธ์ครับ
  • ผมชอบการเรียนที่เป็นธรรมชาติ 
  • ผมไม่เข้าใจว่าทำไมนักวิชาการถึงชอบการบรรยายและบรรยากาศที่เป็นวิชาการ หรือเขาว่า ขลัง ใครทราบช่วยบอกหน่อยนะครับ

ตอบ  อ.ขจิต

ที่อาจารย์เห็นและไม่เข้าใจนั้น ผมคิดว่ายังไม่ใช่ สิ่งนั้นยังเข้าไม่ถึง วิถีของวิชาการที่แท้จริง

คนที่หัดไม้เรียวมาแกว่งเป็นดาบ เป็นอาวุธได้

ถึงจะถือว่าเป็นวิทยาการในตัวนักวิชาการ

พวกติดรูปแบบทฤษฎีนั่นทฤษฎีนี่ เป็นเพียงกลุ่มคนที่เดินตามก้นนักวิชาการ เขาก็จะแกะรอยตามไปเรื่อยๆ จนเกิดความเคยชิน สุดท้ายก็จะทึกทักว่าตนเองเป็นนักวิชาการ จดจำเอากระพี้คนอื่นค้นคว้ามาพูดแทนเป็นคุ้งเป็นแคว

นักวิชาการเขาจะไม่ไปติดยึดรูปแบบอะไรเลยแม้แต่น้อย อาจารย์จะบอกได้อย่างไรว่า ลม แสงแดด มันจะลอยไปอยู่ที่ตรงไหนอย่างไร แต่เราก็เห็นมันทั่วไป แต่สถานะและสภาพไม่เหมือนกันไม่ตายตัว

ผมอาจจะเข้าใจผิดเรื่องนี้ก็ได้ ท่านใดจะเทกระจาดความรู้มาให้ก็ยินดีน้อมรับและเรียนรู้ด้วยความเคารพ

รูปแบบไม่ได้มีไว้ติดยึด

มีไว้อธิบาย

เอ๊ะ! ข้อนี้อาจจผิดอีกก็ได้

ยุให้ตอบนะเนี๊ยะ

  อ.ขจิต

คิดได้เร็ว  แต่ถ้ามาช้า ต้มแกงความคิดก็อาจจะบูด ขึ้นอืดได้ รีบหน่อยนะครับ มัวแต่เปิดผ้ากั๊ง ผ่ากั๊ง กั๊งๆๆๆ  ตอนนี้นักศึกษาผมกำลังกระหายคำชี้แนะ ช่วยมาจี้หัวใจให้สะป๊ากส์ หน่อย

 

  เดือนกุมภาพันธ์  มีโปรแกรมออกมาบ้างดังนี้

- วันที่ 2 ทำพิธีรับอาคาร 6 เหลี่ยม จากชาวปูนซีเมนต์ไทย

-วันที่ 19-21 ค่ายเครือซีเมนต์ไทย (บริษัทสหกระดาษไทย)

-วันที่ 24-25 คณะวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรมาเยี่ยมดูงาน

-วันที่..คณะอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และอาจารย์ที่ปรึกษามานอนคุยด้วย(ยังไม่ระบุวัน)

วันที่..ศ.ดร.จีระ หงส์ระดารมย์ แจ้งว่าจะขอมานอนคุย 2 วัน 2 คืน (ยังไม่ระบุวัน)

ที่แจ้งโปรแกรมไปถึงเดือนกุมภาพันธุ์ เพื่อยั่วต่อมคันให้ลงมาที่นี่บ่อยๆ เราจะจับ อ.ขจิต โคลนนิ่ง ความรู้ให้สิ้นใส้สิ้นพุง

 

ครูบาครับ

เรื่องระบบการเรียนแล้วผ่านไปเฉย ๆ นั้นเป็นเรื่องปกติในปัจจุบันครับ เพราะเราไม่ได้เรียนเอาไปทำอะไร นอกจากสอบผ่านแล้วก็แล้วกันไป

เราต้องมาปรับความคิดใหม่ ว่า

  • การเรียนต้องเป็นเพื่อการเรียนรู้ และ
  • การเรียนรู้ต้องเป็นไปเพื่อการศึกษา และ
  • การศึกษาต้องเป็นไปเพื่อชีวิต และ
  • ชีวิตต้องเป็นชีวิตใคร ชีวิตมัน
  • ไม่ใช่ให้คนอื่นไปเรียนรู้แทนกันได้

ตอนนี้ ระบบราชการ

  • เน้นการเรียนรู้แทนกัน
  • โดยสมมุติว่า นักวิชาการเรียนรู้แทนชาวบ้านได้
  • แล้วเอาความรู้สำเร็จรูปไปให้ชาวบ้าน
  • ซึ่งผิดฝาผิดตัวมานักต่อนัก และ
  • ในที่สุด จึงนำกลับไปสู่คำถามที่ครูบาตั้งไว้นั่นแหล่ะครับ

 คือเรียนผ่านไปเฉย ๆ ไม่รู้จะเอาความรู้ไปทำอะไร

ครูบาไปสกิดที่กระทรวงหน่อยได้ไหมครับ

  • ในเชิงชุดความรู้ครับ
  • และถ้าเป็นไปได้ ขอให้สะกิดในเชิงผู้บริหารด้วยครับ

เพราะตอนนี้มีปัญหาเรื่อง "พันธุ์ข้าว" ผอ. ที่ไปปลูกในนา  "ชุมชน" ทำให้นาเขาเสียหมดเลยครับ

ขอให้ทางผู้บริหารส่งพันธุ์ข้าวดี ๆ มาให้ชาวบ้านปลูกหน่อยได้ไหมครับ

 เรียนท่านเล่าฮู

การบ้านที่ท่านให้มา มันยาก ยุ่ง ไม่เกิดผล

ครูบาไปสกิดที่กระทรวงหน่อยได้ไหมครับ

มันไม่มีโยชน์ที่จะเอาเท้าไปเหยียบขี้หมา ให้เหม็นติดเท้าเปล่าๆ

ตอนนี้ ทำแบบท่านอาจารย์ใหญ่KM.กำลังคิด และตามที่ท่านเล่าฮูกำลังทำ คือ

  • ระเบิดออกจากข้างใน
  • ทำจากเล็กไปหาใหญ่
  • ทำจากบ้านนอกไปหาเมื่องกรุง

เรากำลังสนุกกับการไล่ตะครุบความรู้ ไม่ใช่หรือครับ อ้วาว!..มันกระโดดไปทางโน้นแล้ว ..ขออนุญาตไปไปจับมันมาต้มเอาโปรตีนไปบำรุงเซลย์สมองก่อนนะครับ

        เหตุที่เรียนแล้ว ความรู้นั้นผ่านไปเฉยนั้น สาเหตุแรกเหมือนที่ท่านอาจารย์แสวงกล่าว คือเรียนเพื่อสอบให้ผ่าน ผ่านแล้วก็ผ่านเลย บางครั้งก็ลืมเลย

       ส่วนอีกสาเหตุก็คือเพราะระบบการศึกษาของไทยสอนให้มีความรู้ไปประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างของคนอื่น ขาดความใฝ่รู้และกระตือรอือร้นทีจะพัฒนาความรู้และบางครั้งไม่มีโอกาสใช้ความรู้อย่างเต็มที่

      จะแก้ได้ควรสอนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เพื่อสร้างอาชีพให้ตนเอง จะได้ไม่ต้องโทษกันไปกันมาว่าเรียนแล้วตกงาน เพราะถ้ามีความรู้ที่จะสร้างอาชีพให้ตนเองได้คงไม่มีใครตกงาง จริงไหมค่ะ

เพิ่งกลับมาครับครูบา พยายามปั่นงานก่อนไปต่างประเทศ ผมมองว่าบางคนติดรูปแบบ แล้วเอารูปแบบมาครอบคนรุ่นใหม่ครับครูบา คนรุ่นใหม่แบบผมเลยฉีกออกมา ขอบคุณสำหรับโปรแกรมทำให้ผม อยากไปเร็วๆขึ้น อยากไปแล้วได้ช่วยงานครูบาได้อย่างเต็มที่ครับผม

อ.-ขจิต ครับ 

ไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนคิดและทำอะไรได้สำเร็จ โดยที่เขาไม่มีอิสระ แต่ระดับงานของคนก็ไม่เหมือนกัน คนที่อ่อนแออาจจะเรียกร้องหากรอบ ในลักษณะนี้กรอบก็มีประโยชน์อยู่บ้าง เพียงแต่กรอบนั้นไม่ควรจะแข็งกระด้างจนขยับอะไรไม่ได้เลย

เรามันพวกที่.. นอกจากไม่มีกรอบแล้ว บางคนเขาให้ฉายาว่าพวกนอกคอก ก็ไม่ว่ากัน ในคอกนอกคอก รับได้ทั้งนั้น เพราะมันไม่เจ็บเหมือนเอาอีโต้มาโย้หัว

  • ขอบคุณมากครับ รู้สึกอุ่นใจ
  • นึกว่า อยู่นอกคอกคนเดียว จริงๆแล้วมีหลายท่านมาก ฮ่า ฮ่า ฮ่า
  มนุษย์พันธุ์นอกกรอบนอกคอกกำลังเพิ่มทวีคูณขึ้นอย่างรวดเร็ว สาเหตุเพราะกรอบมันเหม็นบูดนะสิครับ ใครทนได้ก็อยู่ไป เราเออรีฯออกมาจากระบบตั้งแต่ปีมะโว้แล้วละครับ
  • ขอไปทำงานต่อก่อนครับครูบา
  • แล้วพรุ่งนี้ว่ามาคุยต่อ ผมได้ความรู้จากครูบามากกว่าเรียนในชั้นเรียนเสียอีก
  • ไปเปลี่ยนเป็นเอกเกษตรดีไหมครับ
  • ไม่เรียนแล้วภาษาอังกฤษ (แต่คงไม่ทันแล้วกลัวต้องไปขายกระบือใช้ทุนของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท