ความมั่นคงของมนุษย์กับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
อยากบอกว่าเคยอยู่แบบมีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมากันนานแล้ว เมื่อความเจริญก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด ชาวบ้านกระโดตามไม่ทันก็ตกเป็นเหยื่อของทุนนิยม วงจรของการเมืองจึงถึงโค้งของการปฏิวัติรัฐ-ไม่ประหาร แล้วคงค่อย ๆ เป็นประชาธิปไตย ระบบสังคมไทยก็คงเป็นเช่นนี้ไปอีกนาน การศึกษาเพื่อความเจริญงอกงามของมนุษย์นั้นคงเป็นระบบเสริมของการดำเนินงานของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย สิ่งที่คณะรัฐบาลทำก็คงต้องอยู่รอดให้ได้ก่อน การทำให้มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ปราศจากความกลัว ความรู้สึกหิว (เฉพาะคนทั่วไปที่ไม่คดโกง) ประการนี้นั้น่าจะเป็นภาระรองลงไป ถ้าจะทำให้เกิดการพัฒนาเรียนรู้อย่างยั่งยืนด้วยแล้วคงยิ่งยากขึ้นไปอีก
การรู้เท่าทันสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้คงทำได้ยากแต่ถ้าแบ่ง ๆ กันเรียนรู้ ช่วย ๆ กันป้องกันและช่วยเหลือกันในกลุ่มหรือสังคมโลก ไม่เอาเปรียบและมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อยู่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มีอิทธิพลกินอิ่มเพียงกลุ่มตน ถ้าทำไม่ได้โลกก็คงปั่นป่วนวุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่นี่แหละครับ
อันคำว่า พอเพียง กับ เพียงพอ คำไหนน่านำมาปฏิบัติมากกว่ากัน หรือเป็นคำๆเดียวกัน มีความหมายและการฏิบัติเหมือนกัน ในทางวิชาการผมไม่รู้ลึกซึ้งเท่าไร แต่ในควมคิดของผม คิดว่าต่างกัน หากผมเลือกผมจะเลือก "เพียงพอ" มีความรู้สึกว่าเป็นการแสดงออกมาจากใจ หากใจคิดว่า เพียงพอแล้วกับทุกสิ่ง กายก็จะถูกใจไปบังคับหรือให้คิดไว้เสมอว่าต้องขวนขวายหามาให้ได้ ดังสุภาษิตที่ว่า " ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว" เพียงแค่คิด หากยังไม่ทำ ถือว่ายังไม่ผิด ดังนั้น การดำเนินชีวิตของทุกคนหากใช้ใจนำไปสู่การตัดสินทุกอย่าง ต้องใช้การนึกถึงการกระทำดีไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะนึกได้ ว่าจะเกิดผลกระทบกับตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ จะนำไปสู่ปัญหาสังคมต่างๆ ความร้ายแรง ยาเสพติด ท้ายสุดประเทศไทย ก็กลับสู่การเป็นประเทศ สยามเมืองยิ้ม อีกครั้ง อย่างแน่นนอน
เราอยากพอเพียงแต่สังคมทำให้เราพอเพียงไม่ได้
ความมั่นคงของมนุษย์ อาจหมายถึง ความมั่นคงทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สังคม เศรษฐกิจ และจิตใจ
ความพอเพียง คือ ความรู้สึกครบทั่วสำหรับทุกอย่างที่ต้องการในทุกๆด้าน
หากทั้ง 2 อย่างมี่ความสมดุลกัน มนุษย์ทุกคนก็จะมีความสุข
ความมั่นคงของมุนษย์คืออะไร ครับ
มีความหมายว่าอย่างไร
และในยุคปัจจุบันนั้น ความมั่นคงของมนุษย์แต่ละคนนั้นมีจริงหรือเปล่า และจะวัดได้อย่างไรครับ