บันทึกชีวิตวันที่ 3 มกราคม 2550


บันทึกชีวิตวันที่ 3 มกราคม 2550

                หลังจากหยุดยาวกลับบ้านไปหลายวันพอกลับมาก็เลยตื่นเช้าผิดปกติเพราะเมื่อตอนเช้าตื่นประมาณ 6 โมงเช้า จากนั้นก็นอนไม่หลับก็เลยมานั่งดูข่าวตอนเช้าก็มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการวางระเบิดป่วนเมืองที่กรุงเทพทั้ง 8 จุด ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นฝีมือของใครมันสะท้อนให้เห็นว่าระบบข่าวกรอง ระบบความมั่นคงของชาติไม่สามารถคุ้มครองและสร้างความมั่นใจให้คนในชาติได้ว่าจะอยู่รอดปลอดในชีวิตและทรัพย์สินของตนไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดของประเทศ  ทำให้ประชาชนเกิดความกลัวทุกแห่งหน และซ้ำร้ายไปกว่านั้นกลุ่มอำนาจเก่าก็พยายามกดดันกลุ่มอำนาจใหม่โดยวิธีการส่งจดหมายถึงคมช.และรัฐบาลของคุณทักษิณยิ่งทำให้เห็นถึงความน้ำเน่าของการเมืองไทยที่พยายามสร้างภาพตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ แสดงให้เห็นถึงระบบคุณธรรมในทางการเมืองไม่ได้อยู่ในสมองของนักการเมืองเลย  จิตสาธารณะไม่ได้อยู่ในหัวใจของคนที่ได้ชื่อว่าผู้แทนของประชาชนแม้แต่น้อย มีแต่คำว่าเราจำทำอย่างไรเราถึงจะได้ประโยชน์ จะร่ำรวยจากหน้าที่การงาน และข่าวสุดท้ายที่น่าสนใจคือการประหารชีวิตผู้นำอิรักซัดดำโดยการแขวนคอก็นำมาซึ่งความสงสัยมึนงงของผู้ที่ติดตามข่าวว่าอะไรมันจะไวได้ปานนั้น หรือมันเป็นแผนของใครหรือเปล่าอันนี้ก็ต้องติดตามต่อไปว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกในโลกใบนี้

                วันนี้เป็นวันเปิดทำงานในปีนี้ของสำนักงานวันแรกเริ่มต้นด้วยการประชุมวางแผนงานที่จะทำในช่วงนี้ แต่การประชุมก็มีอุปสรรคตั้งแต่เช้าก็คือเริ่มจากภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตยมาขอใช้ห้องประชุมเป็นที่แถลงข่าวตอน 9 โมงเช้า และก่อนที่ภาคีโคราชจะแถลงข่าวเราเองก็ต้องมาช่วยภาคีในการจัดห้องและจัดเตรียมเอกสารและพอถึงเวลาก็มีผู้มาร่วมแถลงข่าว 7 คน โดยมีประเด็นคือประณามการกระทำของกลุ่มอำนาจเก่าที่ทำลายชาติสร้างความวุ่นวายให้คนในชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเผาโรงเรียน  การวางระเบิด  และมีประเด็นที่พาดพิงถึงการทำงานของคมช.ว่าเป็นการดำเนินงานที่ช้ามากและเหตุผลที่ใช้ในการก่อรัฐประหารก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจำเอาคนผิดมาลงโทษได้ คนที่ทำผิดก็ยังลอยนวลแถมยังได้ดิบได้ดี และประเด็นสุดท้ายคือฝากให้ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเร่งดำเนินการเอาคนผิดมาลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง สร้างระบบคุณธรรมขึ้นในชาติให้ได้ และรวมทั้งต้องสร้างความกระจ่างอย่าให้ประชาชนคนในชาติเคลือบแคงสงสัยได้

                ในขณะเดียวกันทีมงานศูนย์ข้อมูลก็มาใช้ห้องทำงานเป็นที่ประชุมชั่วคราวโดยเริ่มจากการพูดถึงบรรยากาศปีใหม่ที่มีทั้งคนกลับบ้านและไปเที่ยวต่างจังหวัด ว่าเป็นยังไง และต่อด้วยการประชุมงานโครงการ 3 สายน้ำที่จะมีนักศึกษาจะออสเตรเลียจะมาเรียนรู้ศึกษาศักยภาพของชุมชนในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทั้งในเชิงอนุรักษ์ เชิงวัฒนธรรม  โดยเขาจะเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้โดยมีอาจารย์ปรีชาไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ และก็จะเริ่มกิจกรรมจริงๆคงเป็นช่วงค่ำที่อาจารย์ต้องไปกล่าวต้อนรับ และมีพิธีบายศรีสู่ขวัญ จากนั้นวันที่ 5 ก็จะเป็นกิจกรรมเดินป่าที่เขาแผงม้า พอวันที่ 6 ก็เป็นกิจกรรมที่ให้นักศึกษาพบกับทีมนักวิจัยจากพื้นที่ และในวันที่ 8 ก็เริ่มไปส่งนักศึกษาตามพื้นที่ต่างๆ และในช่วงนี้บรรยากาศการประชุมไม่ค่อยคึกคักเพราะว่าตอนนี้ยังขาดล่ามที่จะพื้นที่ ซึ่งในตอนนั้นก็พึ่งได้ 2 คนชัวร์ๆ คือพี่เภาว์ กับน้องผู้ชายเอกท่องเที่ยว นอกนั้นยังไม่มีใครมาตอบรับมา ทำให้พี่ใหม่ก็เลยถามอาจารย์ปรีชาถึงความชัดเจนว่าอาจารย์ยังจะยืนยันเอา 4 พื้นที่อีกเหมือนเดิมหรือเปล่าคือมีพื้นที่ วังน้ำเขียว  พื้นที่แม่ประมวล พื้นที่แม่ปราณี พื้นที่พ่อผไท อาจารย์ก็ตอบว่าเอาเหมือนเดิม พี่ใหม่ก็ถามต่อว่าแล้วที่วังน้ำเขียวจะมีพื้นที่ใดบ้าง อาจารย์ก็ยืนยันว่ามีสวนลุงโชค โฮมสเตย์ลุงอินทร์  โฮมสเตย์วังหมี  โฮมสเตย์ซับไทรทอง คือให้นักศึกษามาในบทบาทนักท่องเที่ยวและก็เข้ามาศึกษา โดยให้นักศึกษาลองไปพักที่โฮมสเตย์เพื่อแต่ละที่เพื่อเก็บข้อมูลและให้เจ้าของแต่พื้นที่เป็นคนรับรอง  ในช่วงนั้นเองก็มีนักศึกษาหญิง 1 คน เรียนภาษาอังกฤษมาขอสมัครเป็นล่ามในที่ประชุมก็ไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่  จากนั้นพี่ใหม่ก็ได้นักศึกษามาพบอีกครั้งในช่วงตอนบ่าย พอเสร็จจากโครงการ 3 สายน้ำก็ต่อด้วยรายงานการสร้างเว็บบล็อคศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นเพื่อการพัฒนา อาจารย์ก็เลยมอบหมายให้เราสมัครให้ทุกคนและให้เอารูปภาพมาใส่ไว้ด้วยพร้อมทั้งช่วยคอยตามเอาข้อมูลของแต่ละคนมาใส่ไว้ จากนั้นพี่บราวน์ก็พูดถึงเรื่องการลงพื้นที่สำรวจกรณีศึกษา KM ในวันที่ 26 ม.ค. 50 ลงพื้นที่จ.สุรินทร์ ตอนเก้าโมงเช้าที่กลุ่มเด็กป่า ตอนสี่โมงเย็นที่บ้านพ่อเสวย และวันที่ 29 ม.ค. 50 ลงพื้นที่ศรีสะเกษในช่วงเก้าโมงกลุ่มกระบวนการสร้างหลักสูตรท้องถิ่น ตอนสี่โมงเย็นก็ไปที่เครือข่ายเยาวชนสืบสานภูมิภูมปัญญาที่อุบล  และต่อด้วยพี่ไก่ลงพื้นที่โครงกี่ABC ในวันที่ 9 และ10 ม.ค. 50 โดยมีอ.โอ๋ อ.วิเชียร อ.ปรีชา ที่จะลงพื้นที่ 

                งานที่เราได้รับมอบหมายจากที่ประชุมคือช่วยพี่ใหม่เตรียมแฟ้มเอกสารที่จะให้แจกให้นักศึกษา  ให้ช่วยขึ้นไปถ่อยรูป ถ่ายวีดีโอ ในวันพรุ่งนี้

                สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้คือสิ่งไม่คาดคิดมักจะเกิดขึ้นเสมอถ้าเราขาดการวางแผนที่ชัดเจนและไม่สามารถควบคุมสถาการณ์และแก้ปัญหาได้  คือตามความเป็นจริงแล้วโครงการ 3 สายน้ำ ควรจะมีตารางกิจกรรมของแต่ละพื้นที่และเนื้อหาอยู่ในมือเรียบร้อยแล้วเพื่อจะได้นำไปปรับปรุงในวันที่อาจารย์พอลมาถึง และนักศึกษาที่จะไปเป็นล่ามต้องได้จำนวนชัดเจนว่าได้จะสามารถลงพื้นที่ได้กี่คนนั่นก็หมายความว่าเราต้องเตรียมเสร็จแล้วก่อนล่วงหน้าแล้ว  แต่ก็ไม่เป็นไรก็ถือเป็นบทเรียนถึงแม้เราจะเตรียมการมาเป็นปีแต่พอถึงวันก็ยังมีความคาดเคลื่อนกันได้บ้างเพราะมันมีหลายปัจจัยที่เราไม่สามารถคุมมันได้  
หมายเลขบันทึก: 71201เขียนเมื่อ 6 มกราคม 2007 18:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท