เรื่องของไฟไหม้โรงเรียนและศิลปะการใช้ถ้อยคำที่ทำให้เหตุการณ์เบาลง ที่กาฬสินธุ์

มองอย่างรอบด้าน

ข่าวความขัดแย้ง ช่วงชิงผลประโยชน์ การต่อรอง การลดความน่าเชื่อถือ ฯลฯ จนถึงการก่อเหตุรุนแรง การวางระเบิด ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เดือดร้อน

เหตุวางระเบิด โรงเรียนถูกเผา เมื่อเหตุเกิดแล้ว มีข้อสรุปว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร , สายไฟฟ้าอยู่ในสภาพเก่าแก่ เลยเกิดไฟไหม้

ความจริงแล้ว บ้านที่มีอายุ 80-100 ปี ไม่เคยเกิดเหตุไฟไหม้สักครั้ง

ไม่มีใครอยากให้โรงเรียนถูกเผา...

การติดตามฟังข่าวสารแต่ละวัน เครียดมากพอแล้ว  หากบอกว่า ให้เตรียมพร้อม คอยระวังป้องกันโรงเรียนถูกเผา  คนที่ได้ยินได้ฟัง ยิ่งเครียด นึกถึงคลื่นใต้น้ำทางการเมือง มือป่วน ฯลฯ ซึ่งมีหลายคนพยายามย้ำนักหนาว่า ไม่เคยมี..

ในเขตพื้นที่ สพท.กาฬสินธุ์ เขต 1 มีโรงเรียนในสังกัดจำนวน 300 แห่ง เป็นอีกพื้นที่ที่ควรต้องดูแล ระมัดระวังอย่างดี  เพราะที่กาฬสินธุ์เกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว

หานึกเชื่อมโยงเหตุที่เกิดขึ้นทางการเมือง หลายคนอาจวิตกกังวลมากขึ้น จึงมีศิลปะการใช้ถ้อยคำให้ฟังดูเบาลง

รุ่นน้องที่ติดตามข่าวสารบ้านเมือง เห็นข่าวนี้แล้ว มีมุมมองและการวิเคราะห์ที่น่าคิดเช่นกัน

เนื้อข่าว....
”กาฬสินธุ์ สั่ง 300 โรงเรียน รับมือ อัคคีภัย”

”.......ในช่วงอากาศแห้งและหนาวเย็น มีใบไม้แห้งกรอบอยู่มาก ทำให้ง่ายต่อการเกิดอัคคีภัยที่อาจลุกลามได้อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว ทาง สพท.กาฬสินธุ์ เขต 1 จึงให้โรงเรียนในสังกัดจำนวน 300 แห่ง ป้องกันโดยทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนไม่ให้มีเศษขยะทุกชนิด หมั่นตรวจสอบไฟฟ้าให้อุปกรณ์ไฟฟ้าอยู่ในสภาพดี และใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงให้พร้อมใช้การ และขอความร่วมมือจากผู้ปกครองและนักเรียนห้ามจุดดอกไม้ไฟ พลุ ประทัด หรือบั้งไฟในบริเวณโรงเรียนโดยเด็ดขาด…..”

ข้อสังเกต ประเด็นน่าคิดของรุ่นน้องของนายบอน

- ทำไมไฟไหม้โรงเรียนง่ายจัง ช่างไฟฟ้าที่เดินสายไฟให้กับโรงเรียนที่ถูกไฟไหม้ มีฝีมือที่ต่ำกว่ามาตรฐานมากๆ จนทำให้โรงเรียนเกิดไฟไหม้ เพราะไฟฟ้าลัดวงจร ควรจะสืบหาว่า โรงเรียนที่ถูกไฟไหม้  ใช้ช่างไฟฟ้าจากที่ไหนมาเดินสายไฟให้ เป็นช่างไฟฟ้าที่จบมาจากสถาบันไหน จะได้ขึ้นบัญชีไว้ว่า สถาบันการศึกษาแห่งนั้น สอนคนไม่ได้มาตรฐาน