ชีวิตที่พอเพียง : 190. วิ่งออกกำลังกายที่ชายหาด


        เช้าวันที่ ๑๐ ธค. ๔๙ ผมลงจากห้องพักชั้น ๑๐ ของโอเชี่ยนวิง โรงแรมแอมบาสซาเดอร์จอมเทียน     ไปวิ่งออกกำลังกายที่ด้านชายทะเล     ผมมาพักด้วยความเอื้อเฟื้อของ ทีดีอาร์ไอ     ที่เชิญมาร่วมการประชุมประจำปี เรื่อง "สู่หนึ่งทศวรรษหลังวิกฤตเศรษฐกิจ : ได้เรียนรู้และปรับปรุงอะไรบ้าง"   

        ผมออกไปวิ่งด้วยหัวใจเบิกบาน เพราะอากาศเย็นสบาย  มีสายลมโชย เป็นลมริมทะเลที่แสนจะสดชื่น    ยิ่งกว่านั้นเมื่อวานนี้ก็ได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เป็นภาพใหญ่ของบ้านเมืองอย่างเต็มอิ่ม    ตกเย็นก็พาสาวน้อยแหล่งพลัง oxytocin ไปกินข้าวต้มร้านเล้งกี่ที่เธอชอบ     ถือเป็นฮันนิมูนครั้งที่ยี่สิบห้าของเรา

        เอ่ยเรื่องฮันนิมูน ปลายสัปดาห์หน้าเราก็จะไปฮันนิมูนครั้งที่ยี่สิบหกที่คีรีมายา เขาใหญ่     ไปดัดจริตเป็นเศรษฐีเข้าสปาเป็นครั้งแรกในชีวิต     โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์เป็นเจ้าภาพ ในงาน retreat ประจำปีของคณะกรรมการธนาคาร     ที่จริงฮันนิมูนที่เราชอบที่สุดคือครั้งที่เราไปกันเอง อย่างง่ายๆ      ครั้งที่ไปพักที่โรงแรมโขงเจียม อุบลราชธานี เมื่อกว่า ๑๐ ปีก่อน ประทับใจไม่รู้ลืม

        ทำอะไรกันบ้างในฮันนิมูนของคนแก่     ก็เติม oxytocin ให้ความสดชื่นในความสัมพันธ์ไงครับ     ทำให้เราได้สติว่าคนที่อดทนมาอยู่กับเรา   ทนอารมณ์ ทนความยากจนในชีวิตช่วงต้น     ทนความขยันงาน ทิ้งครอบครัว ของสามี ได้     ต้องถือเป็นยอดหญิง

         อ้าว!   ว่าจะไปวิ่งออกกำลัง     เลี้ยวเข้าซอยฮันนิมูนเสียแล้ว

        ด้านหลังโรงแรมติดชายหาดเขามีที่วิ่งนิดหน่อย     เป็นสันเขื่อนกันน้ำทะเล     ผมวิ่งบนสันเขื่อนไปทางใต้    (พร้อมกับนึกในใจว่าการทำเขื่อนอย่างนี้ผิดหลักด้านอนุรักษ์ธรรมชาติ)    พอหมดสันเขื่อนก็ลงไปวิ่งที่ชายหาด ซึ่งดูจะสะอาดกว่าเมื่อ ๑๐ ปีก่อน   มองเห็นหมู่อาคารสูงและท่าเรือยอชท์อยู่ไกลลิบๆ      กะว่าคงวิ่งไปไม่ถึง     เพราะตั้งใจวิ่งเพียง ๓๐ นาที     แต่พอวิ่งไปเรื่อยๆ ก็ถึงบริเวณที่จอดเรือยอชท์โดยไม่รู้ตัว     ทำให้ได้คิด ว่าการทำอะไรไปข้างหน้าโดยที่เราเห็นอนาคตจากที่ไกลนั้น     บ่อยครั้งเราประเมินความสามารถของเราต่ำเกินไป     ประเมินความยากลำบากไว้สูงเกินไป จนเราไม่กล้าเผชิญอนาคตนั้น

        เกือบสิบปีมาแล้ว     จำไม่ได้ว่าฮันนิมูนครั้งที่เท่าไร     เรา (หมายถึงภรรยากับผม) ติดตามคณะนักวิจัยถ้ำ ไปดูถ้ำที่แม่ฮ่องสอน     เขาเรียกในชื่อที่ชาวบ้านเรียก ว่าถ้ำผีแมน     เราอยากรู้ว่าถ้ำผีแมนเป็นอย่างไร ก็ตามเขาไปไต่เขาขึ้นถ้ำ      มีอยู่ถ้ำหนึ่งมองจากข้างล่างแล้วทั้งสูงทั้งชัน    เห็นถ้ำอยู่ที่หน้าผา    ถามตัวเองว่าเราจะขึ้นไปได้อย่างไร      แต่มีแรงเชียร์จากทีมนักวิจัยหนุ่มสาวว่าขึ้นได้     ไม่เป็นไรเขาจะช่วยทั้งดึงและดัน     ซึ่งก็ขึ้นได้จริงๆ แม้จะทุลักทุเล      ขึ้นไปแล้วมองลงมาข้างล่าง คนกลัวความสูงอย่างผม ยิ่งงงตัวเอง ว่าขึ้นมาได้อย่างไร     นี่คือบทเรียนในชีวิต  ที่สอนให้เรากล้าเผชิญความไม่แน่นอน

        ระหว่างวิ่งเห็นฝรั่งยืนตกปลาที่ชายหาด     ทักทายกันพร้อมความสงสัยว่าตกปลาในน้ำตื้นอย่างนี้จะได้ปลาหรือ      วิ่งไปอีกหน่อย ก็พบคนไทย ๒ คน ยืนตกปลาอีก แสดงว่าต้องได้ปลา จึงมีคนยืนตกหลายคน      ตอนวิ่งกลับ เห็นฝรั่งคนเดิมหมุนรอกคันเบ็ดกลับมา แล้วเหวี่ยงเบ็ดออกไปสุดแรง      ผมไม่เคยตกปลาด้วยเบ็ดรอกแบบสมัยใหม่ จึงจ้องดูว่าเบ็ดมันไปตกไกลแค่ไหน     โอ้โฮ ไกลตั้ง ๑๕ เมตร  ซึ่งตรงนั้นน้ำคงจะลึกหน่อย      ผมจึงได้ความรู้เรื่องเบ็ดตกปลาสมัยใหม่มาหน่อยหนึ่ง

        ตอนผมเด็กๆ  ชาวบ้านเขาไปตกปลาทรายที่ริมทะเล     โดยลุยน้ำลงไปถึงเอวหรืออก     ใช้เบ็ดที่มีคันเป็นไม้ไผ่ยาว ๒ - ๓ เมตร เท่านั้น     เขาแบกคันเบ็ดผ่านหน้าบ้านผมไปและกลับ     ขากลับ ได้ปลามาแล้วแม่ผมจะซื้อเอามาต้มหวานหรือต้มส้ม เนื้อปลาหวานอร่อยมาก

        วิ่งออกกำลังที่ชายหาดมีข้อดีคือทรายมันหยุ่น เป็นตัวรับแรงกระแทก     แต่มีข้อเสีย คือพื้นไม่เสมอกัน สูงข้างหนึ่ง ต่ำข้างหนึ่ง     ข้อดีอย่างยิ่งคืออากาศดี วิวดี    เห็นสีท้องฟ้ายามรุ่งอรุณงดงามหลากหลายแบบ    ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือได้ฝึกสังเกตสิ่งต่างๆ ที่ชายหาด     เมื่อสัก ๒ ปีมาแล้วผมไปวิ่งที่ชายหาดหลังโรงแรมดุสิต รีสอร์ท พัทยา     ไปพบโขดหินกว้างมาก     เข้าไปสังเกตโขดหิน พบสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมากมายหลากหลายชนิด     ผมถ่ายรูปเอาไปทายคนที่เป็นนักชีววิทยา และบ้านอยู่ที่บางแสน เขายังทายไม่ถูกเลย     แสดงว่าคนเราผ่านเลยสิ่งต่างๆ รอบตัวโดยไม่ได้สังเกตมากมาย     ถ้าเราหมั่นฝึกความช่างสังเกต ความละเอียดในการเห็น และเข้าใจสิ่งต่างๆ อย่างลึกซึ้ง     ชีวิตของเราจะสนุกสนานและประเทืองปัญญาทุกย่างก้าว และทุกขณะ

        ที่ชายหาด มีชาวบ้านมาปลูกเพิงให้บริการนักท่องเที่ยว     มีต้นตาลโตนด และต้นมะพร้าวที่เขาขุดล้อมเอามาปลูกเป็นดงตาล ดงมะพร้าว     ผมชื่นชมความสามารถทางเทคโนโลยีในการขุดล้อมย้ายต้นไม้ขนาดใหญ่     ว่าน่าจะถือเป็นเทคโนโลยีที่มีคุณค่ามาก 

วิจารณ์ พานิช
๑๐ ธค. ๔๙
โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน  ชลบุรี

หมายเลขบันทึก: 70961เขียนเมื่อ 5 มกราคม 2007 08:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน 2012 11:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

"การวิ่งเพื่อชีวิต"...วิ่งแต่ละวันแต่ละครั้ง...

สิ่งที่ผ่านเข้ามาในโสตประสาท...นั้นไม่เหมือนกันสักครั้งเลย...

สภาวะทางจิต...และทางกาย...ก็ส่งผลให้เราเรียนรู้ใหม่อยู่ตลอดเวลา...

ขอบพระคุณอาจารย์หมอมากคะ...สำหรับบันทึกนี้...

(^____^)

กะปุ๋ม

ขอบพระคุณครับ
   อ่านเสียเพลินไปเลย ได้สาระ และบรรยากาศแบบเบาสบาย ผ่อนคลายดีมากครับ
   คิดว่าหาก บุคคลที่ถูกพาดพิง เรื่อง ฮันนิมูน ในบันทึกนี้ได้อ่านข้อความทั้งหมดก็คงจะยิ่งเพิ่ม oxytocin  ขึ้นอีกมากทีเดียวครับ

มองเห็นภาพเลย "ชีวิตที่พอเพียง" ขอบคุณอาจารย์หมอ ครับ SEA
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท