ทำเรื่องธรรมดาให้เป็นเรื่อง "พิเศษ" เป็นโจทย์ของการจัดการความรู้ของ พ่อวิจิตร จันทรนุวงศ์ ฐานการเรียนรู้ชุมชนบ้านหายโศก อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ โจทย์ไม่ยาก แต่คงทำไม่ง่าย ปกติ พ่อวิจิตรก็เลี้ยงหมูเป็นอาชีพอยู่แล้ว เลี้ยงครบวงจรตั้งแต่หมูเกิดจนฆ่าชำแหละ ขาย เลี้ยงนานจนวันหนึ่งไปเยี่ยมพ่อวิจิตที่เหล้าหมู ดูแล้วพ่อวิจิตกับหมู มีความกลมกลืนไม่ต่างกันมาก ต้องยืนขยี้ตา ตั้งนานจึงแยกออก
โดยความคิดพื้นฐานของพอวิจิตรก็จะทำอะไรไห้พิเศษ มันจะต้องเริ่มจาก เรื่องที่เราถนัดและรัก แล้วเราจะทำได้ดี
เนื่องจาก พอวิจิตรเลี้ยงหมูมานาน สาขาจึงมีมากบริการทุกระดับประทับใจ ตั้งแต่บริการพ่อพันธุ์หมู ขายหมูเล็ก เลี้ยงหมูแม่พันธ์ ขายหหมูขุน สาขาจึงมีมากและ บางคนบ้านอยู่ไกล โดยเฉพาะการนำหมูพ่อพันธุ์ไปผสมพันธุ์เสียเวลามาก บางครั้งต้องเดินทางไปยังหมู่บ้าน ที่อยู่ไกลและ ไปหลายครั้งจึงผสมพันธุ์ติด
พ่อวิจิตรได้ไอเดียความคิดเคยไปอบรม และพักโรงแรม ว่าคนยังไปพักที่โรงแรมได้ หมูก็น่าจะพักโรงแรมได้ น่าจะแก้ปัญหาการต้องเอาหมูพ่อพันธุ์ไปไกล ๆ หลายๆ ครั้ง เปลี่ยนเป็น ให้หมูพระเอกนอนรออยูที่บ้านเรา (โรงแรมหมู)แล้วให้หมูสาว ๆ มาพักแรมค้างคืนเพื่อทำความรู้จักและคุ้นเคยของเจ้าบ่าวเจ้าสาว (หมู) จนกว่าเขาทั้งสองจะ ตกลงปลงใจ ลงหอกันจนแนใจว่า การผสมพันธุ์ติดแน่นอน จึงแจ้ง ให้เจ้าของเจ้าสาวมารับกลับไป
เงื่อนไขของการที่เจ้าสาวหมูจะมาพักค้างแรมกับเจ้าบ่าวหมู
1. เสียค่าบริการ ค่าตัว 500 บาท
2. ค่าอาหารเจ้าของหมูสาวต้องเตรียมมาเองตลอดเวลาค้างแรม
เงื่อนไขมี 2 ข้อสบาย ๆ แต่วันนี้ได้ยินผู้จัดการโรงแรมหมู (พ่อวิจิตร)บ่นว่าไม่มีเวลาพักเลยต้องคอยรับส่งเจ้าสาววันละหลาย ๆ รอบ แต่ก็สนุกเพราะได้เรียนรู้แก้ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆจากเรื่องยุ่งยากหนักใจมาเป็นเรื่องสบาย ๆ
ต่อไปพอวิจิตรคงจะตั้งโรงพยาบาลหมูแข่งกับปศุสัตว์อำเภอแน่นอน....ระวังนักวิชาการเขาตกงานนะครับ....พ่อวิจิตร..
ขอบคุณมากครับ ขอให้มีความสุขกับปีหมูทองนะครับ
อุทัย
เงื่อนไข สู่การสบายๆ
เงื่อนไขจากหนักเป็นเบา
เงื่อนไขที่สนุกกับการเรียนรู้
เป็นข้อน่าขบคิด ในการบริหารจัดการศึกษา
อย่ากทราบราคาหมู่เป็นหน่อยคับเอาแบบให้เนื่อดีๆนะคับ
หรือมันกับเนื่อพอดีกไคบขอแค่ไม่มันจนเกินไปได้ป่าวคับ
อาจารย์พงษ์