บันทึกแรกของปีนี้ ผมขอประเดิมด้วยการเริ่มต้นถามคำถาม (ถามตัวเอง) สามข้อ ดังต่อไปนี้:
1. จะไปไหน? ...ใช่แล้วครับผมกำลัง check “DIRECTION” กำลังตรวจสอบทิศทาง ตั้งเป้าหมาย ....ถ้ามองในระดับปัจเจกก็หมายถึงเป้าหมายชีวิตของตนเอง ของครอบครัว หรือถ้ามองในระดับที่ใหญ่ขึ้นมาก็หมายถึงเป้าหมายขององค์กร ของสังคมครับ
2. อยากไปไหม? ....กำลังถามใจตัวเองว่าตื่นเต้นกับทิศทางที่กำลังจะไปไหม ...ใช่แล้วครับ ผมกำลังประเมิน “ไฟในตัว” กำลัง check “PASSION” ตรวจสอบ “ฉันทะ” ของตนเอง ถ้าสองข้อนี้ชัดเจน และเป็นไปในทางบวก คราวนี้ก็มาถึงข้อที่สามครับ
3. จะไปด้วยวิธีใด? ....ผมหมายถึง “ACTION” ซึ่งก็คือการเริ่มต้นเดินทางที่แท้จริงครับ ....นักวางแผน นักยุทธศาสตร์ เหล่า Strategist ทั้งหลายมักจะเริ่มด้วยการ “วางแผน” ซึ่งก็หมายถึงการเขียน “แผนที่” การกำหนดเส้นทางที่จะใช้ก่อนที่จะออกเดินทางนั่นเอง ...สำหรับ นัก KM หรือ นัก HR ก็คงจะเริ่มด้วยคำถามคล้ายๆ กันว่า ....ก่อน “เดินทาง” ก่อนที่จะมี “Action” นั้น เรามี “ทักษะ (Skill)” หรือมี “ความรู้ (Knowledge)” ที่ต้องการแล้วหรือยัง? ...KM จึงอยู่ตรงนี้นี่เอง ...แต่ถึงอย่างไรก็ตาม โปรดอย่าโดดมาข้อที่สามนี้ โดยที่ยังไม่ได้ตอบข้อที่หนึ่งและสองนะครับ
....ใครที่ตอบทั้งสามข้อนี้ได้ทั้งในระดับปัจเจกและระดับองค์กร ....ถือว่าเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดีมากทีเดียวครับ
อาจารย์ไปไหน ผมขอไปด้วย นะครับ
ผมจะแอบอยู่หน้าห้อง เห็นอาจารย์ขยับ ผมก็จะเขยื้อน เขาบอกว่าเดินตามผู้รู้งูไม่กัด
ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้คะ...อาจารย์ทำให้อดที่จะทิ้งรอยไม่ได้...กำลังคิดเรื่องนี้พอดี..ก็เลยโดนใจพอสมควรคะ...
(^_____^)
กะปุ๋ม
สวัสดีปีใหม่ครับอาจารย์
ขอบคุณต่อ บันทึกอันเป็นเสมือน บัตร สคส. ที่มีค่าและความหมายสำหรับผู้รับทุกคนครับ
ชอบใจคำท้วงติงที่ว่า ... โปรดอย่าโดดมาข้อที่สามนี้ โดยที่ยังไม่ได้ตอบข้อที่หนึ่งและสอง
สภาพจริงที่ปรากฏในสังคม โดยเฉพาะวงการ การศึกษา เขานิยมกระโดดมาทำข้อสาม กันมากเหลือเกิน ชนิดน่าเป็นห่วงทั้งคนสอนและคนเรียนครับ อุปมาเหมือน ผู้ใหญ่ ชวนเด็กๆ หอบของพะรุงพะรัง วิ่งหอบลิ้นห้อยมายืนพักอยู่ตรงหน้า ฝุ่นนั้นตลบไปทั่ว ครั้นถามว่าพกอไรกันมามากมาย จะเอาไปใช้ทำอะไร เมื่อไหร่ และจะวิ่งไปไหนกัน ทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ ต่างก็ตอบไม่ได้ .. มันไสยศาสตร์เหลือประมาณเลยล่ะครับ
คิดว่าบันทึกนี้ของอาจารย์ หากได้ช่วยกันทำให้แพร่กระจายกว้างออกไป คงช่วยทำให้ ศาสตร์ที่มืดดำ เกิดความสว่างไสวขึ้นได้บ้างเป็นแน่
ท่านอาจารย์ Handy บรรยายทำให้ได้เห็นภาพที่ชัดเจน ตรงกับใจผมมากเลยครับ
....เพราะไม่ถามข้อแรก จึงทำให้มีคนที่ "หลงทาง" เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด (ซึ่งก็อาจจะรวมทั้งตัวผมด้วย) แน่นอนครับ ระดับดีกรีของ "การหลง" ก็คงแตกต่างกันไป บ้างก็หลง "เข้ารกเข้าพงไป" แบบกู่ไม่กลับ บ้างก็แค่เลี้ยวผิดไปนิดหน่อย เลี้ยวกลับได้ไม่ยากนัก
....ส่วนพวกที่ไม่ถามข้อที่สอง ก็คือพวกที่มีแต่ความเศร้าหมอง ...ต้องฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ ทำไปทรมานไป ....จะไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะถูก "เงื่อนไข" บางอย่างล็อกไว้ ...ที่เรามองข้ามไปก็คือเงื่อนไขที่อยู่ในใจของเราเอง
คุณกฤษณา เดินตามครูบามาได้เลยครับ ...ระวังอย่าเหยียบเท้าผมก็แล้วกัน ...เพราะผมก็อยู่ในขบวนนั้นด้วย
อาจจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่เรื่อยเปื่อยสักเล็กน้อยครับท่านอาจารย์ พอดีอ่านคำถามท่านอาจารย์แล้วก็ลองตอบตามที่ท่านอาจารย์เขียนไว้ครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ
ขอบคุณ ข้อคิดของอาจารย์ค่ะ คงต้องนำไปคิดต่อได้ดีทีเดียวค่ะ