ถึงจะไม่เป็นเจ้าของก็ขอให้ได้กอด


              ใกล้ถึงวันเด็กแล้ว มีเรื่องเล่าของวันเด็กมาฝากค่ะ 

เมื่อปีที่ผ่านมา ครูที่รู้จักกลุ่มหนึ่งได้เดินทางไปจัดงานวันเด็กให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่ห่างไกล และเมื่อกลับมาแล้ว ก็เล่าเรื่องราวนี้:            

 เราออกเดินทางกันตั้งแต่ตอนเช้ามืดของวันเสาร์ อากาศหนาวและฟ้ายังมืดอยู่ แต่เมื่อเราไปถึงโรงเรียน ก็พบว่ามีเด็กๆ ทั้งหมดมารออยู่แล้ว

เด็กหลายๆคนผมแห้งฟูเหมือนไม่เคยผ่านการหวีมาก่อน ใบหน้ามีคราบเกรอะของขี้มูกตามรอยปาดป้ายบนนวลแก้มที่แดงแตก            

เด็กๆ มองเรากันนิ่งๆ แม้สายตาจะบอกว่าสนใจกับตุ๊กตาและของเล่นที่เราจัดวางบนโต๊ะ โดยเฉพาะตุ๊กตาหมีตัวใหญ่..ตอนแรกๆเด็กๆจะขี้อายไม่ค่อยตอบคำถาม แต่ตอนหลังก็เริ่มคุ้นเคยและเล่นเกมส์กันสนุกดี

เด็กๆชอบแวะเวียนไปเกาะโต๊ะดูตุ๊กตาหมี แบบแปลกใจว่าเอาไปทำอะไร หลายๆคนก็แอบเอื้อมมือไปจับนิดๆหน่อยๆ            

มาถึงตอนสุดท้ายที่ทำเอาครูเริ่มใจเสีย ก็ตอนที่ต้องแจกของเด็ก เพราะตุ๊กตาที่เอาไปไม่พอแจก           

เด็กมีจำนวนมากกว่าตุ๊กตา           

พอเริ่มแจกเท่านั้นแหล่ะ เด็กที่เงียบๆ ก็กลับกรูกันเข้ามาแย่งตุ๊กตา           

แย่งกันสักพัก เด็กก็เลิกแย่ง คนที่ไม่ได้ก็มองคนที่ได้อุ้มตุ๊กตา            

ถึงตอนนี้ก็เงียบกันไปทั้งงาน            

กำลังคิดว่าจะทำอย่างไงดี เพราะไม่อยากให้เด็กคนใดคนหนึ่งผิดหวัง            

 ปรากฏว่าเด็กคนที่ได้ตุ๊กตาหมียื่นส่งตุ๊กตาให้เพื่อนที่ไม่ได้ตุ๊กตาได้กอด เด็กๆ พอได้เวียนกันกอดตุ๊กตาหมีตัวโตนั้นจนพอใจแล้วก็แยกย้ายกันไปเลือกสนุกสนานกับของเล่นอื่นแทน             

 เรื่องนี้คงสอนอะไรเราหลายๆอย่าง และคงเตือนให้เราตระหนักว่าในภาวะของทรัพยากรที่จำกัด โอกาสของคนมีแตกต่างกัน แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขหากมีความเข้าใจแบ่งปันซึ่งกันและกัน

คุณๆ ละคะ..คิดอย่างไรบ้าง...

(ที่มา: เรื่องเล่าจากของจริง)

หมายเลขบันทึก: 70599เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2007 22:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 01:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)
  • บนความลำบากและขาดแคลน มักจะมี..มิตรภาพ..ที่สวยงามปะปนอยู่เสมอ สังคมปัจจุบันจะดูมีความสุขก็ตรงนี้แหละค่ะ
  • เรื่องเล่าน่ารักมาก ทำให้คิดถึงเด็กๆในโรงเรียนบนเขาแห่งหนึ่งที่เคยสอนอยู่ค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณครูตุ๊กแก


โลกคงสุขสงบหากมีมิตรภาพเป็นเกราะคุ้มภัยนะคะ...

นึกถึงเด็กบนดอยที่เคยไปออกหน่วยตรวจสุขภาพเมื่อก่อนเหมือนกันค่ะ แก้มแดงกล่ำ ตาใสแหน๋ว ขี้อาย

 

  • สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์
  • อาจารย์คะเด็กๆเขาจิตใจเขาใสบริสุทธิ์ น่ารักค่ะ คิดอย่างไรทำอย่างนั้น นู๋ทิมยังชอบแอบมองพฤติกรรมเด็กบ่อยๆค่ะมองแล้วมีความสุขดีคะ...

เด็ก ๆ มีความบริสุทธิ์ และสามารถรับในสิ่งที่เราสั่งสอนได้เสมอ เพียงแต่เราต้องอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้นค่ะอาจารย์

ปีนี้อาจารย์วางแผนไปวันเด็กที่ไหนหรือเปล่าคะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณ nutim

ชอบเด็ก...รักเด็ก...คุณสมบัติข้อแรกของนางงามจักรวาลเลยค่ะ ..

..เด็กๆ ก็มักจะชอบคนสวยและคนที่แอบดูเขาด้วยค่ะ...ใช่ไหมคะ

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์..แบ่งปันเป็นสโลแกนของเด็กๆ....จะถูกสอนว่า...แบ่งปัน..พอโตขึ้นไหง!...มีน้อยลงก็ไมทราบ

วันเด็ก..ปีนี้คงไม่ได้ไปไหนค่ะ..หลานจะรับปริญญาคนหนึ่ง..ญาติคงมากันหลายคนค่ะ

คุณสมพรละคะ...เก็บตุ๊กตาใส่ลังได้ 1 ลัง ว่าจะเอาไปสมทบฝากให้คุณจตุพรก่อนวันศุกร์นะคะ..แล้วจะโทรไปก่อน 4913 ใช่ไหมคะ

อาจารย์คะ  4319 ค่ะ หรืออาจารย์จะฝากน้องปู เจ้าหน้าที่บุคคลก็ได้ หนูไปรับที่คณะพยาบาลได้ค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณเมตตา

เวลาเด็กเล่นกองทราย เด็กก็เล่นด้วยกันได้นะคะ ..ผู้ใหญ่อยากเลียนแบบเด็กๆ ที่มีสโลแกนแบ่งปัน..ยังน่าจะมีหวังอยู่นะคะ

 

ความจำตัวเลขยังนับว่าใช้ได้ ตรงจำตัวเลขได้ครบนะคะ แต่สลับตำแหน่งซะแล้ว

ถ้าไม่ลำบากคุณสมพร จะฝากที่น้องปู (คนสวย)นะคะ ลังขนาดใส่พัดลมค่ะแบนๆ ไม่หนักค่ะ ...ขอบคุณที่กรุณาเป็นธุระให้นะคะ.....

 

  • โลกยังมีมุมชีวิตที่งดงามเสมอแหละครับ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเด็ก
  • ขอบคุณครับที่นำเรื่องดี ๆ  มาแบ่งปัน  อ่านแล้วประทับใจมาก  ๆ 

ขอบคุณค่ะ คุณแผ่นดิน

โลกคือมรดกของเด็กๆ นะคะ ผู้ใหญ่เราจึงต้องสร้างมรดกให้กับเขาบ้าง..อย่างน้อยก็ให้เขาได้มีมุมชีวิตอันงดงามอยู่ในความทรงจำนะคะ

ทุกครั้งที่เข้ามาอ่านบันทึกของอาจารย์ จะกลับไปแบบคนที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีเสมอค่ะ สร้างสรรค์จรรโลงใจจรรโลงโลกเหลือเกินค่ะ

ขอบคุณที่นำเรื่องเล่าดี ๆ มาแบ่งปันให้กันค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านด้วยค่ะ อาจารย์ Vij

ความโอบอ้อมอารีคงเป็นสิ่งที่อยู่ในจิตใจคนไทยทุกคนแต่ไหนแต่ไรนะคะ แต่ระยะหลังสังคมเศรษฐกิจเข้ามานำจนบังไปหมด....ต้องช่วยๆกันส่งเสริมให้กลับมาเป็นพฤติกรรมเด่นตามเดิมนะคะ

 

มาอ่านนึกว่ากอดอย่างอื่นครับ...

ในสังคมไทยที่พิเศษกว่าสังคมอื่น ๆก็คือยังมีคนให้...

ทาน...นี้เองครับ

ชื่อบันทึกนี่กะจะยวนใจคนมีหัวใจวัยรุ่นค่ะ ท่านอาจารย์ umi (ฮาๆเอิกๆ..ขออนุญาตหัวเราะแบบอาจารย์ค่ะ)

และก็สมใจ..ท่านวัยรุ่นทั้งนั้นเลยที่เข้ามาให้ความเห็น..ขอบพระคุณค่ะ...น้ำใจไทยจะไม่เหือดถ้าไม่เร่งสุมไฟให้เดือดเสียก่อนนะคะ...

ผมก็หลวมตัวเข้ามาอ่านเหมือนท่านอาจารย์ umi เช่นกัน ....แต่ก็ไม่ผิดหวังครับ เพราะได้ซึมซาบความไร้เดียงสาอันบริสุทธิ์ของเด็ก ....ถือว่าเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งดีๆ ครับ ....แต่ก็ต้องยอมรับความจริงครับว่าภายในใจนั้นยังมีคำถามคล้ายๆ คุณเมตตา ...ว่าคุณสมบัติดีๆ เหล่านี้หายไปไหนหมดพอโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ .....แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงแทรกเข้ามาในใจผมว่า ...จริงๆ แล้ว พวกนักการเมืองเขายังทำอยู่อย่างเรื่องนี้อยู่นะ เขาเรียกว่า "สมบัติผลัดกันชม" ยังไงล่ะครับ!!!

ขอบพระคุณค่ะ ท่านอาจารย์ประพนธ์ ..ได้เริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งดีๆ คือมีอาจารย์แวะมาทักทายเพิ่มเติมในบันทึกด้วยค่ะ.....ขอบคุณค่ะ

ภาษิตจีนบอกว่า ผืนดินและโลกที่เราอยู่ก็คือสมบัติผลัดกันชมไม่มีใครได้ครอบครองอย่างแท้จริง

แต่ตอนที่ทรัพยากรจำกัดและเวลาบนโลกจำกัด คนที่ได้ครอบครองชั่วคราวกลับอยากจะครอบครองไว้คนเดียวนี่ซิคะ..ยุ่งเลยนะคะ

คุณสมพรคะ

ฝากกล่องตุ๊กตาไว้ที่น้องปูแล้วเมื่อตะกี้นี้....ขอให้เดินทางไปปายอย่างสนุกสนานนะคะ ...ฝากสวัสดีคุณจตุพรด้วยค่ะ...ขอบคุณค่ะ..

ขอบพระคุณค่ะ

จะแวะไปเอาวันนี้ค่ะ

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท