สวัสดีครับชาว Blog
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสได้รับเชิญจากสภาสตรีแห่งประเทศไทยให้ไปจัดกิจกรรมขยายผลโครงการเศรษฐกิจพอเพียงกับโลกาภิวัตน์ ซึ่งผมก็เลยถือโอกาสเลือกหัวข้อ workshop เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับครอบครัว สตรีและเยาวชน ซึ่งในวันนั้นก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มสมาชิกสมาคมสตรีไทย โดยเฉพาะกลุ่มครู อาจารย์และผู้ปกครองโรงเรียนที่มีชื่อเสียงหลายแห่งร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากคำถามที่ผมตั้งไว้ 4 ข้อ คือ
1) ท่านจะนำเศรษฐกิจพอเพียงไปพัฒนาสังคมได้อย่างไร
2) ท่านจะนำเศรษฐกิจพอเพียงไปพัฒนาลูกท่านอย่างไร
3) ท่านจะนำเศรษฐกิจพอเพียงไปพัฒนาโรงเรียนได้อย่างไร
4) หลังจากวันนี้แล้ว จะทำอะไรต่อ
จากคำถามข้างต้นมีหลายประเด็นที่น่าสนใจซึ่งทีมงานของผมกำลังรวบรวมมาบันทึกไว้ใน Blog นี้ สำหรับวันนี้ก็ขอถือโอกาสนำภาพบรรยากาศในการจัดกิจกรรมดังกล่าวมาให้ท่านได้ติดตามกันครับ
จีระ หงส์ลดารมภ์
ประมวลภาพบรรยากาศ
รับฟังการบรรยายจากศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับครอบครัว สตรีและเยาวชน
การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น : Sharing Ideas
สร้างโอกาสในการเรียนรู้ (Learning Opportunuties)
แบ่งกลุ่ม workshop
อ.ตรีดาว อภัยวงศ์ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้
ถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกัน
สวัสดีปีหมู ครับท่าน ศ.ดร.จีระ ที่นับถือ
JJ2007
เศรษฐกิจพอเพียง กับการบริหารโรงเรียน ผมเห็นว่า ต้องเริ่มที่ตัวผู้บริหารและครู เรียนรู้ร่วมกันกับเด็ก ชุมชน เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ไปหาสิ่งใหญ่
ขอร่วมเรียนรู้กับท่าน ครับ
สวัสดีครับชาว Blog
ตามที่ผมได้แจ้งไว้ว่าจะนำผลสรุป workshop มาเสนอให้ทุกท่านได้เรียนรู้กันที่นี่ ก็มีข้อสรุปดังนี้ครับ
เรียน ศ.ดร.จีระ ที่เคารพและชาวเวปทุท่าน สำหรับเรื่องการนำเศรษฐกิจพอเพียงไปพัฒนาลูกท่านได้อย่างไร กระผมขอเสนอในมุมมองของลูกคนหนึ่งบ้างนะครับ กระผมมีความคิดว่าการปลูกฝังบุตรให้มีความพอเพียงไม่เพียงแค่สอนด้วยปากปล่าวจะเพียงพอครับ สิ่งที่เด็กจะมีการตอบสนองคือ 1.การทำตนเป็นแบบอย่างผู้ปกครองเวลาใช้จ่ายถ้าท่านเน้นคุณภาพไม่เอาตามแบลนก็ทำให้เด็กติดนิสัยหรือชินกับตลาดที่ท่านพาไป 2.ไม่ให้บุตรรู้ว่าตนมีฐานะ เช่น ให้เงินไปโรงเรียนตามความเหมาะสมและความจำเป็น ถ้ามีค่าใช่จ่ายที่เกี่ยวกับการศึกษาสอนให้ลูกทำบัญชีเบิกเป็นกรณีไป
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้รวมๆคือสอนให้ลูกท่านคิดเป็น จะสังเกตุได้ว่าเด็กที่ตั้งใจเรียนคือเด็กที่ไม่มีฐานะเขาคิดว่าการศึกษาจะทำให้เขาไปสู่จุดที่ดีขึ้น กลับกันเด็กที่มีฐานะจะมองว่าไม่ต้องตั้งใจเรียนเพราะยังไงเงินที่พ่อแม่มีให้เราจนแก่ตายก็ใช้ไม่หมดหรือเรียกง่ายๆว่าหวังพึ่งพ่อแอย่างเดียวนั่นเอง