คุนค่าของป่าไม้มีมากมาย จนประเมินราคามิได้ เมื่อเป็นของมีค่าทุกคนก็อยากได้ทั้งอยากได้มาเป็นสมบัติของตนเอง ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาเช่น จ้างชาวบ้านถางป่าให้เสื่อมโทรม แล้วร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนออกเอกสารสิทธิ บางคนก็ใช้วิธีเผาป่าบ่อย ๆ บางคนที่มีที่ดินอยู่ใกล้ป่าเสาเขตแดนเป็นชนิดที่เดินได้และหันหน้าเข้าป่าและเดินหน้าลูกเดียว
บางกลุ่มก็อยากได้ป่ามาเป็นสมบัติของส่วนร่วมที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เมื่อความต้องการเหมือนกัน แต่จุดประสงค์ต่างกันในความคิดก็แตกออกเป็นสองส่วน ว่าจะแบ่งพื้นที่ให้เป็นส่วนของบุคคล หรือจะอนุรักษไว้เป็นของส่วนรวม
การประชุมชอง อบต" ร่อนทอง ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ จึงมีการเสนอเพื่อพิจารณาในกรณีการกำหนดเขตป่าสงวนรอบสนามบินพาณิช ซึ่งเป็นพืนป่าผืนสุดท้ายของตำบลเพื่อ มุ่งหวังที่จะให้เป็นป่าชุมชนชาวบ้านทุกหมู่บ้านในตำบลได้มาใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ใช้ใช้ประโยชน์เฉพาะคนที่อยู่รอบป่าเท่านั้น
ซึ่งจุดเริ่มต้นของความคิดอยู่ที่ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลที่ประสบความสำเร็จ ในการอนุรักษ์ป่าเกือบร้อยไร่ โดยคณะกรรมการของหมู่บ้านได้ประชุมเปิดเวทีสาธารณะหลายครั้งจนได้ข้อยุติจะร่วมกันอนุรักษ์ของหมู่บ้านไว้ โดยวางกฏระเบียบที่ชัดเจนห้ามตัดไม้ภายในป่าโดยเด็กขาด ถ้าผ่าผืนจะถูกปรับครั้งละ 2000 บาท
แต่ก็ยังผ่อนปรน ให้ชาวบ้านยังใช้ประโยชน์จากป่าในเชิงการดำรงชีพ เช่นสามารถเข้าไปเก็บ เห็ด หรือของป่ามาเพื่อยังชีพได้แต่ห้ามเก็บไปขาย หลังจากการใช้กฏของชาวบ้านที่กำหนดขึ้นมาเองดูแลป่าเป็นเวลา 3 - 4 ปี สามารถเรียกค่าปรับได้มากกว่า 10000 บาท และนำเงินจำนวนนี้มาปรับปรุงระบบป้องกันไฟ และฟื้นฟูป่าให้อุดมสมบูรณ์ขึ้น แนวคิดการอนุรักษ์ของหมู่บ้านนี้ได้ขยายไปยังตำบลซึ่งมีป่าใหญ่รอบสนามบิน ที่กำลังมีปัญหาทั้งโดนเผาทุกปี จ้างรถแทรกเตอร์ไถต้นไม้ทิ้ง เพื่อจะได้ปลูกยางพาราที่รัฐบาลสนับสนุน หรือแม้กระทั้งจ้างกองทัพมดทยอยตัดต้นไม้เจาะไปเรื่อย ๆ จนป่าเริ่มถูกทำลายอย่างชัดเจน
อบต.ร่อนทองเอง ก็ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านกลุ่มรักป่า และขอให้อบตร่อนทอง. เข้ามาดำเนินการหาวิธิการอนุรักษ์ป่าเพื่อให้เป็นสมบัติของชุมชน หลังจากนั้น อบต.ร่อนทองได้มีการประชุมกันหลายครั้ง ได้ออกมาตรการเบื้องต้นเพื่อที่จะเป็นการเริ่มต้นกระบวนการดูแลรักษาป่าของชุมชน เช่น การประกาศป่ารอบสนามบินให้เป็นป่าชุมชน มีการจัดทำป้ายประกาศห้ามตัดไม้หรือบุกรุกป่าชุมชนโดยเด็ดขาดถ้าใครผ่าผืนจะถูกดำเนินคดีอย่างสูงสุด
ปัญหาก็คืองกระบวนการตัดไม้ทำลายก็ยังดำเนินการต่อไปไม่สนใจประกาศห้ามของทาง อบต.ร่อนทอง จึงได้มีการเรียกประชุมช อบต. และผู้นำหมู่บ้านเพื่อหามาตรการเด็ดขาดในวันที่ 28 ธันวาคม 2549 ในที่ประชุมมมีแนวความคิดแบ่งออกเป็นสองผ่าย กลุ่มแรกมีความต้องการกันป่าหล่านี้ให้เป็นป่าชุมชน โดยกำหนดหลักเขตให้ชัดเจนและเด็ดขาดเพื่อการเข้ามาดูแลและฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่โดยกลุมนี้จะมาจากหมู่บ้านที่เคยอนุรักษ์ป่าได้สำเร็จ และกลุ่มที่เคยทำงานอิสระในชุมชน ส่วนกลุ่มที่สองคือกลุ่มที่มีผลประโยชน์ในพื้นที่ของตนเอง ญาติพี่น้องของตนเองอยู่รอบ ๆ ป่า ไม่เห็นด้วยกับการกำหนดเขตเพื่อกันให้เป็นพื้นที่ป่าชุมชนโดยกลุ่มนี้อ้างว่าเป็นพื้นที่ของการทำมาหากินของคนยากจน
เมื่อการประชุมพิจารณาไม่มีข้อยุติโดยเฉพาะประเด็นการกำหนดเขตพื้นที่ของป่าชุมชนว่ามีหลักเกณฑ์และมาตรฐานการพิจารณาว่าอย่างไร มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายหรือไม่ ที่ประชุมจึงมีมติให้มีการทำประชาวิจารณ์ให้เสร็จภายในเดือนมกราคม 2550 และจะได้นำผลการทำประชาวิจารณ์ในครั้งนี้มาดำเนินการต่อไป
ผลของประชาวิจารณ์ มีความหมายมาก แต่การก้าวเดินต่อไปของ กระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของคนในชุมชนที่จะแก้ปัญหา ของเขาเองจะเป็นอย่างไร
อบต.อะไร
ป่าที่ไหน
ปัญหาอะไร
จู่ๆก็โผล่เรื่องป่ากับเงื่อนไขขึ้นมา มันห้วนไปหน่อย
กินข้าวอย่ากินกับเด้อ
ป่าชุมชนมีจริงหรือ เห็นมีแต่ป่ารัฐบาล
กฏหมายป่าชุมชนคลอดแล้วหรือ
ปัญหาแวดล้อมช่วยมองช่วยเขียนช่วยเติม
ไม่อย่างนั้นมันจะเหมือนหมอลำ ร้องหาบันไดลง