ไม่โง่เอาเท่าไหร่?

วันนี้ผมยังไม่เห็นวิธีบำบัดโรคโง่ทางสังคม ยังไม่มีแผนแม่บทแก้ไขความโง่ถาวรของชาติ

ความโง่ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องสะสมเอง

ท่านเล่าฮูแสวง ลากประเด็นโง่มาสนทนาเป็นการอวยพรปีใหม่ ถ้าเรามองว่าเป็นเรื่องปกติ ผู้ที่มีประสบการกับเรื่อง..สิบเท่ายังรู้พลาด..จะกระหยิ่มเมื่อนึกถึงด้วยซ้ำไป บางกรณีเขาให้ความสำคัญเรื่องความโง่ เช่น ผู้เฒ่าผู้แก่แนะนำให้หลานสาวแกล้งโง่เสียบ้าง ถ้าไปอวดรู้อวดเก่งใส่สามีบ่อยๆเดี่ยวก็เกิดเรื่องหม้อข้าวก้นยังไม่ดำขึ้นมา ตรงกับข้ามกับแม่บ้านที่รู้แต่ก็ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ตระหนักรู้อยู่แก่ใจ วันไหนอารมณ์ดีก็หาทางบอกแบบกุ๊กกิ๊กว่า..ตาวิเศษเห็นนะ รู้นะ ถ้าอย่างนี้พ่อเจ้าประคุณรับได้ กลับจะชื่นชมที่รู้ทันแบบซาบซึ้งใจ ส่วนนี้เป็นเรื่องโง่ใกล้ตัวใกล้ใจ

แต่เรื่องโง่ไกลตัวนี่สิไม่รู้จะทำยังไง ผมนะโง่ระดับมืดแปดด้านอะไรประมาณนั้น เมื่อ2-3 วันมานี้ เขาบอกว่าแผ่นดินไหวทำให้สายใยแก้วใต้ทะเลเสียหาย ต้องซ่อมกันอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ส่งผลกระทบชาวเน็ตระหว่างประเทศ แต่ชาวบล็อกในไทยก็มีปัญหาระดับลักปิดลักเปิดในระบบการสื่อสารบ้าง โทรไปถามใครก็บอกว่ายังพอส่งข่อมูลได้อยู่นะ

แต่ของผมมันไม่ใช่อย่างนั้น มันไปแบบกู่ไม่กลับหลับไม่ตื่น โทรศัพท์แจ้งบริษัทไอพีสตาร์นับครั้งไม่ถ้วน เขาก็ตอบมาแบบโยนหินตามทาง แนะให้เราทำอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็ไม่สำเร็จสักที สรุปว่าท้ายปีนี้ระบบอินเตอร์เน็ทผมโง่พอๆกับผมนั่นแหละ

ความโง่ระดับสากล เรื่องเทคนิคเทคโนโลยีที่เรายืมจมูกคนอื่นมาใช้นี่อันตรายมาก ถ้าเหตุการณ์ปกติก็ไม่เป็นไร ถ้าเกิดวิกฤตสงครามนี่เราจะทำยังไง ถ้าถูกบอยขอดทางเทคโนโลยี เขาไม่บริการ เขาไม่ให้อะไหล่ เขาไม่ให้โปรแกรม จะไม่เซ่อกันไปทั้งประเทศรึ ..จะเผชิญโง่แบบจนใจอย่างที่ผมประสบอยู่ในวันนี้สักล้านเท่า ประเทศที่ด้อยพัฒนาเขาก็แบ่งเกรดให้แล้วว่า คุณอยู่ในกลุ่มโง่ ระดับความโง่ระหว่างประเทศทำให้เราเสียเปรียบเวลาไปทำสัญญาต่างๆ ดังนั้นการที่เราโง่แล้วไม่เจียมบอดี้นี่น่าคิดนะครับ ถ้านับถอยหลังไปหน่อย เขาก็จะพูดว่า พวกโง่ทั้งโคตร พวกพันธุกรรมโง่ มีDNA.โง่ๆๆ

ที่ผมโง่อาจจะมีส่วนจากมีDNA.โง่ๆก็ได้

อาจารย์ชาตรี สำราญ เคยเล่าวงจรโง่ของท่านให้ฟังว่า..

ที่ผมโง่ เพราะครูสอนผมโง่
ครูสอนแบบโง่ๆ ลูกศิษย์จึงโง่
เมื่อลูกศิษย์โง่จบไปเป็นใหญ่เป็นโต ก็เป็นไปแบบโง่ๆ
บางคนไปเป็นรัฐมนตรี เป็นนักการเมือง ก็ไปขยายความโง่ๆ
ออกนโยบาย ออกกฎระเบียบมาก็ล้วนแต่เป็นไปด้วยความโง่

เมื่อทราบต้นตอความโง่ของชาติแล้วผมก็ปรับใจได้ โง่ก็โง่วะทำไงได้ ในเมื่อระบบการศึกษาเรามันโง่ ไม่ยอมคิดยอมพัฒนา ใครจะมีแรงฝ่ากำแพงโง่ออกไปได้ ก็ตัวใครตัวมันนะครับ ไม่ทราบว่าจะรักษาความโง่เหมือนเกลือรักษาความเค็มไปอีกนานเท่าไหร่ โอ้โห้ นี่มันโง่ระเบิดเทิดเทิงเลยนะครับ เรามาสังคายนาโง่กันดีไหม

ผมไม่เชื่อว่าครูโง่จะสอนให้เด็กฉลาดได้ ดังนั้นการแก้ไปปัญหาของชาติ อยู่ที่ประเทศนี้ต้องทุ่มเทมาพัฒนาครู ระดมพลังทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาการศึกษาของชาติ เราถึงจะเกาถูกที่คัน เลิกเล่นตลกกับครูเสียที อย่าหลอกให้ครูบ้าตำแหน่งทั้งๆที่ยังโง่เต็มประดา อย่าเอาซีเอาหัวโขนมาล่อ ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ทั้งๆที่โรงเรียนที่บริหารไม่ผ่านการประเมิน คุณท่านจะเอาอะไรมาเป็นความพิเศษ

นี่ก็ตลกร้าย แถมยังบ้าทำเอกสารโง่ๆกองไว้ครึ่งห้อง คิดอย่างเด็กอมมือก็รู้ว่าไม่มีมนุษย์คนไหนทำผลงานตามความเป็นจริงได้ขนาดนั้น ควรจะมีมาตรการแวดล้อมไว้บ้าง เช่น ผู้ที่จะเสนอเข้ารับการพิจารณาเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ โรงเรียนของท่านต้องผ่านการประเมินเป็นอย่างน้อย ถอยไปดูประวัติย้อนหลังว่าเคยถูกร้องเรียนไหม เคยถูกชาวบ้านเดินขบวนอัปหิไหม เคยถูกสอบทุจริตไหม

อนึ่ง. ถ้า (สมศ.) เอาวิธีเขียนบล็อกเป็นระบบการประเมินคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา เราถึงจะมีระบบตรวจสอบที่เป็นจริง เพราะคนที่จะมาหลอกสร้างผลงานด้วนระบบบล็อกนั้นผมถือว่ายอดคน แต่ถ้ายังประเมินแบบเอื้ออาทร แบบกัลยาณมิตร เราก็จะเจอแต่มิตรเทียม ที่เกาะเก้าอี้หากินกับตำแหน่งไปวันๆ สรุปว่ายังไม่มีวิธีได้ความจริงจากระบบประเมิน กลับไปส่งเสริมให้พวกบริโง่หาช่องทางหลอกลวงระบบการศึกษาอย่างน่าอนาถใจ คิดผิดคิดใหม่ได้นะเรื่องนี้

บางท่านใช้อำนาจให้ครูบางคนไม่ต้องสอน มาทำหน้าที่รวบรวมผลงานที่ไม่มีที่ไปที่มาให้ผู้บริหารอย่างเดียว อย่างนี้ก็มีไม่น้อย ตราบใดที่ระบบการศึกษายังทำแบบลิงหลอกเจ้า สมองของคนไทยก็จะถูกนำไปใช้ไปทำแต่เรื่องเหลวไหล ..ถึงฝนไม่ตกขี้หมูก็ยังไหล ถ้าปล่อยให้คนโง่หลุดไปเป็นผู้เชียวชาญโง่ระดับ9 ผมถือว่าทุกคนที่เกี่ยวข้อง คนอ่านงาน คนเสนองาน กรรมการหน้าไม่โง่ทั้งหลายมีส่วนขยายวงจรโง่ด้วย ถ้าไม่เชื่อก็ขอให้โง่เสียให้เข็ด

แต่ในกรณีที่ครูบาอาจารย์ท่านใดมีความรู้ความสามารถจริง ก็ขอสนับสนุนให้เกียรติยศของครูอย่างเต็มที่ ปัญหามันอยู่ที่จะแยกแยะความโง่ ออกจากวิธีแกล้งโง่ โผล่ไปหาความจริงได้อย่างไร

วันนี้ผมยังไม่เห็นวิธีบำบัดโรคโง่ทางสังคม ยังไม่มีแผนแม่บทแก้ไขความโง่ถาวรของชาติ มีแต่แผนกิ๊กก๊อกแล้วยกขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ เอาอย่างนี้ดีไหมครับ ช่วยกันเอาความโง่ออกมาวางที่ไหนสักแห่ง แล้วทิ้งความโง่ออกมาซะบ้าง ทำอย่างที่เพลงเขาร้องนะครับ

..เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง ให้มันไหลลงไหลลงทะเล
ของเราก็แปลงเป็น
..เอาความโง่ลงทิ้งเจ้าพระยา ให้มันไหลมาแล้วก็ไหลไป..

ขอให้มีความสุขกับความสงบสุขทุกท่านครับ

เขียนใน GotoKnow โดย ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
ใน KM ในมหาชีวาลัยอีสาน

คำสำคัญ (Tags): #พัฒนบูรณาการศาสตร์#มหาชีวาลัยอีสาน

หมายเลขบันทึก: 70178เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2006 08:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน

ความเห็น (3)

ครูนงเมืองคอน

เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2006 08:49 น. ()

สวัสดีปีใหม่ ครับ ท่านครูบา

โอโห! ผมชอบใจข้อความนี้จังเลย ถ้า (สมศ.) เอาวิธีเขียนบล็อกเป็นระบบการประเมินคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา เราถึงจะมีระบบตรวจสอบที่เป็นจริง เพราะคนที่จะมาหลอกสร้างผลงานด้วนระบบบล็อกนั้นผมถือว่ายอดคน แต่ถ้ายังประเมินแบบเอื้ออาทร แบบกัลยาณมิตร เราก็จะเจอแต่มิตรเทียม ที่เกาะเก้าอี้หากินกับตำแหน่งไปวันๆ สรุปว่ายังไม่มีวิธีได้ความจริงจากระบบประเมิน กลับไปส่งเสริมให้พวกบริโง่หาช่องทางหลอกลวงระบบการศึกษาอย่างน่าอนาถใจ คิดผิดคิดใหม่ได้นะเรื่องนี้

และยิ่งได้อ่าน ข้อความทีท่านครูบาเขียนต่อไปอีกว่า วันนี้ผมยังไม่เห็นวิธีบำบัดโรคโง่ทางสังคม ยังไม่มีแผนแม่บทแก้ไขความโง่ถาวรของชาติ มีแต่แผนกิ๊กก๊อกแล้วยกขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ

ผมว่านี่คืออีกหนึ่งประเด็นแหย่รังแตนที่จะได้ประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนมาก