"ศูนย์ยุติธรรมชุมชน กระทรวงยุติธรรม ประจำตำบลร่อนทอง อ.สติก จ. บุรีรัมย์" ป้ายใหญ่เติมหน้าเติมตา ด้วยความสงสัยไม่เคยมีศูนย์อย่างว่านี้ เพราะว่าเมื่อมีกรณีพิพาทในปัจจุบันมักวิ่งโร่ไปหาตำรวจ หรือไม่ก็ทนายความ เอ..มันเกิดอะไรขึ้นหรือลูกศรกระบวนการยุติธรรมมันจะหันหัวกลับ
ด้วยความอยากรู้และบังเอิญและได้ไปนั่งคุยกับ อาจารย์สมศรี ทองหล่อ ท่านเป็นประธานศูนย์ยุติธรรมชุมชชน ประจำตำบลร่อนทอง และท่าน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง หลังจากที่ได้คุยกันใช้เวลาร่วมชัวโมงอย่างถึงพริกถึงขิงก็พบว่า
โครงสร้างของคณะแกรรมการชุมชน ประกอบด้วยประธานคณะกรรมการยุติธรรม รองประธานคณะกรรมการยุติธรรม และคณะกรรมการยุติธรรมที่เป็นตัวแทนของแต่ละหมู่บ้าน คณะกรรมการเหล่านี้ล้วนได้มาจากการคัดเลือกทั้งส้น และต้องเป็นผู้ที่สมัครใจด้วย
ขั้นตอนของการพิจารณาของคณะกรรมการยุติธรรมชุมชน
ขั้นที่ 1 คณะกรรมการชุมชนจะเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่าย มาเจรจาหาข้อยุติโดยใช้ การประสานผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งการใช้ความแกรงใจต่อคณะกรรมการยุติธรรม ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่เคารพนับถือของคนในชุมชน
ขั้นที่ 2 ถ้าขั้นที่ 1 ไม่อาจตกลงหาข้อยุติกันกได้ ทางคณะกรรมการยุติธรรมทางชุมชนก็จะทำหนังสือเชิญเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดที่เป็นนักกฏหมายของกระทรวงยุติธรรม หรือทนายเอื้ออาทรลงมาชี้แจงข้อกฏหมายกับคู่กรณีที่เกี่ยวกับกรณีพิพาทของทั้งสองผ่ายเพื่อหาข้อยุติให้ได้
ขั้นที่ 3 ถ้าขั้นที่สองยังไม่ยุติทางคณะกรรมการยุติธรรมชุมชนก็จะให้ทั้งสองผ่ายไปดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายกันเอง
ระยะเวลา 4-5 เดือนที่มีการตั้งศูนย์ยุติธรรม่ของตำบลร่อนทองขึ้นมา 10 คดีที่เข้าสู่กระบวนการของศูนย์ยุติธรรมชุมชน ปรากฏว่าทั้ง10 คดี ยุติที่กระบวนการในขั้นที่ 1 ทั้งหมด
ศูนย์ยุติธรรมชุมชนถ้าเกิดขึ้นในระดับชุมชนย่อย ๆ ลงไปเช่นหมู่บ้าน แม้กระทั่งเกิดขึ้นกับในแต่ละคุ้มในหมู่บ้าน ถ้าเป็นจริง ตำรวจ อัยการ ทนายความ น่าจะตกงานนะครับ
แล้วความรู้ชุดไหนที่เขาใช้ในการตัดสินครับ ใช้บรรทัดฐานอะไร
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร
เพียงแต่ราชการไทยไม่ใส่ใจ ไปหลงใช้อำนาจจากส่วนกลางมาบริหาความยุติธรรม
สังคมไทยในอดีตมีรูปแบบและวิธีการเป็นของตนเอง นั่นหมายถึงยุคที่วัฒนธรรมชุมชนยังไม่สั่นคลอน
ทางการเพิ่งตื่นตูมมาจัดเอาตอนนี้ก็ยังดี แต่คงต้องปรับอะไรอีกมาก ไม่อย่างนั้นมันก็จะเป็นนิทรรศการ ขาดความเชื่อถือและไม่ยอมรับ เป็นตัวอย่างสัก3-4 รายเรื่องนี้ก็เจ๊ง
เรียนครูบา