การทำงานพัฒนาตัวเจ้าหน้าที่ ให้ทำงานส่งเสริมการเกษตรเพื่อพัฒนาอาชีพและตัวของเกษตรกร เริ่มมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการและวิธีการทำงาน เริ่มตั้งแต่การปรับความคิด ปรับวิธีการทำงาน ปรับเครื่องมือ และปรับบทบาท สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นภายใต้ “ความรักที่มีต่อองค์กรและเกษตรกร” ที่เป็นกำลังใจและเป็นกำลังสมองให้กับการกระทำที่ทุกคนมุ่งสู่เป้าหมายคือ พื้นที่ที่ทำอาชีพการเกษตร
บทเรียนที่ผ่านมาของการทำงานในหน้าที่ของนักส่งเสริมการเกษตรจึงเกิดขึ้นกับการลองผิดลองถูก การสืบค้นผู้รู้และภูมิปัญญา การเชื่อมโยงคน กลุ่ม และเครือข่าย เป็นตัวอย่างชิ้นงานและองค์ความรู้ที่บรรลุผลสำเร็จเพื่อนำมาสู่การจัดการกับงานของตนเองให้บรรลุผล ในวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่และเกษตรกรกลุ่มหนึ่งที่ผ่านประสบการณ์เกี่ยวกับ “การทำวิจัยชุมชน” เพื่อสร้างเป็นฐานในการเรียนรู้เป็นของตนเองและกลุ่มสำหรับพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรให้เกิดขึ้นอย่างมีเหตุมีผล มีระบบการคิดเป็นตรรกะ มีความเป็นตัวตนของนักวิชาการ มีห้องทดลองงานวิทยาศาสตร์อยู่ในพื้นที่ตามมุมต่าง ๆ และมีการต่อยอดงานอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างเช่น
ในกรณีของจังหวัดน่าน ได้มีการฝึกเจ้าหน้าที่โดยการนำ PAP เข้ามาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเรียนรู้วิธีการชวนชาวบ้านคุย มีการฝึกเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการจัดกระบวนการเรียนรู้กับชาวบ้าน การจัดเวทีชุมชน ภายใต้เนื้อหาสาระเรื่อง การจัดทำแผนชุมชน หลังจากนั้นมีเหตุการณ์ที่เป็นภาวะวิกฤติกับอาชีพส้มของเกษตรกร (ส้มร่วง) เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันแก้ปัญหากับชุมชนโดยใช้เครื่องมือ PAP ตั้งแต่ร่วมกันค้นหาสาเหตุของปัญหา ร่วมกันสรุปประเด็นปัญหา ร่วมกันวางแผนแก้ปัญหา ร่วมกันลงมือแก้ปัญหากับสวนส้ม และร่วมกันประเมินสรุปผลที่เกิดขึ้นจากการแก้ปัญหาแล้วพบว่า สามารถร่วมกันฝ่าวิกฤติดังกล่าวได้บรรลุผลภายใต้การใช้ข้อมูลเป็นฐานในการปฏิบัติการอย่างมีเหตุมีผล ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานส่งเสริมการเกษตรกับเกษตรกรโดยใช้วิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR)
เมื่อจังหวัดน่านมีฐานในการปฏิบัติและมีประสบการณ์เกิดขึ้นจึงเริ่มมีการต่อยอดชิ้นงาน โดยรวบรวมและปรึกษาหารือกับผู้รู้และเครือข่าย เพื่อนำสู่การพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรให้ไม่หยุดนิ่งและงานส่งเสริมการเกษตรมีชีวิตจิตใจ มี โครงการ Safe Project เข้ามาเป็นกิจกรรม ให้พัฒนาตัวเจ้าหน้าที่และตัวเกษตรกรผ่านการทำวิจัยชุมชนในอาชีพการเกษตร อาทิเช่น เรื่องกบ เรื่องข้าว เรื่องศัตรูพืช เรื่องเมี่ยง
ฉะนั้น จาก ผลการสรุปงาน ในเวทีนำเสนอผลงานวิจัยชุมชน ที่เกิดขึ้นในวันที่ 26 – 29 พฤศจิกายน 2549 นั้นพบว่า 1) เกิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขั้นสูง คือ การนำผลงานวิจัยชุมชนที่ทำกับงานส่งเสริมการเกษตรมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเป็นเครือข่าย 2) เจ้าหน้าที่มีประสบการณ์เรื่อง การทำวิจัยชุมชน ในขั้นของ “การรับรู้แบบองค์รวม” โดยใช้เวลา 1 ปี 3) จากการนำเสนอผลงานวิจัย ทำให้ได้คำตอบและข้อสรุปของงานส่งเสริมการเกษตรที่ไม่หยุดนิ่ง เกิดขึ้นตลอดเวลา และตรงความต้องการของเกษตรกร โดยผ่าน PAR และ 4) วิธีการทำงานดังกล่าวทำให้เกิดการพัฒนาตัวเจ้าหน้าที่และตัวเกษตรกรได้อย่างแท้จริง
แต่ จุดอ่อนที่เกิดขึ้นและควรเสริมหนุน ก็คือ
1) เกษตรกรและเจ้าหน้าที่ร่วมกันสรุปบทเรียนและองค์ความรู้ในอาชีพการเกษตรได้ ฉะนั้น เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็ต้องการพี่เลี้ยงเพื่อสรุปบทเรียนและองค์ความรู้ในเทคนิคงานส่งเสริมการเกษตรด้วยเช่นกัน
2) ทำอย่างไร? เราถึงจะบริหารจัดการงานส่งเสริมการเกษตรและการสอนงานให้มีการขยายผลให้เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน และ
3) การบูรณาการงาน เป็นผลจากความร่วมมือของเครือข่ายระดับพื้นที่ (แนวราบ) งานถึงสำเร็จได้
ฉะนั้น ความร่วมมือของเครือข่ายแนวดิ่ง ทำอย่างไร? ถึงจะเกิดขึ้นได้จริงเพื่อเสริมหนุนและเป็นแรงผลักในการทำงานส่งเสริมการเกษตรของเจ้าหน้าที่ได้ การสรุปบทเรียนเรื่อง PAR กับการพัฒนาบุคลากรในงานส่งเสริมการเกษตร ได้ผ่านการถอดบทเรียนเป็นองค์ประกอบ ได้แก่ 1) สรุปผลงาน ได้แก่ กิจกรรมที่ทำ ผลที่ได้รับ/ข้อค้นพบใหม่ และ เทคนิคการทำงาน และ 2) กระบวนการวิจัยโดยชุมชน (เป็นคู่มือการทำงานของนักส่งเสริมการเกษตร)
ฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น คือ การวิจัยในอาชีพทางการเกษตรของเกษตรกร/ชุมชน ได้แก่ เรื่องข้าว เรื่องกบ เรื่องจิ้งหรีด เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ เรื่องการอนุรักษ์ เรื่องผักพื้นบ้าน และเรื่องอื่น ๆ และ สิ่งที่เพิ่มเติม คือ การวิจัยในการทำงานส่งเสริมการเกษตรของเจ้าหน้าที่กับเกษตรกร /กลุ่ม/ชุมชน ได้แก่
- เรื่องวิธีคิดของชุมชนกับอาชีพทางเกษตร เช่น ได้แก่ เรื่องข้าว เรื่องกบ เรื่องจิ้งหรีด เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ เรื่องการอนุรักษ์ เรื่องผักพื้นบ้าน เป็นต้น
- เรื่องวิธีการ/กระบวนการชวนชาวบ้านทำวิจัยชุมชนเพื่อพัฒนาอาชีพทางการเกษตร เช่น ได้แก่ เรื่องข้าว เรื่องกบ เรื่องจิ้งหรีด เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ เรื่องการอนุรักษ์ เรื่องผักพื้นบ้าน เป็นต้น
- เรื่องการนำวิธีการวิจัยชุมชนไปใช้ในการทำงานส่งเสริมการเกษตรกับเกษตรกร/กลุ่ม/ชุมชน
- เรื่องอื่น ๆ
ก็เป็นอีกเรื่องราวหนึ่งของสิ่งที่เกิดขึ้นของปี 2549 กับการทำงานส่งเสริมการเกษตรของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่กับเกษตรกร.