อาจารย์สาเรนกล่าวว่า จำเป็นต้องไปกันทางบก เพราะขนหนังสือไปมาก เกรงว่า ถ้าไปทางเครื่องบิน... หนังสือภาษาไทยจะถูกกักที่ด่าน และจะต้องเสียเงินใต้โต๊ะ เพื่อผ่านด่านอีกหลายสตางค์
วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2549 เราเดินจากสถานีขนส่งลำปางไปสถานีขนส่งหมอชิต... จากนั้นต่อรถไปอรัญประเทศ ท่านนั่งได้ไม่นานก็มีคุณยายขึ้นมา... ท่านเลยสละที่นั่งให้ พอดีมีพี่ผู้หญิงอีกท่านหนึ่งเคยไปทำงานในเขต 4 จังหวัดภาคใต้ ทำให้มีโอกาสคุยกันหลายเรื่อง ภาพที่ 1: ทหารเกณฑ์(นาวิกโยธิน)จากสระแก้ว ถูกส่งไปนราธิวาสตั้งแต่เดือนตุลาคม 2549 ผู้เขียนเรียนถามท่านว่า ไปอยู่ที่นั่นเสี่ยงมากน้อยอย่างไร ท่านเล่าว่า กับระเบิดระเบิดใกล้ๆ ชนิดที่สะเทือนไปทั้งตัวมาแล้ว 10 กว่าครั้ง "คิดอย่างนั้นไม่ถูกหรอก" ผู้โดยสารผู้หญิงอีกท่านหนึ่งว่า "ไม่มีพ่อแม่คนไหนเขาอยากให้ลูกไปตาย(ในหน้าที่)หรอก จะดีจะร้ายอย่างไร... พ่อแม่ก็อยากเห็นหน้าลูกนั่นแหละ" ผู้เขียนรับปากกับท่านว่า จะช่วยร้องเรียนผ่านท่านอาจารย์ไพบูลย์ รัฐมนตรีของไทยท่านเดียวที่เขียนบล็อกทาง Go2know แหล่งที่มา: เชิญอ่าน: โปรดคลิกที่นี่... เพื่ออ่านตอนที่ 1... [ Click ]
คุณพ่อของผมก็เป็นทหารเช่นกันครับ ท่านเล่าว่า ท่านรบอยู่บนเขานานกว่าสิบสี่ปี เพื่อนร่วมรุ่นท่านล้มหายตายจากไปทุกเดือน เดือนละหลายคน
ร่วมเรียกร้องให้อีกคนครับ
ขอขอบใจคุณบีเวอร์ และขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่าน...
พวกเราช่วยกันร้องเรียนเรื่องนี้ได้ครับ...
ขอขอบคุณอาจารย์ Wannaporn และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
พวกเราช่วยกันร้องเรียนเรื่องนี้ได้ครับ...
ขอส่งต่อ Blog-Tag กับคุณหมอวัลลภนะครับ
Khun T
ขอขอบพระคุณอาจารย์ Khun T...
ถูกแล้วค่ะใครจะอยากจะสั่งลูกตัวเองไปตายแต่ก็เพราะหน้าที่นะค่ะเขาก้ต้องทำก็เหมือนกับแฟนเก่าของฉันทึ่เขาตายที่นราธิวาสตอนวันที่14เดือนมกราคม2551ทั้งๆที่เป้นปีที่สุดท้ายที่เขากำลังจะออกจากทหารแล้วในอีกไม่กี่เดือนแต่กับต้องมาตายฉันคิดว่าการตายของผู้ชายคนนี้คนที่ฉันรักไม่คุ้มกับเงินเดือนเลยแต่เขาก็ภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติก็ที่เขาจะตายฉันได้คุยโทรศัทพ์กับเขาแล้วฉันคิดอะไรไม่รู้ฉันถามเขาว่าถ้าตายเพื่อชาติเขาภูมิใจไหมเขาบอกว่าภูมิใจมากแล้วหลังจากที่คุยกันเสร็จ3วันหลังจากนั้นฉันโทรไปหาเขาอีกครั้งแต่ไม่ใช่เขารับคนที่รับกับเป้นเพื่อนเขา เขาบอกฉันว่าคนรักของฉันตายแล้วฉันยังไม่เชื่อจากนั้นฉันก้โทรไปถามพี่ชายของฉันที่เป้นทหารอยู่ด้วยกันพี่ชายฉันบอกว่าเขาตายจริงๆนะตอนนั้นฉันสั่นไปทั้งตัวทั้งไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะไปจากฉันเร็วขนาดนี้
สิ่งที่ฉันทำในตอนนี้คืออยากให้ทุกคนใส่ใจกับทหารไทยของเราให้มากหน่อยอย่าคิดได้ตอนที่ต้องเสียเขาไปเงินทองไม่สำคัญสำคัญคือชีวิตของคนเราต่างหาก
ขอขอบคุณครับ... นี่เป็นเรื่องที่คนไทยเราควรใส่ใจให้มากจริงๆ