เสียงเงียบ จากทหารนราธิวาส


"ไม่มีพ่อแม่คนไหนเขาอยากให้ลูกไปตาย(ในหน้าที่)หรอก จะดีจะร้ายอย่างไร... พ่อแม่ก็อยากเห็นหน้าลูกนั่นแหละ"

                                

  • ผู้เขียนเดินทางไปกัมพูชาในระหว่างวันที่ 16-19 ธันวาคม 2549 เพื่อไปส่งท่านอาจารย์แก้ว สาเรน (ภาษาเขมรเรียงนามสกุลก่อนชื่อ) และช่วยกันขนหนังสือทางพระพุทธศาสนาไปอีก 6 ลัง

อาจารย์สาเรนกล่าวว่า จำเป็นต้องไปกันทางบก เพราะขนหนังสือไปมาก เกรงว่า ถ้าไปทางเครื่องบิน... หนังสือภาษาไทยจะถูกกักที่ด่าน และจะต้องเสียเงินใต้โต๊ะ เพื่อผ่านด่านอีกหลายสตางค์

  • ถ้าไปทางรถยนต์... เข้ากัมพูชาทางด่านอรัญประเทศ ผ่านปอยเปต เช่ารถกระบะขนลังหนังสือต่อไปพนมเปญ หรือขอให้ท่านพระแส แอม... พระอาจารย์แห่งวัดเวฬุวัน พนมเปญนำรถไปรับจะสะดวกกว่า

วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2549 เราเดินจากสถานีขนส่งลำปางไปสถานีขนส่งหมอชิต... จากนั้นต่อรถไปอรัญประเทศ

 

  • ทหารเกณฑ์บนรถท่านหนึ่งนั่งติดกับท่านสามเณรแดง ดี... ดูจะพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้เขียนเลยเรียนท่านว่า สามเณรพูดไทยไม่ได้ ท่านพูดเขมร

ท่านนั่งได้ไม่นานก็มีคุณยายขึ้นมา... ท่านเลยสละที่นั่งให้ พอดีมีพี่ผู้หญิงอีกท่านหนึ่งเคยไปทำงานในเขต 4 จังหวัดภาคใต้ ทำให้มีโอกาสคุยกันหลายเรื่อง

  • ท่านเล่าว่า เป็นคนสระแก้ว และเป็นนาวิกโยธินประจำที่จันทบุรี ทางการส่งไปที่อำเภอเมือง นราธิวาสมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2549

    ภาพที่ 1: ทหารเกณฑ์(นาวิกโยธิน)จากสระแก้ว ถูกส่งไปนราธิวาสตั้งแต่เดือนตุลาคม 2549

 

ผู้เขียนเรียนถามท่านว่า ไปอยู่ที่นั่นเสี่ยงมากน้อยอย่างไร ท่านเล่าว่า กับระเบิดระเบิดใกล้ๆ ชนิดที่สะเทือนไปทั้งตัวมาแล้ว 10 กว่าครั้ง

  • "โชคดีที่รอดมาได้" ท่านว่าอย่างนั้น "ถ้าตาย... คนข้างหลังก็คงสบาย" ท่านหมายถึงถ้าตาย... พ่อแม่คงจะได้เงินช่วยเหลือบ้าง

 

"คิดอย่างนั้นไม่ถูกหรอก" ผู้โดยสารผู้หญิงอีกท่านหนึ่งว่า "ไม่มีพ่อแม่คนไหนเขาอยากให้ลูกไปตาย(ในหน้าที่)หรอก จะดีจะร้ายอย่างไร... พ่อแม่ก็อยากเห็นหน้าลูกนั่นแหละ"

  • ปกติทหารเกณฑ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้จะได้ค่าเสี่ยงภัยเดือนละ 1,000 บาท ทว่า... ถึงกลางเดือนธันวาคมแล้ว ท่านเล่าว่า ยังไม่ได้รับค่าเสี่ยงภัยเลย

 

ผู้เขียนรับปากกับท่านว่า จะช่วยร้องเรียนผ่านท่านอาจารย์ไพบูลย์ รัฐมนตรีของไทยท่านเดียวที่เขียนบล็อกทาง Go2know

  • พวกเราที่อยู่แนวหลัง... ช่วยกันร้องเรียนหน่อยนะครับ ค่าเสี่ยงภัยอย่างนี้ไม่มากเลย และเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมที่แนวหน้าควรได้

    แหล่งที่มา:

  • ขอขอบพระคุณ > ภาพทหารเกณฑ์ > ได้ขออนุญาตท่านก่อนถ่าย เพื่อนำมาตีพิมพ์ใน Go2know แล้ว
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ จัดทำ > ๒๘ ธันวาคม ๒๕๔๙ > ยินดีให้ท่านผู้อ่านนำไปใช้ส่งเสริมสุขภาพ โดยไม่เกี่ยวกับการค้าได้ครับ

    เชิญอ่าน:

  • บันทึกนี้เป็นส่วนหนึ่งของชุดบันทึก "จุมเรียบซัว (สวัสดี) กัมพูชา"

โปรดคลิกที่นี่... เพื่ออ่านตอนที่ 1... [          Click          ]

  • เชิญอ่าน "บ้านสาระ" ที่นี่ > http://gotoknow.org/blog/talk2u > อ่านบันทึกย้อนหลังได้ โดยการเลือกเดือนจากปฏิทินกิจกรรมทางขวามือของบล็อก
  • เชิญดาวน์โหลดแฟ้ม PDF ที่นี่ > www.lampangcancer.com > ขอขอบคุณอาจารย์ณรงค์ ม่วงตานี webmaster โรงพยาบาล

หมายเลขบันทึก: 69856เขียนเมื่อ 28 ธันวาคม 2006 10:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

คุณพ่อของผมก็เป็นทหารเช่นกันครับ ท่านเล่าว่า ท่านรบอยู่บนเขานานกว่าสิบสี่ปี เพื่อนร่วมรุ่นท่านล้มหายตายจากไปทุกเดือน เดือนละหลายคน

ร่วมเรียกร้องให้อีกคนครับ

น่าภูมิใจกับคนที่ยอมเสียสละนะค่ะ ใครๆก็อยากให้เห็นคนที่รักอยู่ด้วยทั้งนั้น

ขอขอบใจคุณบีเวอร์ และขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบพระคุณคุณพ่อของคุณบีเวอร์ที่มีส่วนปกป้อง และให้ความปลอดภัยกับแนวหลัง คือคนไทยส่วนใหญ่

พวกเราช่วยกันร้องเรียนเรื่องนี้ได้ครับ...

  • ขอเชิญชวนส่งเรื่องราวนี้ผ่านท่านอาจารย์ไพบูลย์ รัฐมนตรีท่านเดียวใน Go2know ครับ... ขอขอบคุณ

ขอขอบคุณอาจารย์ Wannaporn และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • พ่อแม่เกือบทุกท่านคงไม่อยากได้เงินช่วยเหลือศพมากเท่าการได้เห็น ได้อยู่ร่วมกับลูกกับหลาน
  • ขอส่งความปรารถนาดี... ขอให้ทหารของเราทุกท่านอยู่รอด ปลอดภัย มีความสุข และมีความเจริญ
  • ทว่า... เรื่องค่าตอบแทนอันเป็นส่วนที่ท่านเหล่านี้พึงได้โดยชอบธรรมก็ควรเรียกร้อง...

พวกเราช่วยกันร้องเรียนเรื่องนี้ได้ครับ...

  • ขอเชิญชวนส่งเรื่องราวนี้ผ่านท่านอาจารย์ไพบูลย์ รัฐมนตรีท่านเดียวใน Go2know ครับ... ขอขอบคุณ

ขอส่งต่อ Blog-Tag กับคุณหมอวัลลภนะครับ

 Khun T

http://thaibaht.wordpress.com/2007/01/09/blog-tag-khun-t/

ขอขอบพระคุณอาจารย์ Khun T...

  • ขอขอบคุณครับที่กรุณาแนะนำ
  • ขอขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง

ถูกแล้วค่ะใครจะอยากจะสั่งลูกตัวเองไปตายแต่ก็เพราะหน้าที่นะค่ะเขาก้ต้องทำก็เหมือนกับแฟนเก่าของฉันทึ่เขาตายที่นราธิวาสตอนวันที่14เดือนมกราคม2551ทั้งๆที่เป้นปีที่สุดท้ายที่เขากำลังจะออกจากทหารแล้วในอีกไม่กี่เดือนแต่กับต้องมาตายฉันคิดว่าการตายของผู้ชายคนนี้คนที่ฉันรักไม่คุ้มกับเงินเดือนเลยแต่เขาก็ภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติก็ที่เขาจะตายฉันได้คุยโทรศัทพ์กับเขาแล้วฉันคิดอะไรไม่รู้ฉันถามเขาว่าถ้าตายเพื่อชาติเขาภูมิใจไหมเขาบอกว่าภูมิใจมากแล้วหลังจากที่คุยกันเสร็จ3วันหลังจากนั้นฉันโทรไปหาเขาอีกครั้งแต่ไม่ใช่เขารับคนที่รับกับเป้นเพื่อนเขา เขาบอกฉันว่าคนรักของฉันตายแล้วฉันยังไม่เชื่อจากนั้นฉันก้โทรไปถามพี่ชายของฉันที่เป้นทหารอยู่ด้วยกันพี่ชายฉันบอกว่าเขาตายจริงๆนะตอนนั้นฉันสั่นไปทั้งตัวทั้งไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะไปจากฉันเร็วขนาดนี้

สิ่งที่ฉันทำในตอนนี้คืออยากให้ทุกคนใส่ใจกับทหารไทยของเราให้มากหน่อยอย่าคิดได้ตอนที่ต้องเสียเขาไปเงินทองไม่สำคัญสำคัญคือชีวิตของคนเราต่างหาก

ขอขอบคุณครับ... นี่เป็นเรื่องที่คนไทยเราควรใส่ใจให้มากจริงๆ

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท