วันนี้มีเรื่องเล่าให้ฟังอีกเรื่อง....
หลังจากที่ภาณุเดชจบรัฐศาสตร์มหาบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็เข้ารับราชการในกระทรวงแห่งหนึ่ง เขากลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่สาวในกระทรวงหลายคนหมายปองและทอดสะพานให้ แต่ภาณุเดชก็ทำเป็นไม่สนใจด้วยเชิงชายและศักดิ์ศรีของมหาบัณฑิตหนุ่ม
สาวิตรีเป็นอนงค์หนึ่งที่พยายามทอดสายตาแสดงความหมายในหัวใจลึก ๆ ให้ภาณุเดชหวั่นไหวกว่าสาวงามคนอื่น ๆ สาวิตรีมีภาษีดีกว่าสาวอื่นที่นอกจากจะหน้าตาสวย หุ่นดีถูกสเป็กของภาณุเดชแล้วยังเป็นนิสิตรัฐศาสตร์บัณฑิตรุ่นน้อง และนั่งโต๊ะทำงานใกล้กันด้วย ความใกล้ชิดผูกพัน และการช่างเอาใจของสาวิตรีทำให้ทั้งสองเกิดความรักและแต่งงานกันในที่สุด
ในระยะแรกของข้าวใหม่ปลามัน ความรักทั้งคู่ยังหวานแหวว ต่างปฏิบัติต่อกันเหมือนตอนที่เป็นแฟนกันก่อนแต่งงานยังไงยังงั้น
หกเดือนหลังจากแต่งงาน พฤติกรรมของสามีภรรยาคู่นี้เริ่มเปลี่ยนไป สาวิตรีกลายเป็นคนควักกระเป๋าจ่ายค่าอาหารเองเวลารับประทานอาหารนอกบ้านด้วยกัน ความเป็นอยู่ภายในบ้านตลอดจนการกินการอยู่หรือจะไปไหนมาไหนของภาณุเดชก็ต้องถูกควบคุมอย่างใกล้ชิดโดยศรีภรรยา
วันเวลาผ่านไป ทั้งคู่มีลูกให้เป็นโซ่ทองคล้องใจถึง 2 คน ภาณุเดชได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองอธิบดี มีลูกน้องบริวารและผู้ให้ความเคารพนับถือมากขึ้น จากที่เคยต้องขับรถมาทำงานเองก็มีรถประจำตำแหน่ง มีห้องประจำตำแหน่งพร้อมสมศรีเลขานุการสาวแสนสวยคอยเอาใจทุกย่างก้าว
ความเข้มงวดของภรรยาที่เปลี่ยนบทบาทจากแฟนมาเป็นแม่ ในขณะที่สมศรีเลขานุการสาวคอยเอาอกเอาใจสารพัดปฏิบัติต่อเขาเยี่ยงคู่รัก นานวันเข้า แม้ภาณุเดชจะเป็นคนรักลูกรักเมียเพียงใดแต่ก็ต้องหวั่นไหวเยี่ยงปุถุชนธรรม
เย็นวันหนึ่งสาวิตรีแวะไปหาภาณุเดชในห้องทำงานโดยมิได้นัดหมาย เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปเธอต้องตะลึงงันกับภาพชายหญิงตรงหน้าและทรุดฮวบอยู่ตรงนั้น เธอได้ยินเสียงแว่วจากปากของสามีก่อนหมดสติว่า
"แม่..”
ไม่มีความเห็น