จากบันทึกที่ผมได้เขียนถึงการทำงานของหน่วยงานสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ที่ CKO ได้ให้โอกาสขยายวงการเรียนรู้ จากในอดีตที่ทีมงานเราทำKMแบบไม่ให้รู้ตัว โดยสอดแทรกไปในงานเท่าที่จะทำได้ ต่อมาเราเปลี่ยน CKO ใหม่ และท่านได้ให้นำKM เข้ามาพูดคุยและกำหนดการเรียนรู้ให้ทั่วทั้งองค์กร โดยเริ่มต้นเวทีปรับแนวคิดกันเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา (ลิงค์)
เมื่อวานนี้ (26 ธันวาคม 2549) เป็นครั้งแรกที่เราได้ดำเนินการ ลปรร.กันในหน่วยงานของสำนักงานเกษตรจังหวัด ซึ่งใช้เวทีการประชุมประจำเดือนของพวกเราที่มีอยู่แล้ว หลังจากที่ได้บอกกล่าวกันถึงงานตามปกติของการประชุมทั่วๆ ไป ต่อจากนั้นก็เป็นการเปิดเวทีให้แต่ละกลุ่มฝ่าย ซึ่งมี 2 กลุ่มงาน กับอีก 2 ฝ่าย คือ
กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร
กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาผลผลิต
ฝ่ายยุทธศาสตร์และสารสนเทศ
ฝ่ายบริหาร
บรรยากาศการ ลปรร. ซึ่งเราใช้เวลาไม่มากนัก เริ่มโดยผม คุณอำนวยอาสา ได้เกริ่นทบทวนเกี่ยวกับการทำงานโดยการสร้างความสัมพันธ์ของคนทำงาน ทำงานร่วมกัน เรียนรู้ร่วมกัน ส่วนองค์ความรู้หรือการจัดการความรู้นั้นจะตามมาเอง จากนั้นก็เป็นการเล่าของแต่ละกลุ่ม-ฝ่าย ดังนี้
คุณสมเดช สิทธิยศ จากกลุ่มส่งเสริมแลพัฒนาเกษตรกร ได้เล่าถึงกระบวนการทำงานที่ต้องอาศัยความร่วมมือ และลงไปสร้างกระบวนการร่วมกันในกลุ่มอาชีพต่างๆ ว่าเราจะต้องร่วมมือกัน เมื่อกลุ่มพัฒนาสถาบันเกษตรกรเข้าไปทำเรียนรู้และสร้างแนวทางพัฒนาแล้ว ก็จะส่งลูกต่อมายังกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนกลุ่มและปฏิบัติงานต่อ และในปี 2550 นี้ มีเป้าหมาย อำเภอละ 5 กลุ่ม รวมทั้งจังหวัด 55 กลุ่มอาชีพ (ที่จะนำร่อง)
หลังจากนั้น คุณปริมาณ ปั้นลี้ หน.กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาผลผลิต ได้มาเสริมคุณสมเดช ถึงการทำงานว่าเราจะต้องลงพื้นที่ และทำงานประสานกันอย่างดีต่อไป เพื่อสนับสนุนแผนของกลุ่ม
คุณกิติกานต์ ศรีวิชัย จากฝ่ายยุทธศาสตร์และสารสนเทศ ได้มาเล่าถึงประสบการณ์ในการประชาสัมพันธ์งานส่งเสริมการเกษตรให้ประสบผลสำเร็จ โดยได้เล่าขั้นตอนที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ของตนเอง เพื่อให้ทุกคนได้ ลปรร.
คุณนัยนา สุจิตรา หน.ฝ่ายบริหาร ก็ได้มาแลกเปลี่ยนถึงกระบวนการและขั้นตอนในการเบิกจ่ายเงิน ที่ถูกต้องและทำให้เกิดความรวดเร็วในการเบิกจ่าย
จากนั้นคุณสายัณห์ ปิกวงค์ (คุณอำนวยตัวจริง) จากฝ่ายยุทธศาสตร์ ก็ได้มาสรุปถึงกระบวนการที่ได้ดำเนินการในวันนี้ ว่าเป็นการเริ่มต้น ดังนั้นก็ต้องเรียนรู้กันต่อไป
สุดท้ายผลก็สรุปภาพรวมอีกครั้งว่า การทำKMนั้น คือการบริหารความสัมพันธ์ของคนในองค์การ ให้ได้มีโอกาสพูดคุยกันเรื่องงาน ลป.ประสบการณ์ในการทำงาน โดยต้องมีเป้าก่อนว่าในงานนั้นๆ เราต้องการความรู้เรื่องอะไร เวลามาพบกันก็เป็นการ ลปรร.วิธีหนึ่ง แต่สุดท้ายต้องสรุปและบันทึกองค์ความรู้เหล่านั้นไว้ เพื่อเผยแพร่ให้คนอื่นที่ไม่ได้ร่วมอยู่ด้วยได้เรียนรู้และนำไปปรับใช้ ต่อไป
เป็นเวทีแรกครับ อาจจะแข็งไปบ้าง ยังมีรูปแบบของการประชุมอยู่บ้าง แต่เราก็ประเมินกันว่าได้แค่นี้ก็พอใจมากแล้วครับ ก็คงค่อยๆ เสริมความรู้ และจัดกระบวนการกันอย่างนี้ต่อไปสักระยะหนึ่งก่อน แล้วค่อยๆ ปรับกระบวนท่ากันใหม่
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร.ครับ
วีรยุทธ สมป่าสัก
จัดเวทีครั้งแรกๆ แข็งไปบ้างก็ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันก็เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน เพราะเรากังวลว่าจะไม่เป็นไปตามกรอบที่วางไว้ ทำไปแล้วก็ AAR ปรับปรุงไปเรื่อยๆ ครั้งต่อๆ ไปก็จะดีขึ้น
เอาใจช่วยคุณสิงห์ป่าสักค่ะ
เรียน ท่านพี่เมตตา
เรียน ดร.วัลลา
เรียน ท่านพี่เมตตา
ด้วยความเคารพ ไม่ต้องเขินนะครับ ...ขอรับการคาราวะจากข้าผู้น้อย...หนึ่งจอก...อิอิ