มีอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้อยากบันทึกความคิดในเรื่องนี้ไว้ค่ะ นึกถึงคุณครูคนแรกๆที่สอนเด็ก แต่จะมีใครสักกี่คนจำได้ว่า เรารักที่จะเรียน รักที่จะเขียนอ่านเพราะใคร
คิดถึงตัวเองว่า เราระลึกรู้บุญคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเราได้ไม่ถ้วนทั่ว ท่านเหล่านั้นจะรู้ไหมว่า สิ่งที่ท่านได้ให้กับเรามาได้ส่งผลให้ชีวิตเรามาถึงจุดนี้ได้ สิ่งที่ท่านได้รับตอบแทนก็คงเป็นเพียงความภาคภูมิใจ ที่ได้รู้เห็นความสำเร็จของเรา งานสร้างคน สร้างโอกาสให้คน มักจะเป็นงานที่ผู้ทำไม่ได้รับการให้เครดิต บางครั้งเป็นการปิดทองหลังพระด้วยซ้ำ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายย่อมคิดว่า ทำได้ มาได้ เป็นได้เพราะตัวเองกันทั้งนั้น
อยากขอบคุณ ทุกๆท่านที่รับบทบาทเช่นนี้ จงภูมิใจเถิดว่าแม้ผู้ที่ถูกสร้าง ถูกบ่มเพาะมาทั้งหลายจะไม่รู้ตัว หากท่านมีส่วนทำให้เขาตื่น เขารู้ เขาคิด เขาเป็นอย่างที่เป็นอยู่ ท่านได้ทำกุศลอันยิ่งใหญ่ให้บ้านเมืองแล้ว ท่านจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นรับบทบาทเช่นเดียวกันต่อๆไป เป็นทุนทางสังคมที่ลงไปเถิดค่ะ แม้กำไรจะไม่ได้เกิดกับผู้สร้าง แต่ผลลัพธ์ต่อบ้านเมือง ต่อโลกนี้นั้นดีแน่นอนค่ะ
จำได้ค่ะ จำครูบางท่านในระดับประถม เคยเตือนว่า อย่าขมวดคิ้ว เดี๋ยวจะเป็นร่องตั้งแต่เด็ก ตอนนี้อายุเป็นป้า ยังไม่มีรอยย่นเลยค่ะ
ระดับมัธยม จำวิธี "ด่า" ของครูได้ค่ะ แต่มันทำให้เราเป็นคนคิดเป็น ขอบคุณครูๆ ทุกท่าน (แอบกลับไปเยี่ยมโรงเรียน ครูๆ บางท่านยังสอนอยู่เลยค่ะ แถมจำเราได้อีกต่างหาก ยุคโน้นเป็นแสบพอใช้น่ะค่ะ แฮะๆ)
ตอนนี้สิ ต้องมารับถือเด็กแสบที่เป็นลูกเราเอง เฮ้อ เหนื่อยหัวหงอกไปเลยค่ะ
ตอนแรกก็สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันค่ะว่า ทำไมชอบวาดรูปและชอบภาษาอังกฤษอย่างมาก นึกไปนึกมา อ๋อ ใช่เลยค่ะ
สมัยเรียนมัธยมต้น คุณครูภาษาอังกฤษ ชื่อ ครูจุ๊ จะให้นักเรียนวาดรูปลงในสมุดการบ้านสำหรับวิชาภาษาอังกฤษได้ตามใจชอบค่ะ สมุดไม่ต้องมีเส้น และ จะเขียนภาษาอังกฤษแบบใดก็ได้ค่ะ ไม่ว่าจะ เป็น พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก หรือ ตัวติด ค่ะ
เป็นบทสรุปของ creativity ที่ส่งเสริมให้เกิดขึ้นแต่เยาว์จากคุณครูค่ะ
สำเร็จ เสร็จ สมบูรณ์ หรือป่าวคะนายบอน
หนิงอ่านแล้วคิดถึงคุณแม่ค่ะ ตอนเด็กๆหนิงดื้อมากค่ะ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ คุณแม่คง...( อุบไว้ )
และสุภาษิตไทยที่บอกว่า ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ นั้นคงจะใช้กับหนิงไม่ได้ค่ะอาจารย์ เพราะใครๆก็ชมว่าคุณแม่เราใจดี แต่เราอ่ะ ...พญามารชัดๆ 555
สวัสดีค่ะ
เห็นด้วยค่ะ และคิดว่าผู้ที่นึกถึงคนอื่นๆ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ก็เป็นคนที่มีความงามของความกตัญญูค่ะ มีตัวอย่างหนึ่ง จากงานพระราชพิธีนี้มาฝากค่ะhttp://gotoknow.org/blog/bridge/68527
โดนใจจริงๆครับ
เคยวิเคราะห์ ความเป็นตัวเรา ที่เรารู้สึกพอใจ โดยแยกส่วนดู พบว่าที่มาคือ ครู ครับ และในจำนวนนั้นมีครู ที่อยากเขียนถึงมากที่สุดอยู่คนหนึ่ง เก็บข้อมูลไว้พอสมควร แต่ไม่เขียนเพราะอยากให้ ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ เนื่องจากเรียกได้เลยว่าท่านคือ ครู ผู้ลิขิตชีวิตเรา .. สัญญาจะนำมาบันทึกให้อ่านกันใน Gotoknow นี่แหละครับ .. ตั้งใจจะให้เป็นบันทึก สุดพิเศษ ของตัวเองครับ โปรดคอยติดตาม รับรองว่า ไม่ธรรมดา ชนิด เหลือเชื่อเลยล่ะครับ !
ขอบคุณทุกท่านที่มาต่อยอดค่ะ ได้ไปเยี่ยมบันทึกของคุณจันทรรัตน์มาแล้ว และไปฝากความเห็นไว้ว่า
"เห็นด้วยค่ะว่า การช่วยกันเตือนให้ระลึกว่า ทุกความสำเร็จมีผู้คนมากมายอยู่เบื้องหลังที่ไม่ได้รับการระลึกถึง หากพวกเราบอกเล่ากันบ่อยๆ จะเป็นการเสริมสร้างสำนึกกตัญญูรู้คุณ ที่นับวันจะมีน้อยลงๆให้กลับมาเป็นสามัญสำนึกเช่นเดิมค่ะ"
เข้ามาเห็นด้วยเต็มตัวเลยค่ะคุณ โอ๋-อโณ
ข้อความนี้ของคุณโอ๋ทำให้ดิฉันรู้สึกจับใจมาก
"การเสริมสร้างสำนึกกตัญญูรู้คุณ ที่นับวันจะมีน้อยลงๆให้กลับมาเป็นสามัญสำนึกเช่นเดิม"
ดิฉันเลยมีการบ้านไปคิดต่อ เพราะคุณโอ๋ให้โจทย์ไว้ดีมาก ...มากจนอยากวางแผนระยะยาวลงไปในหลักสูตรเลยค่ะ