มองทั้งแง่ความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วยนะคะ ขนาดใช้เครื่องชั่งน้ำหนักก็ยังต้องทดสอบความเที่ยงตรงก่อนเลย
อ่านบันทึกแล้วนึกถึงเรื่องที่เคยเป็นกลุ่มตัวอย่างข้อมูลเรื่องไขมันค่ะ ปรากฏว่าเครื่องชั่งน้ำหนักของนักวิจัยชั่งได้เกินไป 2-3 กิโลเกือบทุกคน พอกลุ่มตัวอย่างได้มาคุยกันและเห็นว่าผลการวิจัยจะผิดพลาดโดยเฉพาะเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับภาวะสุขภาพของนักศึกษาบัณฑิตศึกษาสาขาการพยาบาลในหลายสถาบัน ก็รีบไปเรียนอาจารย์ท่านเจ้าของโครงการวิจัย ปรากฎว่า ท่านบอกว่า "เก็บข้อมูลไปหมดแล้ว ถ้าต้องมาชั่งน้ำหนักใหม่จะเสียเวลา เอางี้ จะลบออกคนละ 3 กิโลละกัน" ก็เลยเรียนท่านไปว่า งั้นขอถอนตัวจากโครงการค่ะ.ไม่เกรงใจค่ะ ...ยิ่งถ้าเป็นในหน่วยงานเดียวกัน บางทีเพราะความเกรงใจกันในเรื่องให้ข้อมูล มีใบอะไรมาก็ช่วยๆกรอกๆไป ...ถ้าเป็นการทำวิจัยถือว่า เชื่อถือไม่ได้เลยนะคะ ผิดจริยธรรมด้วยค่ะ
เรียน อ.ปารมี
อันที่จริงพวกเรายินดีให้ข้อมูลค่ะ
ขอเพียงว่า บอกที่มาที่ไป ทำอะไรเพื่ออะไร ใครเป็นคนขอมา เท่าก็โอ...แล้วค่ะ
แต่....อาจจะได้ข้อมูลที่ไม่ค่อยอัพเดด นะคะ เพราะบางคนก็บอกน้ำหนักที่ชั่งเมื่อหลายเดือนก่อน (ซึ่งเบากว่าตอนนี้หลายกิโล)
ขอบคุณ อ.จันทรรัตน์ ค่ะ ที่มาให้ข้อคิดที่ดี
โชคดีค่ะ ที่การขอข้อมูลครั้งนี้ไม่ไช่งานวิจัย แต่เป็นนโยบายสร้างเสริมสุขภาพ อย่างที่ อ. ปารมี บอก