การควบคุมภายใน เป็นระเบียบของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินที่ทุกส่วนราชการ จะต้องมีการรายงานการควบคุมภานในให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินทราบ สำหรับผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณ ผมเคยเขียนไว้ใน Blog เกี่ยวกับองค์ประกอบของการควบคุมภายในhttp://www.gotoknow.org/archive/2005/10/20/17/44/58/e5659
เมื่อวาน (10 พ.ย.48) ทางกองแผนงานได้เชิญรองคณบดีที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมภายในไปประชุม ผมได้ขอติดตามไปเข้าร่วมประชุมด้วย ที่ประชุมมีคุณเบิร์ด (คุณธงชัย แสงจันทร์ ... หัวหน้างานติดตามและประเมินผล เป็นประธาน) และมีคุณหนุ่ย (คุณจิระพงศ์ ... หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายใน) ได้ชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินการควบคุมภายใน โดยยกตัวอย่างหน่วยงานที่เป็น Best Practice ในการจัดทำการควบคุมภายในให้ทราบ มีการสรุปขั้นตอนการควบคุมภายในอย่างเป็นระบบมาให้ทราบ เลยเก็บมาเล่าสู่กันฟังครับ
ขั้นตอนการควบคุมภายใน
หลัก 4 M นั่นเอง คือ Man Money Material Management) มาจากภาคผนวก ง ใน
ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เล่มที่ 2 (รายงานตามระเบียบฯ ข้อ 6) คือ
แบบปย 2-1
ด้านการบริหาร สำหรับให้ผู้บริหารที่รับผิดชอบด้านบริหารตอบแบบสอบถาม
ด้านการเงินและบัญชี สำหรับผู้บริหารและผู้ปฏิบัติที่รับผิดชอบด้านการเงินและบัญชี
ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง สำหรับผู้บริหารและผู้ปฏิบัติที่รับผิดชอบด้านการจัดซื้อจัดจ้าง
ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล สำหรับผู้บริหารและผู้ปฏิบัติที่รับผิดชอบด้านทรัพยากร
บุคคล
( สภาพแวดล้อมการควบคุม การประเมินความเสี่ยง กิจกรรมควบคุม สารสนเทศและการสื่อ
สาร การติดตามและประเมินผล)
ผู้ประเมินตามองค์ประกอบของมาตรฐานการควบคุมภายใน คือ ผู้บริหารครับ
ในแบบ ปย. 2 คือ แบบสรุปผลการประเมินองค์ประกอบของมาตรฐานการควบคุม
ภายใน ทั้ง 5 องค์ประกอบโดยผู้บริหารครับ
การควบคุมภายในมาสรุปถึงจุดอ่อนที่พบจากการประเมินในกระดาษครับ (เรียกว่า
กระดาษทำการ ไม่มีแบบฟอร์มครับ)
หากประเมินออกมาแล้วพบว่า
ไม่มีความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญ คือไม่มีความเสี่ยงสูง หน่วยงานสามารถบริหารความเสี่ยง
ได้ก็ทำหนังสือรับรองการควบคุมภายใน (แบบปย. 3) ได้เลยเป็นอันจบกระบวนการของการ
ประเมินการควบคุมภายในที่ไม่มีความเสี่ยง หรือมีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำหรือปานกลาง
หากประเมินออกมาแล้วพบว่า
มีความเสียงที่มีนัยสำคัญ คือ มีความเสี่ยงสูง หน่วยงานจะต้องทำแบบประเมินการควบ
คุมภายใน คือ แบบปม. เพื่อปรับปรุงการควบคุมภายในดังกล่าวให้ลดความเสี่ยงลง
ถัดจากนั้นก็ทำแผนการปรับปรุงการควบคุมภายใน (แบบปย. 3) หาเจ้าภาพรับผิดชอบใน
เรื่องที่เป็นความเสี่ยงสูงถึงสูงมาก และกำหนดเวลาแล้วเสร็จให้เรียบร้อย เป็นอันจบการควบ
คุมภายในที่มีความเสี่ยงสูงถึงสูงมากครับ ปีหน้าก็มีงานเพิ่ม คือ จะต้องแบบติดตาม
ปย.3
ผมพิจารณาจากระบบการควบคุมภายในแล้วเห็นว่า เป็นเครื่องมือสำคัญของผู้
บริหารใน การบริหารงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อหน่วยงานครับ
บอย
ชุมชนสำนักงานเลขานุการ
ไม่มีความเห็น