peter
นาย กฤษณะพงศ์ ต่อ สุวรรณโชติ

นายดี


วิตามินนั้นสำคัญนะ
วิตามินคืออะไร
วิตามินเป็นสารอินทรีย์ที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อยแต่มีความจำเป็น ต่อการทำงานของร่างกายนับตั้งแต่การหายใจของเซลล์ การนำโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรท ไปใช้ในการสร้างเนื้อเยื่อและผลิตพลังงานสำหรับการดำรงชีวิต


นอกจากนั้นวิตามินยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่นการสร้างเม็ดเลือดแดง,การแข็งตัวของเลือด,การสร้างกระดูก การมองเห็นและการทำงานของระบบประสาท วิตามินจึงเป็นตัวจักรเล็กๆแต่มีความสำคัญอย่างยิ่งซึ่งร่างกายจะขาดเสียไม่ได้


บุคคลที่ปรารถนาจะมีสุขภาพแข็งแรงจึงควรได้รับวิตามินอย่างเพียงพอ ต่อความต้องการของร่างกายซึ่งจะเห็นได้ว่าตรงกับความหมายของวิตามิน (Vitamin)ซึ่งมาจากคำว่าVitaหมายถึงชีวิตรวมกับคำว่า Amin จึงหมายถึง สารอินทรีย์ที่สำคัญต่อชีวิต (Vita for life)

หากร่างกายขาดวิตามิน
ร่างกายไม่สามารถสร้างวิตามินขึ้นเองได้ หรือสร้างได้เพียงเล็กน้อย (วิตามินD)ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย จึงจำเป็นต้องได้รับวิตามินต่างๆผ่านทางอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน

หากร่างกายได้รับวิตามินไม่เพียงพอกับความต้องการ จะส่งผลให้สุขภาพเสื่อมลง และเมื่อได้รับไม่เพียงพอติดต่อกันไปนานๆจะส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการผิดปกติได้

วิตามินบี12
จำเป็นในการสร้างเม็ดเลือด การทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และการดูดซึมของทางเดินอาหาร อาการที่ปรากฏเมื่อขาด โลหิตจาง อ่อนเพลีย ความบกพร่องของระบบประสาทส่วนกลาง วิตามินบี 12 พบมากใน เนื้อสัตว์นม เนย
วิตามินเอ
มีหน้าที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อช่วยการมองเห็น ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อผิวหนัง อาการที่ปรากฎเมื่อขาด ติดเชื้อง่ายขึ้น มองไม่เห็นในที่มืด ผิวหนังแห้ง ลอกหลุดเป็นแผ่น วิตามินเอพบมากใน ผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง ตับ ไข่ นม และเนย
วิตามินบี1
ช่วยเสริมการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตไปใช้เป็นพลังงาน มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท หัวใจ และทางเดินอาหาร อาการที่ปรากฏเมื่อขาด เบื่ออาหาร เหนื่อยง่าย ชาตามมือและเท้าแขนขาไม่มีแรง วิตามินบี 1 พบมาใน ธัญพืช ข้าวซ้อมมือ ถั่วต่างๆ งา ตับ
วิตามินบี2
เกี่ยวข้องในการหายใจของเซลล์ กระบวนการมองเห็น หน้าที่ของผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ อาการที่ปรากฏเมื่อขาด ผิวหนังอักเสบแผลที่มุมปาก หรือปากนกกระจอก วิตามินบี 2 พบมากในนม ไข่ เนื้อสัตว์ ตับ ผักใบเขียว
วิตามินบี6
การทำงานของระบบประสาท การสร้างเม็ดเลือด ช่วยรักษาสภาพผิวหนังให้เป็นปกติ อาการที่ปรากฏเมื่อขาด อ่อนเพลีย โลหิตจาง ชาปลายมือปลายเท้า วิตามินบี 6 พบมากใน เนื้อสัตว์ ผักต่างๆ ปลา และยีสต์
วิตามินซี
ช่วยสร้างภูมิต้านทานแก่ร่างกาย การสร้างผิวหนัง กระดูก ฟันและหลอดเลือด อาการที่ปรากฏเมื่อขาด แผลหายช้า เลือดออกง่าย ฟันหลุดร่วงได้ง่าย วิตามินซีพบมากใน ผลไม้สดและผักสด
วิตามินดี
ช่วยการดูดซึมแคลเซียมซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเจริญของกระดูกและฟัน อาการที่ปรากฏเมื่อขาด ปวดเมื่อย ปวดข้อและกระดูกอ่อน วิตามินดีพบมากใน ตับ เนื้อสัตว์ นม ไข่ เนย
วิตามินอี
จำเป็นต่อการเจริญและพัฒนาของเซลล์ประสาท เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการแตกสลายของเยื่อหุ้มเซลล์ อาการที่ปรากฏเมื่อขาด มีผลเสียต่อระบบกล้ามเนื้อประสาท หัวใจ และหลอดเลือด วิตามินอีพบมากใน น้ำมันพืช ถั่วต่างๆ ผักเขียวปนเหลือง
กรดแพนโทธีนิค
การทำงานของเนื้อเยื่อผิวหนัง คุณภาพของผม อาการที่ปรากฏเมื่อขาด ผมร่วง แผลหายช้า กล้ามเนื้อล้า กรดแพนโทธีนิคพบมากใน ไข่แดง ตับ ยีสต์ ผักใบเขียว

แหล่งที่มา : นิตยสาร ELLE


คำสำคัญ (Tags): #สาระดี
หมายเลขบันทึก: 68950เขียนเมื่อ 23 ธันวาคม 2006 10:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท