เพิ่งศึกษาเรื่อง เงินๆ ทองๆ เลยลองหัดเขียนเรื่องใกลตัว..แต่อยู่ในกระเป๋า


มีเงิน นับว่าน้อง ..มีทอง..นับว่าพี่...สมัยนี้ค่าว่า 10 พ่อค้าไม่ เท่าหนึ่งพระยาเลี้ยง...ใช่ไม่ได้แล้ว..เพราะธุรกิจจากเอกชน ก้าวกระโดดไปไกล..ข้าราชการอย่างเรา..ยังวุ่นวายดินขลุกขลักอยู่ในกรอบระเบียบ...แต่ก็มีความสุขดี..เพราะคิดดี..ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง...
เสนอบทความ....เรื่องเงิน ๆทองๆ ที่ชอบติดตาม และนำมา เขียนให้พอเข้าใจ....ถ้านำตู้เย็นมาขายเอสกิโม..ต้องขอโทษนะครับ
ตั้งแต่หลังสังคมโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา เราเอาค่าเงินบาท ผูกติดกับทองคำสำรองที่ธนาคารโลก และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โดยมีแบงค์ชาติ เป็นผู้ดูแล....เพราะเราต้องทำการค้าขายกับต่างชาติ..ดังนั้นเสถียรภาพทางเศรษฐกิจแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับ ความแข็ง และความอ่อนของสกุลเงินแต่ละประเทศ

ถ้าค่าเงินอ่อนตัว หมายถึงอัตราแลกเปลี่ยน เทียบ 1 ดอลล่า กับสกุลบาทไทย เพิ่มขึ้น (คือค่าเงินเราถูกขึ้น) ซึ่งเคยทะลุถึง 1 ดอล เทียบ 40 บาท ในสมัยปี 40 จึงทำให้นักลงทุนไทยที่กู้เงินดอลล่าเขามาในช่วงนั้นต้องใช้หนี้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว(อีกทั้งกระแสเงินปล่อยกู้จากต่างประเทศ เข้ามาเหมือนสึนามิ และก็ชักกลับเร็ว จึงทำให้คนไทยที่เอาเงินมาลงทุน เพิ่งก่อสร้างตึกเพิ่งเสร็จ รายได้ยังไม่มี จึงไม่มีเงินใช้หนี้เขา)ข้าตัวตายยกครัวไปหลายศพ.... คนจนตาย คนรวยล้มบนฟูก (เพราะรัฐมีนโยบายโอบอุ้มคนรวย คือใช้หนี้แทนให้ในช่วงนั้น)และรัฐจำเป็นต้องพาประเทศชาติเข้าสู่ระบบ IMF (เหมือนกับท่านไม่ยอมผ่อนรถ ผ่อนบ้านเป็นเวลานานกลายเป็น NPL เขาก็เชิญท่านมาปรับปรุงการชำระใหม่ เพิ่มดอกเบี้ยให้บานทะโรค และเพิ่มวินัยการชำระอย่างเคร่งครัด) รัฐจึงต้อง ทำสัญญา 7 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการห้ามทำโปรเจ็กใหญ่ๆ รวมทั้งการขายสมบัติชาติ เช่นแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การเข้ามาเทคโอเวอร์สถาบันการเงินต่างๆ เป็นต้น..... แต่ในครั้งนั้นค่าเงินที่อ่อนตัว กลับเป็นผลดีกับการส่งออก และการท่องเที่ยว เพราะสินค้าเราถูกขึ้นครับ.......

สงครามสมัยใหม่ ใช้วิธีโจมตีค่าเงินของแต่ละประเทศ...เหมือนอย่างเราโดนสมัยวิกฤตปี 40 ที่นายโซลอส ปล่อยเงินทะลักเข้ามาปล่อยกู้ระยะสั้น...คนไทยไม่เก่งกฏหมาย..หรือสัญญาต่างๆ ไม่รัดกุม อีกทั้งความโลภ เห็นดอกเบี้ยถูกกว่า... จึงทำให้เกิดวิกฤติการณ์ดังกล่าว........

และไม่กี่วันที่ผ่านมา...หม่อมอุ๋ย ได้รับสัญญาณบางอย่างที่เงินภายนอกเข้าสู่ประเทศเราอย่างผิดปกติ โดนเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จึงมีการเก็งกำไรค่าเงินบาท กันขึ้น เพราะ เงินเริ่มแข็งขึ้น....ซึ่งมีผลต่อการส่งออก และการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก...... ท่านรองฯ จึงมีมาตรการ กฏเหล็ก สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาซื้อหุ้น ห้ามถอนกลับภายในหนึ่งปี จะถอนได้ แต่ต้องทิ้งไว้ 30% ของเงินลงทุน เพื่อให้เงินแช่ลงทุนระยะยาวขึ้น....มาตรการนี้ทำให้นักลงทุนอ่อนไหว รีบเทขายหุ้นทันที ในวันอังคารที่ผ่านมา จึงทำให้หุ่นล่วงเป็นประวัติการณ์ ถึง 108 จุด เสียหายกว่า แปดแสนล้านบาท ภายในวันเดียว.......อาการดังกล่าว ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่า...กว่าจะฟื้นก็เป็นปี...แต่ก็ทำให้ค่าเงินของเราแข็งขึ้นมานิดหน่อย เป็น 36 บาท กว่าๆ .........

จริงๆ กระผมไม่ค่อยสันทัดในเรื่องดังกล่าว เพราะทางของเรา เก่งแต่การสอนเด็กอยู่ตรงกลาง..เอ้ย! ศูนย์กลาง..... เพียงแต่เราเป็นครู..ต้องรู้ไปทุกเรื่อง..ไม่จำเป็นต้องลึก..แต่ก็ต้องสามารถพูดคุยกะผู้ปกครอง หรือนักเรียนได้....

ก็นำมาแชร์...ให้เพื่อนฝูงในเครือข่ายฯ ได้ช่วยกันเสริมเติมเต็มกันบ้าง...เพื่อสร้างเครือข่ายความรู้ร่วมกัน.....สวัสดี

หมายเลขบันทึก: 68762เขียนเมื่อ 22 ธันวาคม 2006 12:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท