ผมมิได้กล่าวหาท่าน
ดร. แสวง รวยสูงเนิน แต่ประการใด เพียงแต่อยากบอกว่า ใครอยากรู้ อยากคิดแบบไม่ต้องเกรงใจใคร เกี่ยวกับเรื่อง
การเรียนการสอน หรือเรื่องของ
ปริญญา ต้องไปอ่าน
บันทึกนี้ ของท่าน และด้วยบันทึกดังกล่าวนั่นแหละ ผมถึงได้ระบายความคับข้องใจสู่ท่าน สมัครเป็นพันธมิตรกับท่าน ความในใจผมเป็นอย่างไร ไประบายไว้แล้ว และคัดลอกมาประกาศชัดๆไว้อีกครั้งที่นี่ ดังนี้
ขอบพระคุณครับ อาจารย์ถอดหัวใจผมเขียนโดยไม่รู้ตัวแล้วล่ะครับ .. ผมเป็นพันธมิตรโดยไม่ได้ประกาศและจะขอประกาศตรงนี้ว่า ผมเชื่อและคิดเช่นเดียวกับที่อาจารย์นำเสนอ
ผมอยู่ในแวดวงการฝึกหัดครูมาร่วม 30 ปี รู้สึกเจ็บปวดแทนสังคมอยู่ตลอดมา เพราะมองเห็น
การจัดการเรียนการสอน และกิจกรรมที่เรียกว่า
การศึกษา ที่ทำๆกันอยู่นั้น ยังเป็น
ไสยศาสตร์ อยู่มากเหลือเกิน อึดอัดรำคาญกับหลายเรื่อง หลายประเด็น เขาเรียนรู้วิธีการและจัดการเปลี่ยนแปลงอย่างนั้น อย่างนี้ โกลาหลไปทั้งเมืองไม่รู้กี่ครั้งกี่คราว แต่ที่เห็นๆก็ได้แค่
รูปแบบ ที่ลอกเลียนเขา โดยไม่ได้เอา
จิตวิญญาณ ของการทำอย่างนั้นมาด้วย ภูมิใจกันแค่ได้
ทำเหมือนเขา และ
ครบขั้นตอน ตามที่
บิดา ว่าไว้ จะปรับเปลี่ยนอะไรออกนอกกรอบ เพื่อความ
สอดคล้องกับสภาพจริง เพื่อ
ผลที่ดีกว่า แท้จริงกว่า ยั่งยืนกว่า ก็ไม่กล้าทำเพราะ
กลัวผิด ผมไม่ได้พูดเลื่อนลอย จะยกกรณีตัวอย่างประกอบก็ได้ไม่น้อย แต่ไม่ขอทำตรงนี้เพราะมันจะยาวจนน่ารำคาญครับ เชื่อว่าอาจารย์
ดร. แสวง รวยสูงเนิน และท่านอื่นๆ ที่เข้ามาตรงนี้คงพูดแทนผมได้ เพราะมันเกิดครอบคลุมพื้นที่ประเทศนี้ ชนิดที่เห็นกันอยู่ตำตาทั่วไป
.. ผมว่าผม "
เห่า" มากไปแล้ว ต้องขอหยุดแค่นี้
สำหรับที่นี่ แต่ออกไปข้างนอกก็จะขอ "
เห่า" ต่อ จนกว่าอะไรๆ มันจะเปลี่ยนแปลงไปในแบบที่
มีปัญญากำกับการเปลี่ยนแปลง นั่นแหละครับ.