Dr LeisและงานTUC คนดีที่จากไปด้วยความอาลัยจากชาวบำราศ

Dr LeisและงานTUC คนดีที่จากไปด้วยความอาลัยจากชาวBIDI

19-12-49

สถาบันบำราศได้ทำโครงการTUCโดยมีการทำการตรวจผู้ป่วยเอดส์ มีการซักประวัติหาปัจจัยเสี่ยงในการถ่ายทอดเชื้อเช่นการไม่ใช้ถุงยางอนามัย มีการหาเชื้อกามโรคในผู้ป่วยกลุ่มนี้ทำให้เราทราบว่าผู้ป่วยเอดส์ชายมีความเสี่ยงในการไม่ใส่ถุงยางประมาณ50% ไม่บอกผลเลือดคู่นอน และมีการติดเชื้อกามโรคประมาณ 6-8 % ในการทำงานร่วมกับดร ลิส เรามีการเรียนรู้ขึ้นมากทั้งการตรวจและผลที่เกิดขึ้น เรามีการนำผลมาคุยกันทำให้เราทำโครงการต่อไปอีก3ปีข้างหน้าโดยใช้ผลงานของโครงการ หลังจากการนำเสนอผลงานเราวิจารณ์ผลว่าเกิดจากอะไร ทำไมผลออกมาแบบนี้ หลังจากคุยกันเราทราบว่ามาตรฐานการซักประวัติอาจจะต่างกันบ้างทำให้เรามาclean Data อีกครั้ง เราจะเชิญคุณศิริวรรณ พยาบาลที่ซักประวัติมาให้ข้อมูลเรื่องการกรอกข้อมูลและนำข้อมูลมาวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่งก่อนจากไป ดร.ลิสแจ้งว่าท่านจะลาไปทำงานที่ประเทศอินโดนีเซียในต้นเดือนมกราคม ท่านยังคงเขียนงานโครงการให้ต่อจนกว่าจะเรียบร้อยโดยตั้งใจจะนำผลไปลงวารสารต่างประเทศหลังจากเราได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ท่านมอบของขวัญเป็นขนมหนึ่งกล่องซึ่งดิฉันได้ให้กลุ่มงานการพยาบาลไปดิฉันกล่าวขอบคุณและอวยพรให้ ดิฉันเชิญหมอปรีชา คุณ เยาวรัตน์ กล่าวอวยพร เนื่องจากยังมีเวลาเหลือดิฉันถือโอกาสให้ผู้ร่วมงานทุกคนแสดงความรู้สึกของต่อโครงการ คล้ายๆ AAR แต่จะเป็นการกล่าวจะเฉพาะสิ่งที่ได้มาอย่างเดียว ทุกคนรู้สึกดีต่อโครงการว่าทำให้เรียนรู้งานโครงการ งานวิจัย สถิติ ผลของSTIต่อHIV และมุมมองการดูแลผู้ป่วยเอดส์จะมองกว้างขึ้นมากผู้ที่แสดงความเห็นประกอบด้วย คุณสว่างจากงานจุลชีว งานพยาบาลเท่าที่จำได้มี โสพิศ เจริญสุข อรทัย สุนันทา ถนอมจิตต์ กรุณา เดชา สมพิศ(จำได้แค่นี้ค่ะ ) ดิฉันต้องขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ทำให้เรามีผลงานที่เราภาคภูมิใจและสามารถนำไปเป็นงานวิจัย ถือว่าเป็นR2R และนำมากำหนดมาตรฐานการรักษาและเราได้นำมากำหนดนโยบายการดูแลของสถาบันต่อไปค่ะ