พี่เม่ยก็เลยต้องขยับแว่น แล้วก็เพ่งมองคุณกิจทั้งหลายอย่างตั้งใจ ในมุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมแดง มุมน้ำเงิน มุมตึก มุมเสา ฯลฯ.... จนในที่สุดก็ปั่นออกมาเป็นต้นฉบับได้สองหน้า A4 ก่อนจะส่งให้ท่านเอื้อก็อ่านทบทวนดูอีกครา...
"สิ่งที่ยังมองเห็นไม่ชัดจากหลายๆทีมที่เข้าร่วมโครงการ ก็คือการทำงานที่ต่อเนื่อง และการปรึกษาหารือปรับปรุงแก้ไขงานอย่างสม่ำเสมอ......
...หลายทีมคึกคักมากในช่วงแรกๆของการทำโครงการ และผ่อนลง ผ่อนลง และมาออกแรงกันอีกครั้งในโค้งสุดท้าย วิธีการเช่นนี้ถึงแม้จะทำงานได้สำเร็จก็ตาม แต่สิ่งที่จะขาดไปก็คือกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การระดมสมองในระหว่างการทำงาน โอกาสที่เราจะได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆในระหว่างการดำเนินงานถูกปิดกั้น มีบางทีมที่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ที่สังเกตได้จากผลงานที่นำมาเล่าสู่กันฟัง และเขาก็ได้ค้นพบสิ่งใหม่ ได้ปรับปรุงแก้ไขงานจนทำให้ได้ผลงานที่ดีที่สุดออกมาได้อย่างน่าชื่นชม.....
...จึงอยากจะฝากให้คุณกิจทั้งหลายพัฒนาวิธีการดำเนินงานของตนเองให้มีความต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เพื่อประโยชน์ต่อตนเอง ต่องาน และต่อองค์กรของเรา และปฏิบัติเช่นนี้ไปจนเป็นวัฒนธรรมของตัวเองในที่สุด"
ว้าวๆๆๆ บอกได้คำเดียวว่า ว้าว!! ตะกี้เปิดบล็อกเข้ามาตาค้างขณะจิตค่ะ "พี่เม่ย" คิดว่าเปิดเข้ามาผิดบล็อก เพราะเห็นสาวหน้าใสส่งยิ้มอยู่หน้าบล็อก งง ตัวเองอยู่พักนึงว่ากดจากลิงค์ของ "พี่เม่ย" แล้วใครดันมาโผล่ยิ้มอยู่ สงสัยเกิดขัดข้องทางเทคนิค หรืออาชีวะ ไม่แน่ใจ เพราะเคยดูภาพจากงานมหกรรม KM สาวคนหนึ่งยืน (แต่สวน) ถ่ายรูปกับป้ายรางวัลอะไรสักอย่างก็ยังคิดเลยว่าเขาคนนี้เป็นใครหนาช่างน่ารักจัง แต่ใจไม่ได้คิดว่าเป็นพี่เม่ยเลยแม้แต่นิดเดียว...เพราะจำติกแต่ภาพเดิมค่ะ พอเข้ามาเมื่อกี้เลยเป็น งง และตกใจเล็กน้อยถึงปานกลางว่าสาวคนนี้มาโผล่ที่บล็อกพี่เม่ยได้อย่างไรกัน แต่ภาพนี้ขอบอกว่างามแต้ ๆ เจ้า น่ารักน่าชังจังเลยค่ะ ยิ้มสดใสประทับใจจ๊อดเชียวแหละค่ะ "พี่เม่ย"
ยังระลึกถึง "พี่เม่ย" เสมอค่ะ (ชมอีกทีภาพนี้น่ารักจริง ๆ ค่ะ)