ประสบการณ์ที่พบในอดีต


คุณค่าของ คนดูได้จากอะไร

ในสมัยเป็นนักเรียนที่ไม่ได้รับความสนใจจากครู อาจารย์  เนื่องจากเป็นเด็กที่รูปร่างหน้าตาขี้เหร่  ครูมักจะไม่สนใจ  เวลาโรงเรียนจัดกิจกรรม เช่น  แสดงละคร  รำ  ร้องเพลง  อยากจะร่วมแสดงกับเขาบ้าง  แต่ครูก็ไม่ยอมเลือก  ก็ได้แต่เฝ้าแอบดูเวลาเขาซ้อม  แล้วก็แอบไปแสดงเองที่บ้าน  รำให้ตัวเองดู ก็รำสวยเหมือนกันนะ  ร้องเพลงให้ตัวเองฟัง  ก็เพราะเหมือนกัน  เอ  ทำไมครูไม่เลือก  เคยสมัครเข้าประกวดร้องเพลงอย่ครั้งหนึ่ง  อุตส่าห์ซ้อมแทบตาย  พอถึงวันแข่งขัน  แต่งตัวซะสวยเชียว   พอจะถึงคิวร้อง  ครูประกาศว่าขณะนี้เย็นมากแล้ว  ขอเลิกการประกวด  ดูซิ  แม้แต่ดวงอาทิตย์ยังไม่เป็นใจเดินซะเร็วเชียว

-เป็นความฝังใจมาตลอด จนกระทั่งตัวเองมาเป็นครู  ตั้งใจว่าต้องเปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนได้แสดงศักยภาพของเขาเท่าเทียมกัน  ไม่นำเรื่องรูปร่างหน้าตามาเป็นอุปสรรค"ความสามารถกับรูปร่างหน้าตามันคนละเรื่องกัน"

-นักเรียนทุกคนเขาย่อมมีความสามารถในตัวของเขาเอง  อย่างน้อยไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง  หรือบางคนอาจจะมีหลายด้าน  หากเราไม่ให้เขาแสดงออกเราก็จะไม่รู้  เมื่อนักเรียนเขาไม่ได้แสดงออกตามที่เข้าต้องการ เขาก็จะไปหาเวทีของเขาเอง

-ในขณะที่สอนนักเรียนต้องคิดว่านักเรียนทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

-ควรให้โอกาสเขาได้แสดงออกอย่างเท่าเทียมกัน

-เปิดโอกาสให้เขาบ้าง อย่างน้อยก็ให้เขาได้ตอบคำถามครูบ้าง  จริง ๆ เขาอยากตอบแต่พอตอบไม่ถูกใจครู  ครูก็ไม่พอใจเลยไม่อยากถาม   เมื่อเขาไม่มีโอกาสได้โต้ตอบกับครูเขาก็เลยหันไปคุยกันเอง

-สุดท้ายจากประสบการณ์ของตัวเองอีกเรื่องหนึ่งคือ  ถ้ารักครูคนไหน  ชื่นชมครูคนไหน  จะเรียนวิชาน้นได้ดี  "ตัวครูเป็นสื่อการเรียนการสอนชิ้นแรกที่จะดึงดูดความสนใจของนักเรียน" 

หมายเลขบันทึก: 68123เขียนเมื่อ 19 ธันวาคม 2006 08:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • เหมือนกันเลย หัวอกของเด็กขี้เหร่
  • แต่ดี๋ยวนี้สุมาลีสวยแล้ว
  • ฝากบอกคุณครูรักเด็กเท่าเทียมกัน  เห็นด้วยกับบันทึกนี้ค่ะ
จากประสบการณ์ความเป็นครูมากว่า 20 ปี ในภาพโดยรวมและตัวเองด้วยนะพบว่าในกลุ่มนักเรียนที่มีคุณสมบัติ 1.รู้จักประมาณตน 2.เป็นคนมีเหตุผล 3.สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองได้ หรือมีคุณธรรม นักเรียนกลุ่มนี้ต่างหากที่จะได้รับการเอาใจใส่น้อยกว่าเพียงแต่ส่งเสริมเติมเต็มให้เท่านั้น แต่ในกลุ่มที่ขาดคุณสมบัติดังกล่าวเสียอีกที่จะได้รับการดูแลเอาใจใส่มาก ทั้งถูกอบรมหรือขัดเกลาด้วยวิธีต่างๆทั้งเป็นกลุ่มและส่วนตัวจนบางครั้งต้องขอความร่วมมือจากผู้ปกครองเป็นพิเศษให้ช่วยกันดูแลอีกแรง ในกรณีของ อ.สุมาลี น่าจะเป็นกลุ่มนักเรียนที่มีครบทั้ง 3 ประมาณคือเป็นนักเรียนที่ดี เลยทำให้เกิดความรู้สึกว่าครูดูแลน้อยกว่าคนอื่นๆๆ คิดมากๆๆ ไปเองมั่งครับ
  • ใช่เลยค่ะผอ.ประจักษ์ ลำดวนก็เป็นเด็กใน 3 กลุ่มนี้เช่นกัน  และก็เคยรู้สึกว่าขาดความสนใจจากครู
  • เมื่อมาเป็นครูแล้วจึงเข้าใจ  และพยายมที่จะให้ความเอาใจใส่กับเด็กกลุ่ม พระรอง  คือเก่งก็ไม่เก่งมาก ร้ายก็ไม่ร้ายเหลือขอ ไม่ให้เขารู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง
  • แต่น่าเห็นใจคุณครูยุคนี้ที่สุด  ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น ก็โทษครู
  • เป็นกำลังใจให้คุณครูทุกท่าน
สุมาลี พิเชฏฐ์พงษ์
-ขอบพระคุณ ทั้ง ผอ.ประจักษ์ และหัวหน้า ที่ให้กำลังใจค่ะ -สมัยก่อนคิดอย่างนั้น แต่เดี๋ยวนี้ไม่คิดแล้ว เพราะสวยแล้ว (ตอนนี้ต้องตื่นนอนมาแต่งตัวตั้งแต่ตี 4 ทุกวัน เฮ้อ! ยังสวยได้เท่านี้เลย สงสัยต้องไปเกิดใหม่เผื่อจะสวยกว่านี้)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท