วันนี้ ได้เข้ามารับประทานอาหารทะเลที่ ร้านอาหารทะเลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งมีอาหารทะเลโชว์อยู่อย่างหลากหลายชนิดมาก ทั้งอยู่ในตู้กระจกแบบอ่างเลี้ยงปลา พอไปนั่งและเปิดเมนูอาหารยิ่งมีหลากหลายชนิด ซึ่งไม่ค่อยจะเห็นในร้านอาหารทั่ว ๆ ไป มีมากมายหลากชนิดกว่าที่เห็นในตู้โชว์ซะอีก รู้สึกประทับใจมาก
ร้านนี้มีวิธีการจัดหาวัสดุอาหารเหล่านี้มาได้อย่างไร ทำไมจึงมีวิธีการและความสามารถคัดเลือกคุณภาพวัตถุดิบอาหารได้ดีขนาดนี้
พอมองพิจารณาย้อนกลับไป คิดว่าน่าจะมีคนกลางที่มาดูแล ช่วยอยู่ตรงนี้ เพราะน่าจะมีการแข่งขันในร้านอาหารเป็นหมื่น ๆ ร้าน ในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใกล้เคียงที่ขายอาหารประเภทเดียวกัน
เพราะฉะนั้น ถ้ามองย้อนกลับไปก็น่าจะมีคนกลาง ซึ่งเป็นตลาดรวบรวม แล้วมาแบ่งคัดเกรด เพื่อจะส่งร้านอาหารแต่ละระดับ และก็น่าจะมีคนที่ติดต่อสื่อสาร เพื่อส่งของจากระบบของชาวประมง แบบตู้เลี้ยงปลา เพื่อคัดเกรดเข้ามาถึงคนกลางอีกทีหนึ่ง เป็นชุด ๆ แยกเป็นประเภทๆ ไป
ระบบธุรกิจแบบนี้ น่าจะเป็นเครือข่ายซ่อนแฝงอยู่หลังฉาก ในระบบธุรกิจเหล่านี้โดยรวมของประเทศ ซึ่งอาจจะไม่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป แต่จะรู้กันในกลุ่มของร้านอาหารโดยทั่วไป ซึ่งน่าทึ่งมากครับ
เพราะฉะนั้น นั่นคือที่มาของการเป็นระบบธุรกิจที่ซ่อนแฝงอยู่ มีการจัดการความรู้ที่เข้มข้นและชัดเจน ที่สามารถมีการแบ่งเกรดประเภทอาหาร และอาจจะมีการแบ่งเกรดประเภทของร้านอาหาร จนกระทั่งถึงการแบ่งรายการเมนูอาหาร ซึ่งต้องมีระบบธุรกิจที่เข้มแข็ง ชัดเจนมาก ถึงทำได้ขนาดนี้
นอกเหนือจากการจัดการร้านอาหาร การจัดเมนูอาหาร แล้ว ก็ยังมีการจัดอาหาร การบริการด้านการเสริฟอาหาร ซึ่งมีการจัดการที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต และสำคัญมากสำหรับร้านอาหารในระดับนี้
ผมเห็นแล้วประทับใจมากครับ แสดงว่าในธุรกิจทั่วไปนี้เขาน่าจะมีการจัดการความรู้แบบเข้มข้น และชัดเจน ในทุกส่วนของการจัดการ จึงสามารถที่จะทำธุรกิจที่ใหญ่โตขนาดนี้ได้อย่างมั่นคง ถาวร และเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่อยู่ได้นาน
นี่เป็นเรื่องน่าสนใจด้านการจัดการความรู้ในระบบธุรกิจนะครับ ผมจึงคิดว่า และเชื่อว่าการจัดการความรู้ในประเทศไทย ไม่ใช่ว่ามีแต่ในระบบนักวิชาการเท่านั้น ในระบบธุรกิจเขามีการจัดการความรู้อยู่แล้ว แต่อาจจะไม่แพร่หลายเป็นที่รับรู้กันทั่วไป
ผมจึงคิดว่า เราน่าจะมีวิธีการเก็บเกี่ยวความรู้ด้านนี้เพื่อนำมาจัดการความรู้ในระดับวิชาการเพื่อเป็นการพัฒนาที่แท้จริง ไม่ใช่ว่ามีการพัฒนาแบบคิดว่ามีนักวิชาการเก่งอยู่ฝ่ายเดียว
ผมเห็นชาวบ้านทำ และจริง ๆแล้ว ผมเห็นมานานแล้ว แต่ไม่ค่อยได้คิดในเชิงของการจัดการความรู้ พอมาคิดเรื่องการจัดการความรู้ จึงมองเห็นภาพตรงนี้ชัดเจนมาก
ผมคิดอย่างนั้นนะครับ ท่านอื่นมีความเห็นว่าอย่างไรครับ
ว่าเราจะเอาการจัดการความรู้เหล่านี้เข้าสู่ระบบได้อย่างแท้จริง เพื่อเข้าสู่เป้าหมายของการจัดการความรู้ ทุกหย่อมหญ้า ได้อย่างไรครับ
เราจะทำได้ดีกว่ารายการ "ตามไปดู" หรือ "สู้แล้วรวย" ไหมครับ หรือว่าไกลเกินไป ครับ
ไม่มีความเห็น