วันนี้มีบันทึกเทปของสาขาวิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนดาราคาม โดยเป็นการทดลองใช้แผนการสอนของทางสาขาฯ ซึ้งทดลองใช้กับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 และ 6/2 ระดับชั้นละ 1 ช.ม. โดยมีทีมงานไปด้วยกันทั้งหมด 3 คน คือมีผม กับนางสาวดวงพร โหงทอง นศ. ม.บูรพา(ซึ่งเป็นผู้หญิง) และพี่เลี้ยงอีก 1 คน คือพี่จิโรภาส โชติฉัตรชัย (รุ่นพี่เทคโนฯรุ่น 11) ตลอดการถ่ายทำส่วนใหญ่ก็จะเป็นการตั้งกล้องบนขาตั้ง ซึ่งจะบันทึกเทปยาวไปตลอดเพราะทางสาขาที่มาสอนในคาบนั้นต้องการที่จะนำกลับไปดูข้อบกพร่องของผู้สอนเพื่อไปปรับปรุงให้เหมาะสมกับแผนการเรียนต่อไป
แต่การถ่ายทำนั้นจะสังเกตได้ 1 สิ่งนั้นก็คือการทำงานที่ต้องมีเด็กเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความอดทนและการจัดการที่ดีพอสมควร ถ้าเป็นเด็กโตหน่อยก็ดีไปพอพูดกันรู้เรื่องหรือยังพอที่จะควบคุมได้ แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กละก็จะลำบากสักเล็กน้อย เพราะการถ่ายทำในลักษณะนี้จะมีรูปแบบคล้ายกับรายการสดตรงที่ตลอดการสอนจะทำการบันทึกเทปตลอดไม่มีการ "เทค" หรือถ่ายซ้ำใหม่ในเหตุการณ์เดิม จะต่างกันก็แค่ภาพที่ได้จากการถ่ายทำการสอนนั้น ไม่ได้นำไปออกอากาศซะเดี๋ยวนั้น นั้นก็หมายความว่าภาพที่ได้ไม่ได้มีการเผยแพร่ทันทีแค่บันทึกลงเทปเท่านั้น แต่การบันทึกก็ต้องระวังเพราะไม่ว่ากรณีใดๆจะไม่มีการบันทึกใหม่ หรือเทคกลางครัน
การถ่ายทำในลักษณะนี้ถือว่าเป็นการนอกสถานที่ครับถึงแม้เราจะถ่ายในร่มก็ตาม เพราะคำว่านอกสถานที่นั้นไม่ได้หมายความว่ากลางแจ้งอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่คำว่านอกสถานที่นั้นหมายความว่า การยกกองถ่ายออกไปถ่ายทำนอกสตูดิโอหลัก หรือนอกสถานที่ทำการหลักนั้นเองครับ และการถ่ายทำในลักษณะนี้ผมเองก็ชอบเอามากๆด้วย เพราะว่าได้เปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำ หรือ Location
ไปเรื่อย ๆ ทำให้ไม่น่าเบื่อครับ และยังช่วยฝึกให้เราเป็นคนที่มีความรอบคอบมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการเตรียมอุปกรณ์ก่อนออกกองฯ เพราะถ้าเราออกไปนอกสถานที่ไปแล้วแต่ลืมเทป หรืออะไรสักอย่างที่สำคัญต่อการถ่ายทำนั้นก็หมายความว่าการถ่ายทำครั้งนั้นอาจพังลงได้ ถ้าเป็นของที่หาได้จากร้านค้าทั่วๆไปก็ดีครับ แต่ถ้าลืมแบตเตอรี่ หรือไมค์สัมภาษณ์นี่ละก็ แย่แน่นอน
และในย่อหน้าแรกที่วงเล็บคำว่าผู้หญิงหลังนศ.ฝึกงานม.บูรพา ก็เพราะว่าต้องการที่จะเน้นถึงการทำงานที่ต้องการความยืดหยุ่นหรือความคล่องตัว ในที่นี้หมายถึงการทำงานร่วมกับบุคคลที่เป็นผู้หญิงเพราะการถ่ายทำครั้งนี้ผู้สอนซึ่งเป็นนักวิชาการมาจากสาขาวิทยาศาสตร์นั้นเป็นผู้หญิง ดังนั้นการทำงานที่มีการถึงเนื้อถึงตัวย่อมสะดวกกว่าหากเรามีทีมงานที่เป็นผู้หญิง เช่นการติดไมค์โครโฟนแบบเหนบ รวมไปถึงการซับเหงื่อบนฝบหน้าระหว่างรอการบันทึกเทป เป็นต้น
และนี่ก็เป็นประสบการณ์ทั้งหมดตลอดการฝึกงานในวันนี้ครับ
การกล่าวถึงบุคคลที่ 3 ด้วยการใช้ชื่อ นามสกุลที่ถูกต้อง แสดงว่าเราให้เกียรติบุคคลนั้น เพราะฝึกงานมาด้วยกันพักใหญ่แล้ว แต่ปรากกว่าคุณยังไม่รู้จักชื่อ แสดงว่าคุณไม่เห็นว่าเขาสำคัญ ใช่หรือไม่คะ?