วันที่ 13 ธ.ค.49 ผมทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารแผน คณะที่ 3 กลุ่มบูรณาการสุขภาวะของ สสส. ซึ่งเป็นงานของสำนัก 3 มีคุณหนุ่ม (ณัฐพงษ์ จารุวรรณพงศ์) เป็นผู้อำนวยการ
งานของสำนักนี้พัฒนาขึ้นอย่างน่าชื่นใจ
วาระการประชุมวาระใหญ่ 2 วาระ ช่วยสอนผมอย่างมากมาย และเชื่อว่าน่าจะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับ granting agency ทุกประเภทด้วย โดย granting agency ที่จะได้เรียนรู้มากที่สุดคือ granting agency ที่ให้ทุนแก่กิจกรรมประเภท action (พัฒนา)
วาระใหญ่ 2 วาระนี้ เป็นการพิจารณาโครงการขนาดใหญ่ที่ดำเนินการเป็นเวลา 3 ปี และทำในหลายพื้นที่ เช่น โครงการหนึ่งทำใน 15 จังหวัด
ผมนึกขึ้นได้ว่าการจัดการโครงการแบบนี้ ผู้จัดการของหน่วยให้ทุนมักเผลอใช้ฐานคิดที่ผิดคือ
(1) คิดว่าโครงการในปีที่ 2 & 3 จะเป็นไปตามที่คิดไว้ตอนเสนอโครงการ
(2) คิดว่าการดำเนินการของทั้ง 15 จังหวัดจะราบรื่น และได้ผลดีเหมือนกันหมด
เราตกหลุมวิธีคิดแบบ static และ เหมารวม โดยไม่รู้ตัว
ตอนเจรจาให้ทุนและตอนเขียนสัญญาให้ทุน จะต้องใช้วิธีคิดแบบ dynamic และ แยกแยะ และจะต้องเปิดช่องความยืดหยุ่นใน
สัญญาที่จะดำเนินการในปีที่ 2 - 3 ต่างออกไป หากผลของปีก่อนไม่เป็นไปตามคาดหวัง และเปิดช่องให้ดำเนินการ (สนับสนุน) แต่ละจังหวัดแตกต่างกัน โดยปรับให้เหมาะสมต่อความสำเร็จที่เกิดขึ้นในแต่ละจังหวัด
วิจารณ์ พานิช
14 ธ.ค.49
อาจารย์คะ
ที่อาจารย์กล่าวว่า "ตอนเจรจาให้ทุนและตอนเขียนสัญญาให้ทุน จะต้องใช้วิธีคิดแบบ dynamic และ แยกแยะ และจะต้องเปิดช่องความยืดหยุ่นใน..." นั้น ดิฉันอยากทราบเพิ่มเติมค่ะ วิธีคิดแบบ dynamic และ แยกแยะ ในทัศนะของ สสส. และ อาจารย์นั้น เป็นเช่นไรคะ
ขอบพระคุณค่ะ