ผมชอบเรียนรู้ภาพใหญ่ / ภาพเชิงระบบ ของเรื่องต่างๆ เอาไว้ใช้เป็นกรอบ หรือฐานคิด หรือกระบวนทัศน์ ในการคิด ผมพยายามสอนตัวเองให้รู้จัก mental model หลายๆ แบบ แต่ก็ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ผมไม่ใช่ผู้วิเศษนี่ครับที่จะรู้จะเข้าใจอะไรๆ ไปเสียทุกอย่าง
หลังประชุมสภามหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ ๑๘ ตค. ๔๙ ศ. นพ. สุทัศน์ ฟู่เจริญ เอาหนังสือเล่มโตๆ ๓ เล่ม รวมแล้วหนักหลายกิโล มาให้ บอกว่าเป็นความรู้เชิงภาพใหญ่ เชิงนโยบาย ด้านสาธราณสุข น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของผม จึงเอามามอบให้
เล่มแรกที่ผมพลิกอ่านลงเนื้อความเป็นเรื่อง GBD
GBD ย่อมาจาก Global Burden of Disease เป็นการพัฒนาวิธีมองปัญหาโรคภัยไข้เจ็บแนวใหม่ ที่เกิดขึ้นในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา มองง่ายๆ แบบผม เป็น composite indicators ของปัญหาสุขภาพ หรืออาจจะเรียกว่าดัชนีปัญหาสุขภาพแบบบูรณาการก็น่าจะได้
คือเดิมเรามีแต่ดัชนีแบบแยกส่วน พอมองต่างมุมกันก็ตกลงกันยาก แต่ GBD ช่วยให้มองได้ทีเดียวหลายมุม ตกลงกันง่ายหน่อย แต่ผมว่ามนุษย์เรามีข้อจำกัดนะครับ ไม่มีวันมองอะไรได้ครบทุกมุมในการมองแบบเดียว หรือใช้แว่นอันเดียว
กล่าวอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าหนังสือ Alan D. Lopez, Colin D. Mathers, Majid Ezzati, Dean T. Jamison, and Christopher J. L. Murray (Eds.). Global Burden of Disease and Risk Factors. A Publication of the World Bank and Oxford University Press, 2006. ไม่มีประโยชน์นะครับ หนังสือเล่มนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมความรู้ เกี่ยวกับนวัตกรรมในการมองปัญหา และแก้ไขปัญหาสุขภาพเชิงระบบที่เกิดขึ้นในช่วงเกือบ ๒ ทศวรรษทีเดียว
เดิมเรารู้จักแต่อัตราตาย อัตราป่วย อัตราพิการ จากโรค แต่นักวิจัยด้านสาธารณสุข กลุ่มใหม่นี้ได้คิดดัชนีใหม่ๆ ขึ้นมาใช้ หลักการสำคัญคือไม่ใช่แค่มองที่การเป็นโรค แต่มองทะลุไปถึงผลกระทบ หรือการสูญเสีย ต่อสังคม จากการเป็นโรค
ดัชนีใหม่ๆ ได้แก่
Risk Factors
DALY - Disability-adjusted Life Year
YLD - Year of Life Lost due to Disability
YLL - Year of Life Lost due to Premature Mortality
วิธีคิดว่าโรคใดสำคัญหรือไม่สำคัญมีความซับซ้อนขึ้นมาก ช่วยให้การตัดสินใจเชิงนโยบายด้านสุขภาพ มีลักษณะที่เรียกว่า evidence-based มากขึ้น
วิจารณ์ พานิช
๑๔ ธค. ๔๙
ไม่มีความเห็น