เชื่อมั่นว่าทุกคนคงเคยถูกถามหรือให้เขียนคติพจน์ประจำใจ
และทุกคนก็คงมีคติพจน์ที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจในการทำงานและการดำรงชีวิต
ผมเองก็มีแต่จะมีหลายอันหน่อย ตอนไปออกรายการของคุณมยุรา เศวตศิลา
ทางช่อง 5
ก็ถูกสัมภาษณ์เรื่องนี้เหมือนกันดังนี้
”แท้จริงความลำบากไม่มี มีแต่ความไม่เคยชิน” ได้จากอาจารย์หมอผจญ วงษ์ตระหง่าน อดีตอาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เป็นทั้งครูแพทย์และครูชีวิต
“การทำงานหนักคือดอกไม้ของชีวิต” ได้จากหนังเรื่องหนึ่งที่ได้นำไปฉายให้ชาวบ้านดูขณะออกค่ายที่บ้านแม่ลายเตียนอาง อำเภอฮอด เชียงใหม่
หลักในการบริหารงาน
คุมคนด้วยใจ (จึงไร้ปัญหา)
คุมใจด้วยงาน (จึงไร้ตัณหา)
คุมงานด้วยแผน (จึงเกิดระเบียบ)
คุมแผนด้วยนโยบาย (จึงเกิดระบบ)
คุมนโยบายด้วยคน (จึงมีคุณธรรม)
ได้จากการอ่านหนังสือแต่จำไม่ได้ว่าเล่มไหนแต่ก็ได้ยึดถือในการทำงานเรื่อยมา
“ต้นตรง ปลายตรง”
“จงเป็นดั่งเกลือรักษาความเค็ม”
2 อันนี้เป็นคำสอนของพ่อ(นายทองใบ บัญญัติ) ที่ได้สอนผมตอนอยู่ชั้น ม. 4 ปิดเทอมได้ไปนอนอยู่ในไร่กับพ่อและพอ่อก็ได้สอนในการดำรงชีวิตและเป็นการสอนที่ดูจริงจังที่สุดในชีวิตของพ่อที่มีต่อผมและพอผมอยู่ชั้นปี 4 พ่อก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจมน้ำ แต่สองประโยคนี้ก็อยู่ในจิตสำนึกตลอดเวลา เสมือนกับวันที่พ่อได้พูดให้ฟัง
”รายรับไม่กลัว กลัวรายจ่าย “ เป็นคำสอนของอาจารย์หมอผจญ วงษ์ตระหง่าน
“ฉันเป็นฉันเอง” ได้จากการอ่านหนังสือขวัญเรือนและรู้สึกตรงใจตนเอง โดยเนื้อหาเป็นบทร้อยกรองตามที่เคยนำเสนอไปแล้วครั้งก่อน
หากผู้อ่านท่านใดเห็นว่ามีประโยชน์จะนำไปใช้ก็ไม่หวงครับ เพราะผมไม่ได้คิดเอง ผมก็ยืมของคนอื่นมาใช้เช่นกัน
ไม่มีความเห็น