วันศุกร์สุดสัปดาห์ ตรวจเช็คจากตารางการทำงานแล้ว โล่งอก เฮ้อ! วันนี้ว่างไม่มีประชุม จะได้มีเวลาสะสางงานที่คั่งค้างซะที ..พอเข้า office ได้ทำเป็นหน้าบาน แซวคนนั้นที่ แซวคนนี้ที...แบบว่าโล่งครับ รอฤกษ์งามยามดี สมองปลอดโปร่งแล้วค่อยทำงาน ...
พอได้เวลานั่งทำงานได้ไม่เท่าไหร่...กริ๊งๆๆๆ..เสียงโทรศัพท์ที่ดต๊ะดังขึ้น..ยกหูขึ้นฟังเสียงจากต้นสาย "พี่ว่างมั๊ย ผมเชิญประชุมหน่อยครับ มีเรื่องปรึกษาด่วน".เป็นการเชิญจากทีม HR ของบริษัทในเครืออีกบริษัทหนึ่งที่ผมร่วมประสานงานในการพัฒนาพนักงาน .โอ้พระเจ้า..เอาอีกแล้วหรือ..แล้วงานก็ได้ทำตามเคย..(นึกสมน้ำหน้าตัวเอง)...เล่นอยู่ตั้งนาน...งานไม่ยอมทำ....ถึงเวลาจะทำเลยไม่ได้ทำ..
พอเข้าไปในห้องที่เขาประชุมกันอยู่ก่อนแล้ว....ประเด็นที่..ในที่ประชุมต้องการหารือกับผมก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอกครับ ก็คงเป็นเรื่องที่ผมเคยพาพนักงานไปเรียนรู้ กับชุมชนไม่ว่าจะเป็นที่ "มหาชีวาลัยอีสาน ของท่านครูบาสุทธินันท์" "ที่มูลนิธิข้าวขวัญ" "ที่ชุมชนแพรกหนามแดง" "คุณมาร์ติน วิลเลอร์" บ้าง...คำถามที่ผมได้รับจากที่ประชุมเป้นคำถามแรก ก็คือ " จุดประสงค์ที่พาพนักงานไปอบรมกับชุมชนต่างๆเพื่ออะไร" ...ผมก็ตอบไปว่า " เพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของพนักงาน....." ผมตอบมากกว่านี้อีกหลายประเด็นครับ..
สรุปแล้วที่ประชุมยอมรับแนวคิดการพัฒนาพนักงานที่ต้องเปิดมุมมองให้กว้าง ไม่ยึดติด เรียนรู้ที่ไหนก็ได้ การที่ไปเรียนกับชุมชนทำให้พนักงานได้เห็นมุมมองอีกมิติหนึ่ง เพราะคนทำงานในภาคอุตสาหกรรม หากมองแต่ภาคอุตสาหกรรม ก็จะเห็นอยู่มุมเดียว แต่ลองไปมองภาคเกษตรกรรม ดูบ้างว่าเขาคิดอย่างไร เขาเรียนรู้อย่างไร แล้วนำมาปรับใช้ เพราะปัจจุบันนี้ภาคเหษตรกรรมของไทยเราไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ มีการเรียนรู้พัฒนากันอย่างต่อเนื่อง หากมองแล้วก็ไม่ต่างไปจากภาคอุตสาหกรรมเลย การเรียนรู้กับชุมชน ก่อให้เกิดสายใยแห่งความสัมพันธ์อย่างมากมาย..สายสัมพันธ์ที่ยั่งยืน...เราจึงเป็นทั้งผู้รับคือได้แนวคิดและมุมมองใหม่ๆกลับมา แต่ในส่วนหนึ่งเราได้สร้างพลังและกำลังใจให้กับชุมชนอีกด้วย...
สุดท้ายแล้ว.....ผมออกจากห้องประชุม มาแบบชนิดที่ว่าแทบไม่มีแรงจะเดิน...ไม่ใช่อะไรหรอกครับเนื่องจากผมต้องแบกงานออกจากห้องประชุม..เพราะว่าในที่ประชุมเห็นด้วยกับวิธีการที่ทำมา จึงมอบหมายให้ออกแบบ หลักสูตรการพัฒนาพนักงานโดยให้ไปเรียนรู้จากชุมชน อีก 4 รุ่นในปีหน้า...โธ่! งานเก่าก็ยังไม่ได้ทำ ต้องแบกงานใหม่ไปอีกแล้วหรือ ...นี่แหละครับเสน่ห์ของการเรียนรู้จาก ชุมชนซึ่งเป็นแหล่งที่มากด้วยภูมิปัญญาของสังคมไทย...
ขอบคุณอาจารย์ ขจิต มากครับ
ขอบคุณครับ คุณสิงห์ป่าสัก