การพูดแบบ Making Small Talk(1)


บางครั้งในการสนทนาเรามักนิยมพูดแบบสั้นแล้วได้ใจความ ซึ่งในชีวิตจริงเราต้องพูดแบบนั้นเสียแล้ว

มีอยู่เหตุผลหนึ่งที่ผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษมานานหลายปี  แต่ยังพูดภาษาอังกฤษยังไม่คล่อง  และยังไม่มีความมั่นใจในการพูด  เมื่อจะพูดทีไรก็เกร็งที่จะพูดแบบที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์  ซึ่งอันที่แท้จริงนั้น  เราพูดสั้นๆก็มีความหมายและใช้ได้แล้ว

ครั้งที่แล้วครูอ้อยเขียนบันทึกเรื่อง  คุ้นๆเหมือนรู้จักกันมาก่อน ในกรณีที่คลับคล้ายคลากับคนหนึ่งที่พบเห็นว่า  รู้จักกันมาก่อน  จะพูดอย่างไรนั้น   มาคราวนี้  จะพูดอย่างไรให้สั้นกระทัดรัด  แต่มีความหมาย

ทักทายและชวนเพื่อนพูด  เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งในการสนทนา  เช่น  เรารู้ว่าเพื่อนเล่นกอล์ฟ  เราถามเลยว่า  I hear you like golf.  ซึ่งนั่นเราน่าจะพูดแบบยาวๆว่า  Do you play golf?  หรือยาวกว่านั้นว่า  Do you like to go to play golf ?  เราพูดสั้นๆไปเลยดีกว่า  ว่า  I hear you like golf.

ส่วนการตอบการสนทนาแบบนี้  หากชอบก็ตอบว่า  Yes,I do.I love golf.  หรืออาจจะบอกความถี่ของการกระทำนั้น เช่น  All the time. หรือ Whenever I can  หรือ  Sometimes.  เหล่านี้เป้นต้น

บางคนไม่กล้าที่จะพูดต่อเติม  เมื่อเพื่อนถาม  Do you play golf?  ก็อาจจะตอบว่า  Yes, I do.  แค่นั้นเอง  ซึ่งความจริงแล้ว เราพูดให้ยาวกว่านั้นก็ได้

หรือเราอยากจะตอบปฏิเสธว่า  เราเล่นกอล์ฟไม่เป็น  เราก็ตอบว่า  No, I don't.  หรือบอกความถี่ไปเลยว่า  Never.  หรือ  I'm afraid I don't.

ในการพูดนั้น  หากเราพูดออกมาจากใจ  จากความรู้สึก  หมั่นท่องให้คล่องปาก  ไม่ใช่ท่องแต่คำว่า  Yes.  หรือ  No.

มีอะไรหลายสิ่งหลายอย่างที่เราจะสามารถถามเพื่อนได้  ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ควรจะรู้ว่าคนเราทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง  เช่น.....go to concert?  อาจจะถามว่า  What kind of concert?  หรืออาจจะถามให้ลึกกว่านั้น  เช่น  Who's your favorite performer?  เป็นต้น

หรืออาจจะถามเรื่องการกินอาหาร.....like to eat out?  ถามว่า  What's your favorite restaurant?  หรือ  What's your favorite food? 

เพื่อนผู้ชายอาจจะถามเรื่องกีฬาว่า.....watch baseball?  What's your favorite team?  หรือ What's your favorite player?

ถามเรื่องการเล่นกีฬา  .....play any sports?  ถามว่า  Which one do you play?  หรือ  Which one do you like best?  เป็นต้น

ถามการไปดูภาพยนตร์  ....like to go to the movies?. ซึ่งทั้งหมดหมายความว่า  ถ้าถามคำถามแรกเพื่อนตอบ Yes.  จึงจะรุกถามคำถามที่สอง  เท่านี้ก็ทำความคุ้นเคยกันได้แล้ว

คำถามเหล่านี้  เป้นคำถามกับเพื่อนที่ค่อนข้างจะสนิทสนมแล้ว  ไม่ใช่การทักทายในการเริ่มต้นที่รู้จักกัน  แต่ก็ควรที่จะชวนให้เพื่อนพูดด้วย

คงไม่ยากเกินไป....

 

หมายเลขบันทึก: 67076เขียนเมื่อ 14 ธันวาคม 2006 00:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2014 15:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
คุณครูอ้อย เริ่มอะไรดีๆอีกแล้วค่ะ แบบนี้ไม่ใช่เหมาะกับเด็กอย่างเดียวนะคะ ผู้ใหญ่ก็จำไปใช้ได้ เป็นตัวอย่างที่ใช้ได้จริงๆในชีวิตประจำวัน แล้วแถมยังทำให้ได้ฝึกฝนสิ่งที่ใช้ได้จริงจนง่ายที่จะใช้และต่อยอดไปเรื่องอื่นๆ ดีมากๆค่ะครูอ้อย ขอชื่นชม

สวัสดีค่ะคุณโอ๋

  • ครูอ้อยเขินเลยค่ะ
  • ก็ทำไปเรื่อยๆ   คิดอะไรได้ก็ทำไปค่ะ
  • บางทีเขารู้แล้วก็ผ่านเลยไป  หากไม่รู้ก็อ่านมากๆ  ก็จบค่ะ

ขอบคุณจริงๆค่ะ

คือหนูเีรียนภาษาอังกฤษไม่เก่งเลยอ่า

อยากมีคนช่วยสอนจัง~~

หนูไม่รู้ตัวเองว่าชอบเรียนภาษานี้หรือไม่

แต่ในใจหนูคิดว่าอยากจะเรียนค่ะ

เพราะมันคงจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

หนูอายุ15เองค่ะ เรียนภาษานี้ตั้งแต่เข้าโรงเรียนมา

แต่ยังไงก้อเรียนไม่รู้เรื่องสักที

**ใครก้อได้ช่วยหนูที**

สวัสดีค่ะ น้อง InK'' [IP: 124.122.36.76]

  • การเรียนภาษาอังกฤษ ให้ได้ดี ต้องมีความหมั่นเพียร ด้วยตนเอง และ มีครูสอนด้วยค่ะ  ประกอบการอ่านมากรู้มากด้วยค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท