บ่ายแก่ ๆ วันนี้ แม่จำเลียง จูงมือพ่อดอกมะลิ มาพบผู้พิทักษ์หมู่บ้าน เอ๊ย ไม่ใช่ค่ะ มั่วตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว
บ่ายแก่ ๆ วันนี้ ในขณะที่ดิฉันกำลังตั้งหน้าตั้งตา ถอดเทป การประเมินคุณภาพโดยกรรมการจาก สมศ.อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงดังแว่ว ๆ เรียกชื่อตัวเอง"คุณรัตติยา" ดิฉันผละออกจากภารกิจที่ทำอยู่ทันที แวบแรกที่ช้อนสายตาขึ้นมองไปทางเสียงที่แว่วมา ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนสายตาสั้น และขณะนั้น ไม่ได้สวมแว่น จึงมองเห็นเพียงลาง ๆ ว่ามีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินเคียงคู่กันมาประดุจดั่งคู่บ่าวสาวจูงมือกันมาแจกการ์ดแต่งงานก็มิปาน
แต่เอ๊ะ เมื่อใกล้พอที่สายตาดิฉันเริ่ม focus ภาพได้ จึงเห็นว่า หนุ่มสาวคู่นั้น ก็คือ M 1 (เมตตา) กะ M2 (คุณไมโต) เดินเคียงคู่กัน ขอย้ำ ไม่ได้จูงมือกันมานะคะ เดินเคียงคู่กันมา แวบแรกที่เริ่ม focus ภาพได้ ใจมันสั่น ๆ ๆ โดยไม่รู้ตัว ว้าว วาว .......
คุณไมโต คุณไมโต จริง ๆ ด้วย ดิฉันไม่ได้ตาฝาดไป ที่สำคัญ นอกจากหัวใจจะรู้สึกพองโตแล้ว สายตายังพองโตด้วย เพราะในมือของคุณไมโตถือของฝากมาด้วย (ขอบอก ไม่ได้งกค่ะ ย้ำ ไม่ได้งกกกกกกกกก) ดิฉันต้องระงับอาการดังกล่าว ไม่ให้แสดงออกมามากเกินไปจนเกินงาม แต่คำแรกที่ทักทายคุณไมโตหลังจากที่ยกมือไหว้(ของฝาก) แล้ว คือ "เราจะกอดกันได้ไหมเนี่ย" ดูท่าคุณไมโต แกคงจะตกใจในคำทักทายของดิฉัน จึงอึ้งไปชั่วขณะ (อิ อิ ถ้าไม่เกรงใจว่าหวานใจพ่อดอกมะลิอยู่ใกล้เหลือเกิน ดิฉันคงทำตามใจปรารถนาไปแล้ว)
หลังจากเรียกสติตัวเองกลับคืนมา เราสามคน ใจสามใจ ก็ได้ย้ายนิวาสถานไปนั่ง H2H กัน ณ ลานกาแฟ ข้าง ๆ สำนักงานของดิฉัน เราต่างสั่งเครื่องดื่มและลูกชิ้นทอดมานั่งทานกัน ด้วยความเป็นคนชักช้าของดิฉัน งานนี้คุณไมโต เลยต้องเป็นคนจ่าย (อิ อิ เป็นไปตามแผนที่วางไว้)
ระหว่างที่นั่งละเมียดละไมดื่มกาแฟ(ที่จืดที่สุดในโลกตามคำกล่าวของคุณเมตตา) แล้วช่วงจังหวะระหว่างรอไม้จิ้ม เสียบลูกชิ้นเข้าปาก แน่นอนว่า เราทั้งสาม ต่างไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เราต่างคนต่างคุย คุย คุยและคุย
เชื่อไหมค่ะว่าเราสามคนใช้เวลาตักตวงความสุขประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมง ก็ตกลงปลงใจว่าควรยุติการสนทนาซะทีก่อนที่จะยืดเยื้อไปกว่านี้ แล้วต่างคนต่างแยกย้ายไปทำภารกิจของตัวเอง ดิฉัน และคุณเมตตา ต่างกลับสำนักงานเพื่อเคลียร์งานที่คั่งค้าง ส่วนพ่อดอกมะลิ เอ๊ย คุณไมโต คงแวะโรงช้าง เพื่อไปจัดการธุระสำคัญที่คนปลายสายสั่งไว้ (แล้วไม่ทำไม่ได้)
ถึงแม้ว่าเวลาแห่ง F2F ของเราสามคนจะจบลงแล้วในวันนี้ แต่เชื่อแน่ว่า เวลาแห่ง H2H ของเราสามคน ยังคงอยู่(ในใจ)ตลอดไปค่ะ
อ้อ จันทร์หน้า สองทุ่มครึ่ง เราและเราๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มีนัดกันหน้าจอ ช่อง 3 ค่ะ
ผู้ร่วมชะตากรรมอีก 2 ท่าน จะเสริมเติมแต่งเพิ่มเติม ยินดีนะคะ เผื่อบางทีอาจทำให้หลาย ๆ คน อิจฉาพวกเรามากขึ้น อิ อิ
ไม่ต้องบอกก้อรู้ว่าคือใคร
ใครเอ่ย
อาหารจะอร่อยหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ว่ากินอะไร แต่อยู่ที่ว่า กินกับใคร
ยืนยันว่าของฝากถึงมือหลาน ๆ แล้วค่ะ
อ้ำ อาหย่อย
คุณเมตตา
H2H คือ Heart to Heart ใจถึงใจ ค่ะ
อ่านแล้วหัวเราะ ขำมากครับ...
พี่รัตติยามีอารมณ์ขันมากเลยนะครับ...ทำให้บรรยากาศมิตรภาพกรุ่นความสุขถึงแม่ฮ่องสอนเลย
ฝากความระลึกถึงคน มอ. ด้วยหลายท่านที่ใกล้ๆพี่รัตติยาครับ
คุยเก่งทั้งสามคน
แล้วใครเป็นคนฟังคะเนี่ย....
คุณรัตติยา ดูที่นี่ด้วยค่ะ
http://gotoknow.org/ask/rattiya/2282
ขอใช้สิทฺธิ์พาดพิงครับ
แอบนินทาเราหรอขี้โกงอะ
แต่พี่แป๊ดเก่งนะคะ เห็นแต่ไกลก็รู้ว่าใคร สำหรับแป้นเมื่อวานคุณไมโตมายืนหน้าโต๊ะด้วยซ้ำยังไม่รู้เลยว่าใคร จนพี่จิ๊บต้องถามว่า "แป้นทายซิว่าใคร" แป้นยังต้องระลึกชาติอยู่ตั่งนานกว่าจะนึกออกว่าเป็นใคร
นับถือ นับถือ
อ้อ ลืมไปอีกอย่าง มัวแต่นินทาเราและคนอื่นๆ ทำให้ท่านหัวหน้าลืมซื้อลูกชิ้นมาฝากลูกน้องเลย ฮือ ฮือ!
เห็นแล้วน้ำยายหก :)
หนูแป้น จ๋า
หนูแป้น
หนุกหนานค่ะ..คุณรัตติยา
คุณไมโต คะ
คุณกฤษณา ค่ะ
คุณโอ๋
บันทึกนี้ ดิฉันใช้เวลานึกและพิมพ์ไม่เกิน 15 นาที เองมั๊งค่ะ สมอง ใจ และ มือ มันสั่งงานพร้อมกันเลยค่ะ
คุณnidnoi
จริง ๆ วันนั้น นึกถึงคุณ nidnoi นะคะ เพราะถ้าคุณ nidnoi อยู่ด้วยคงเป็นผู้ฟังที่ดี
คุณจตุพร
แล้วพี่จะส่งความระลึกถึงของคุณจตุพร ไปให้พี่ ๆ blogger ใน มอ.นะคะ
ครุนงเมืองคอน ค่ะ
ยังไงถ้าจะตั้งก๊วน อย่าลืมชวนดิฉันด้วยนะคะ เพราะดิฉันเองก็เป็นสะใภ้เมืองคอน ค่ะ
โอ๋ๆๆๆๆๆๆ
อย่างอนเลยน้า
รักกัน รักกัน