หลายคนคงได้ทราบรายละเอียดจากในห้องบ้างแล้วจึงขออนุญาติเพิ่มเติม ข้อคิด วลี และสิ่งที่สำคัญ ที่เก็บได้แล้วกันค่ะ ว่าในวันนั้นเราพูดถึงอะไรกันบ้าง เป็นคำคม คำคน ที่ท่านวิทยากรและผู้แลกเปลี่ยน ได้สนทนากันค่ะ
- การจัดการความรู้เป็นเรื่องของแนวคิด และวิธีคิด นำไปสู่ เทคนิค ไม่ใช่ทำ KM เพื่อ KM ดังนั้นการสอนโดยตรงอาจจะมองไม่เห็น
- ถ้าเราเห็นแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงเป็นดอกไม้ KM เป็นกิ่งไม้ที่จะชูขึ้นไป เป็นเครื่องมือ
- วิจัยในลักษณะ KM นั้นถ้าท่านไม่มีจิตวิญญาณเพื่อผู้อื่นแล้วท่านอย่าทำเลย สังเกตนักKM แล้วจิตผิดปรกติมนุษย์ธรรมดา ไม่ค่อยมองตัวเองเป็นตัวตั้ง
- นัก KM นี่เป็นผู้ช่วยชาติช่วยสังคม ทำด้วยจิตใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นก็จะได้อานิสงค์
- ทำ KM ต้องเชื่อในความสามารถของทุกคน ทุกคนมีศักยภาพ และมีความคิด
- อันไหนที่คิดว่าดีแล้ว ให้ทำเลย learning by doing ให้ทันการต้อง development แล้วค่อย research หรือพัฒนาทฤษฏีจาก ground theory
- KM เปลี่ยนตัวเองก่อนก็พอแล้ว จากนั้นเป็นบัดดี้เปลี่ยนกัน และเป็นกลุ่มใหญ่อาจค่อนข้างยาก
- ทำ KM ไม่ใช่เพื่อบอกว่าโมเดลนี้ดี นี้สำคัญมาก เอาทฤษฎีไปใช้แก้ปัญหาตอบโจทย์ เกิดมุมมองใหม่
- การนำวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ไปพัฒนาชุมชน ให้เขาเป็นผู้ริเริ่มเพื่อเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แทนที่ความรู้เดิม
- จึงไม่จำเป็นต้องทำ thesis ในคณะเพื่อทำ KM แต่เอา KM ไปใช้เพื่อถอดบทเรียน เป็นกรอบวิธีคิดก็ได้
- ต้องการโมเดลที่หลากหลาย เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าอยู่ที่ใดที่หนึ่งเปิดเข้าไปคลิกเลือกโมเดลที่เหมาะสม มาใช้เลย เหมือน Cook Book แต่กว่าจะเป็นอย่างนี้ได้คงต้องการวิทยานิพนธ์ที่ How to (learning by doing)---> Model---> Apply อย่างมากมายทีเดียว
- กระบวนการ KM นั้น Leader สำคัญมากๆ
- ถ้าจะจัดการความรู้อย่าไปมองที่คำ ให้มองที่วิธีคิด วิธีการ ว่าชุมชนคิดอย่างไร
- ทำอย่างไรจะเอาวิชาการไปใช้กับเขาโดยไม่รู้ตัว แล้วเขาก็เริ่มรู้จักกระบวนการมากขึ้น โดยไม่ได้บอกว่านี่คือ KM และเริ่มเป็นไปตามธรรมชาติมากขึ้น
- ถ้าเราทำอะไรเพื่อคนอื่นเขาก็จะเห็นความตั้งใจ
-
ปีนี้เพิ่มเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเข้าไปใน KM ด้วยนักKM ต้องปรับตัว